WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

FSS copyบล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

          Today's Report : CENTEL, TK

          Our Portfolio Nov 2016 : BEM, EKH, KTC, PDG, ROBINS

SET ปรับพักตัวแต่คาดกรอบลบจำกัด และลุ้นขึ้นได้อีก จึงแนะนำถือต่อ

          ตลาดหุ้นวานนี้ : SET เริ่มปรับพักตัวลงมาเคลื่อนไหวแดนลบในภาคบ่าย หลังจากช่วงเช้าขยับบวกขึ้นไปต่อได้ก่อน แต่กรอบบวกยังแคบและผันผวนต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้ดัชนีก็ขยับขึ้นมาพอควรแล้ว ขณะที่ค่าเงินบาทกลับไปอ่อนค่าลง หลังจากแข็งค่าขึ้นมาบ้างในช่วง 3 วันที่ผ่านมา โดยคาดว่านักลงทุนบางส่วนยังรอติดตามผลประชุมโอเปกในวันที่ 30 พ.ย.นี้อีกครั้งด้วย

          แนวโน้มตลาดวันนี้ : เมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปส่วนใหญ่พลิกกลับมาปิดบวกอีกครั้งแม้ว่ากรอบบวกจะค่อนข้างแคบ โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยตัวเลข GDP ไตรมาส 3 ของสหรัฐที่ขยายตัวแข็งแกร่งสุดในรอบ 2 ปี และราคาบ้านก็พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 10 ปีด้วย แต่ยังถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวลงถึงเกือบ 4% จากการที่รัสเซียซึ่งไม่ได้อยู่ในกลุ่มโอเปก ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมประชุม เพราะต้องการให้กลุ่มโอเปกได้ร่วมหารือกันเสียก่อน ทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจกับผลประชุมของโอเปกในวันนี้มากนัก ดังนั้นแม้ว่าตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้จะเปิดเป็นบวกก่อนได้ แต่ส่วนใหญ่ก็เคลื่อนไหวในกรอบแคบเช่นกัน ทำให้ FSS คาดว่า SET มีสิทธิที่จะแกว่งบวก-ลบกรอบแคบด้วย เพื่อรอลุ้นผลประชุมโอเปกในวันนี้อีกครั้ง

          กลยุทธ์ : เนื่องจาก FSS ยังคาดว่า SET จะพักตัวในกรอบจำกัด และลุ้นขึ้นต่อได้อีกตามคาดเดิม จึงแนะนำเลือกหุ้นซื้อช่วงลบ แล้วเน้นถือเพื่อรอขายสูง

          แนวรับ  1494-1492 , 1490-1487 จุด 

          แนวต้าน  1500-1505 , 1507-1513 จุด

          หุ้นเด่นทางเทคนิค : ITD , TSE , CBG(buy back)

          Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$217ล้าน เม็ดเงินไหลเข้าเกาหลีใต้ประเทศเดียวเกือบ US$400ล้าน ขณะที่ไหลออกจากไทย US$85ล้าน อินโดนีเซีย US$63ล้าน และฟิลิปปินส์ US$28ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางผันผวนต่อไป ค่าเงินดอลลาร์ที่ยังคงแข็งค่าทำให้ fund flow กลับมาลงทุนในภูมิภาคยากขึ้น วันนี้ติดตามการประชุมโอเปก (ไทยรู้ผลพรุ่งนี้เช้า) และการลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญของอิตาลีในสุดสัปดาห์นี้

ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น

          (+) มาตรการช้อปช่วยชาติแค่เลื่อน ไม่ได้ยกเลิก เราจึงยังมองบวกต่อกลุ่มค้าปลีกเพียงแต่ราคาหุ้นที่ขึ้นไปรอ อาจถูกขายทำกำไรระยะสั้น การอ่อนตัวยังเป็นโอกาสสะสมรับการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศในปีหน้า (ระวัง BJC ที่ MSCI มีผลวันนี้) ส่วนมาตรการภาษีกระตุ้นท่องเที่ยว เป็นบวกกับกลุ่มโรงแรม (MINT, CENTEL)

          (+) ข่าวดีมากต่อกลุ่มไก่ ดีทั้งต่อ Demand และ Supply ทำให้ล่าสุดราคาไก่ปรับขึ้น 1 บาท เป็น 34 บาท/กก. หลังจากนิ่งที่ 33 บาท/กก.มา 5 สัปดาห์ ทั้งนี้ ทางตอนเหนือของญี่ปุ่นเกิดไข้หวัดนก H5N8 มีการฆ่าไก่ไปหลายแสนตัว น่าจะมีการนำเข้าไก่จากไทยเพื่อทดแทน Supply ที่ลดลง และไข้หวัดนก H5N8 ได้ระบาดในยุโรป รวมถึงเนเธอแลนด์ ล่าสุดทำลายเป็ดเกือบสองแสนตัว (เลบต่อ BR เพราะมีฐานการเลี้ยงเป็ดที่เนเธอร์แลนด์ อาจทำให้ Demand ลดลงเพราะคนกลัวไข้หวัดนก) หากลามไปที่ไก่ อาจทำให้ไทยนำเข้าไก่พ่อแม่พันธุ์จากเนเธอร์แลนด์ลดลง ทำให้ Supply ไก่ในไทยลดลงในปีหน้าซึ่งดีต่อราคาไก่ เก็งกำไร CPF (ราคาพื้นฐาน 38 บาท) และ GFPT (ราคาพื้นฐาน 17.7 บาท) แต่แนะนำขาย TFG ที่ราคาแพงกว่าพื้นฐานมากและ MSCI มีผลวันนี้

          (+) AOT กำไรสุทธิ 4Q16 (ก.ค.-ก.ย.16) -26% Y-Y เพราะไม่มีรายการพิเศษ แต่กำไรปกติยังแกร่งตามคาด +41% Y-Y และประกาศจ่ายปันผล 6.83 บาท/หุ้น Yield 1.8% XD 8 ธ.ค. และเตรียมแตกพาร์จาก 10 บาทเป็น 1 บาท เรายังแนะนำซื้อ กำไรยังโตต่อเนื่องในระยะยาว ราคาพื้นฐาน 470 บาท

          (+) CENTEL เรามีมุมมองเป็นลบเล็กน้อยต่อ Guidance ของผู้บริหารในปี 2017 ที่มองการเติบโตของธุรกิจอาหารและธุรกิจโรงแรมต่ำกว่าประมาณการของเรา สะท้อนการแข่งขันที่สูงขึ้น และการที่ CENTEL ยังไม่มีการลงทุนขนาดใหญ่เร็วๆนี้แจะจำกัดการเติบโตในระยะยาว กำไรปกติปี 2016-17 ที่เราคาด +7% Y-Y และ +11.5% Y-Y อาจมี downside เล็กน้อย 5-8% แต่ยังซื้อได้ ราคาพื้นฐาน 46 บาท 

          (0) TK เราคงคำแนะนำถือ เพราะขาดปัจจัยบวกกระตุ้นราคาหุ้นในระยะสั้น-กลาง กำไร 4Q16 เราคาดทรงตัว Q-Q, -15% Y-Y จากการซื้อขายรถจักรยานยนต์ที่ซบเซาในเดือน ต.ค. แม้จะฟื้นได้ใน 2 เดือนสุดท้ายของปีแต่คาดสินเชื่อปีนี้โตต่ำกว่าเป้า สำหรับปี 2017 สินเชื่อรถยนต์และรถจักรยานยนต์จะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป เรายังคงราคาพื้นฐาน 12 บาท มีหุ้นในกลุ่มที่มี Story เด่นกว่า เช่น KTC, LIT, MTLS 

          (-) GL IFA เห็นว่าผู้ถือหุ้นไม่ควรอนุมัติให้ GL ลงทุนในธุรกิจในศรีลังกาและเมียนมาร์เพราะราคาซื้อสูงกว่าราคาประเมินถึง 51-60% และไม่ควรอนุมัติให้ออกหุ้นกู้แปลงสภาพให้ธุรกิจในศรีลังกาเพราะราคาหุ้นกู้ต่ำกว่าราคาประเมิน 16-17% การประชุมผู้ถือหุ้นจะมีในวัที่ 6 ธ.ค.นี้ หากรายการดังกล่าวไม่ได้รับการอนุมัติ จะกระทบประมาณการรายได้และกำไรสุทธิปี 2017 ราว 8.5% และ 11% ตามลำดับ ราคาเป้าหมายจะลดลงเหลือ 42 บาทจากเดิม 48 บาท แม้ผู้ถือหุ้นอนุมัติ ราคาปัจจุบันก็เต็มมูลค่าแล้ว แนะนำขาย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!