- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 30 November 2016 23:55
- Hits: 12432
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้'ต่างชาติ+กองทุนทิ่ง หลุด 1,500 จุด'
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ได้รับแรงกดดันจากการขายหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศที่กลับมาขายสุทธิกว่า 3,000 ล้านบาท โดยมีแรงขายออกมามากในหุ้นกลุ่มอาหาร (-1.2%) หลังมีปัจจัยลบเรื่องไข้หวัดนกที่ทวีปยุโรป และหุ้นในกลุ่มพลังงาน (-0.4%) ที่มีแรงขายออกมาเพื่อรอผลการประชุมโอเปคในวันนี้ (30 พ.ย.) แม้ว่าหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างยังคงเดินหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ต่อเนื่องหลังมีความคืบหน้างานรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสีชมพูที่มีการเปิดซองด้านผลตอบแทนตามกำหนด (ก่อนจะประกาศผลได้ในช่วงเดือน ธ.ค.) ซึ่งจากแรงขายข้างต้นทำให้ปิดตลาดดัชนีปรับตัวลดลง 3.60 จุด (-0.24%) มาอยู่ที่ 1,497.18 จุด ด้วยปริมาณซื้อขายที่ระดับ 49,000.47 ล้านบาทปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(-) ราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงราว 3.9% Day มาปิดที่ 45.23 US/Barrel เนื่องจากนักลงทุนไม่มั่นใจว่าการประชุม OPEC ในวันนี้ จะได้ตกลงเรื่องลดกำลังการผลิตได้ หลังจากรัสเซียถอนตัวไม่เข้าร่วมประชุม (-) ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของยุโรปเดือน พ.ย. อยู่ที่ 0.42 (ต่ำกว่าที่คาดไว้ทึ่ 0.57 จุด)
(+) ธปท. จะจัดตั้งศูนย์กลางจัดการหนี้ไร้หลักประกัน สินเชื่อบัตรเครดิต, สินเชื่อบุคคล (มองเป็นบวกต่อกลุ่มธนาคารฯ ทำให้ NPL ลดลง)
(+) วานนี้ที่ประชุม ครม. อนุมัติงบกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปี ผ่านมาตรการภาษีสนับสนุนการท่องเที่ยว โดยให้นำค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวในประเทศช่วง 1ม.ค.-31 ธ.ค. 59 มาหักลดหย่อนภาษีได้ตามจริงแต่ไม่เกิน 3 หมื่นบาท (บวกต่อกลุ่มโรงแรม CENTEL, MINT, สายการบิน THAI, AAV, BA,)
(+) ตัวเลขประมาณการ GDP 3Q59 ของสหรัฐฯ ครั้งที่ 2 อยู่ที่ 3.2% สูงกว่าครั้งแรกที่คาดไว้ 2.9% และมากกว่าที่นวค. คาดไว้ที่ 3%
(+) ดัชนีราคาบ้านสหรัฐ เดือน ก.ย. +5.5%YoY สูงสุดในรอบ 10 ปี
(+) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ เดือน พ.ย. สูง 107.1 จุด ดีกว่าที่ นวค. คาดไว้ที่ 101.2 จุด
(+) รฟม.เปิดซองคุณสมบัติรถไฟฟ้าชมพู-เหลือง พบกิจการร่วมค่าบีเอสอาร์ (BTS+STEC+RATCH) และ BEM ผ่านเกณฑ์ คาดเม.ย.60เซ็นสัญญา
(+) ธ.กสิกรประกาศปีหน้าเตรียมงบลงทุนพัฒนา IT, Digital Banking 5 พันลบ. (บวกต่อกลุ่มวางระบบภาคเอกชน PT, MFEC)
(+) โครงการอินเทอร์เน็ตหมู่บ้านวงเงิน 1.3 หมื่นลบ. คาดส่งให้ ครม. อนุมัติสัปดาห์หน้า และคาดว่าจะเริ่มโครงการได้ในเดือนธ.ค. 59 (คาดบวกต่อกลุ่มวางระบบ IT ภาครัฐ AIT, SAMTEL, SAMART, INET เป็นต้น)
(+/-) จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาแข็งแกร่งทำให้ตลาดคาดว่าการประชุม FED รอบเดือน ธ.ค. จะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งกดดันให้ราคาทองคำลดลง, ค่าเงิน USD แข็งค่า และ Bond Yield เพิ่มสูงขึ้น
(+/-) อัตราการว่างงานญี่ปุ่นเดือน ต.ค. อยู่ที่ 3% (ตามที่ตลาดคาด) และอัตราเงินเฟ้อเยอรมันเดือน พ.ย. อยู่ที่ 0.8%YoY (ตามที่ตลาดคาด)ปัจจัยที่ต้องติดตาม “ซึมๆ
ประเมินดัชนีวันนี้มีแนวโน้มปรับตัวลดลง เรามองว่าความกังวลต่อผลประชุม OPEC จะทำให้หุ้นกลุ่ม Energy มีแรงขายกดดัน แนะนำเก็งกำไรหุ้นกลุ่ม Domestic Play โดยเน้นกลุ่มที่มีปัจจัยหนุนเด่น เช่นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากมาตรการลดหย่อนภาษี กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการใช้จ่ายภายในประเทศที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปี
สำหรับ กลุ่มที่มีความเกี่ยวข้องกับราคาน้ำมัน เราแนะนำรอความชัดเจนการประชุม OPEC โดยยังมองบวกต่อแนวโน้มราคาน้ำมันในปี 60 แม้ว่าจะไม่มีการลดกำลังผลิตจากฝั่ง OPEC แต่ในระยะสั้นมีความเสี่ยงที่จะโดน Sentiment การเก็งกำไรกดดันหุ้นเด่นประเด็นร้อน MINT เก็งกำไร
ครม. อนุมัติงบกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปี ผ่านมาตรการภาษีสนับสนุนการท่องเที่ยว ได้รับสิทธิ์จากบริษัทแม่ในการขยายตลาดเบอร์เกอร์คิงในเมียนมา
เปิดเย็นตาโฟร์เครื่องทรง โดย อ.มัลลิการ์ สาขาแรกที่สิงคโปร์MAJOR เก็งกำไร Flickz รายงาน Fantastic Beast ทำรายได้รวม 118 ล้านบาท มีแผนขยายโรงภาพยนตร์เพิ่มเป็น 1,000 โรงภายในปี 63 หนังช่วงปลายปีที่คาดว่าจะทำเงินใน 4Q59 Fantastic Beasts and Where to Find them , Your Name ,Rogue one, พรจากฟ้า,Moana