WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

KTB copyบล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily

 

ภาพตลาดวันวาน
  ดัชนีเปิดตลาดทรงตัวยืนบวกได้เล็กน้อย พร้อมกับแกว่งตัวผันผวนในกรอบแคบ ๆ สลับขึ้นลงยืนทั้งแดนบวกและลบ มีจุดสูงสุดของวันที่ 1505.48 จุด เพิ่มขึ้น 5.08 จุด ขณะที่จุดต่ำสุดที่ 1498.93 จุด ลดลง 1.47 จุด ทำให้มีกรอบการเคลื่อนไหวทั้งวันที่ 6.55 จุด ซึ่งเป็นแรงต้านกันระหว่างซื้อ-ขายในกลุ่มหลัก ๆ อย่างกลุ่มพลังงาน แบงก์และสื่อสารที่ยังคงมีแรงขาย ขณะที่แรงซื้อจากหุ้นในกลุ่มขนส่ง พาณิชย์ และอาหารที่ช่วยหนุนตลาด ประกอบกับการเก็งกำไรในหุ้นขนาดกลาง-เล็กเป็นส่วนใหญ่ นำโดย BEM, BJC, TFG, AMARIN, PTG, STPI, ABICO ก่อนดัชนีจะทำปิดที่ 1500.78 จุด เพิ่มขึ้น 0.38 จุด (+0.03%) มูลค่าการซื้อขาย 37,009 ล้านบาท

 

ภาพตลาดวันนี้
  ดัชนีวานนี้ยังคงมีทิศทางแกว่งตัวขึ้นต่อในกรอบแคบ ๆ ทั้งวันเพียง 6.5 จุด ขยับขึ้นทำ High ที่ 1505 จุด และ Low อยู่ที่ 1498.9 จุด แต่มีความพยายามขึ้นมาทำปิดยืน 1500 จุด ซึ่งจะเห็นได้ว่าดัชนีมีความอ่อนไหวเมื่อเข้าใกล้แนวต้าน ประกอบกับ upside ที่มองจำกัดที่ 1510-1515 จุด ซึ่งเป็นบริเวณ Gap ที่เปิดไว้ต้นเดือนและเส้นแนวโน้มที่เป็นขาลงกดอยู่ ดังนั้นการขึ้นไปต้องระมัดระวังแรงขาย อีกทั้งในภาพและสัญญาณรายชม. มีโอกาสพักตัว มองแนวรับ 1490-1495 จุด ซึ่งถือเป็นแนวรับระดับสัปดาห์ที่ต้องยืนได้เพื่อขึ้นทดสอบแนวต้านดังกล่าว

 

กลยุทธ์ : แกว่งตัวผันผวน
Support 1490// 1480 // 1460 จุด Resistance 1510-1515 // 1520 จุด

 

พรรณนภา เขมะสุรัตน์ Technical Analyst
เลขทะเบียน : 060110 Tel 02- 6481124
Email: [email protected]

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell

 

Company Update & News Comment

(+) FSMART: บุญเติมเพิ่มบริการโอนเงินแบงค์กสิกร
(0) KTBST comment - BRR: รับอานิสงค์ราคาน้ำตาล ดันกำไรฟื้นตัวโดดเด่น เตรียมนำโรงไฟฟ้าขายเข้ากองไตรมาส 2 ปีหน้า
(+) SMT: เดินหน้าทำกำไรต่อเนื่อง คาด 4Q16 ล้างขาดทุนสะสมได้หมด
(+) VNG: ตลาดส่งออกยังแข็งแกร่ง + แผนขยายกำลังการผลิตใหม่มีต่อเนื่อ
ปัจจัยและทิศทางตลาดหุ้นไทย
ตัวแปรบางตัวที่เปลี่ยนทิศทาง หลังจากทราบผลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คือ ค่าเงินดอลล่าร์ ทั้งนี้ Dollar Index ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องถึง 4.4% เพิ่งจะมาปรับตัวลง 4 วันที่ผ่านมาประมาณ 0.9% เป็นผลจากแรงขายทำกำไรค่าเงิน ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากตลาดรับรู้ในเรื่องทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯมาระยะหนึ่งแล้วว่าจะปรับตัวขึ้น ทั้งการประชุม FOMC 13-14 ธ.ค.นี้ และในปีหน้า ขณะที่นโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐฯ นั้นถูกพูดถึงน้อยลง

อัตรผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 30 ปี ลงมาต่ำกว่า 3.0% ขณะที่ดัชนีฯตลาดหุ้นสหรัฐฯชะลอการขึ้นลงเช่นกัน การที่ราคาสินทรัพย์ต่างๆที่เป็นบวกจากนโยบายของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เริ่มชะลอการสูงขึ้น อาจไม่เป็นบวกต่อตลาดหุ้นอื่นๆ เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่น่าจะต้องการเห็นการสูงขึ้นของตัวแปรเหล่านี้มากกว่า ในเวลานี้
การรายงานตัวเลข GDP q3 ครั้งที่สอง ของสหรัฐฯ ในคืนนี้ ที่คาดว่า จะสูงขึ้นจากตัวเลขรายงานครั้งแรก 2.9% เป็น 3.0% และการรายงานตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ ในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนชะลอการซื้อขาย
ราคาน้ำมัน ยังมีทิศทางที่ไม่แน่นอน การประชุมของผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่ม OPEC ไม่มีความคืบหน้าใดๆ นักลงทุนจึงอาจต้องไปรอดูการประชุม OPEC ในวันที่ 30 พ.ย. นี้เลย ผลการประชุมครั้งนี้ เราประเมินว่าจะออกได้ทั้งสองทาง คือทั้งบวกและลบ การลดกำลังการผลิตในระดับที่ต่ำกว่า 7 แสนบาร์เรล/วัน เราเห็นว่าอาจมีนัยยะสำคัญต่อราคาน้ำมันในระดับที่น้อย (เป็นลบต่อราคาและหุ้นน้ำมัน)
ปัจจัยในประเทศ ตัวเลขส่งออกที่รายงานไปวานนี้ ที่ลดลงจากปีก่อน 4.22% และเป็นการลดลงทั้งภาคเกษตรและอุตสาหกรรม จะเป็นตัวถ่วงหุ้นที่อิงกับสินค้าที่มีการส่งออกลดลง เราเห็นมีเพียงสินค้าในกลุ่มอาหารแปรรูป (แช่แข็ง) ที่ยังมีการเติบโตดี ........ สำหรับปัจจัยเดิมๆ ที่เป็นบวกต่อตลาด คือ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล วันนี้ น่าจะรอดูผลการประชุม ครม.ว่าจะมีมาตรการใหม่ๆออกมาหรือไม่
ทิศทางตลาดหุ้น ดัชนีฯน่าจะแกว่งในกรอบแคบ รอปัจจัยใหม่ๆ หรือทิศทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ - ราคาน้ำมัน ให้มีความชัดเจนขึ้น
กลยุทธ์การลงทุน ปัจจัยที่ถ่วงตลาดมีเข้ามามากขึ้น (ราคาน้ำมัน-ตัวเลขส่งออก) การเข้าเก็งกำไรจึงต้องใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากดัชนีฯอาจวิ่งสลับบวกสลับลบในระหว่างวัน ...... แต่นักลงทุนที่ต้องการเข้าถือเพื่อลงทุน แนะนำให้ทยอยเข้าซื้อ หุ้นกลุ่มที่มีความน่าสนใจ จะเป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยเอง และหุ้นที่ให้ผลตอบแทนด้านเงินปันผลที่สูง ......... สำหรับการเข้าเก็งกำไรช่วงสั้น หุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุน อาทิ BJC , GLOBAL , THREL , SMT ,PAP

 

ประเด็นสำคัญ
     ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (28 พ.ย.) - SET Index ปิดที่ 1,500.78 จุด เพิ่มขึ้น 0.38 จุด หรือ +0.03% มูลค่าการซื้อขาย 37,009.45 ล้านบาท แรงขายต่างชาติเริ่มเบาบางลง ตลาดฯยังได้แรงหนุนจากมาตรการช็อปช่วยชาติและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ตลาดหุ้นต่างประเทศ - ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,097.90 จุด ลดลง 54.24 จุด หรือ -0.28% คาดนักลงทุนมีการขายทำกำไรหลังดัชนีปรับตัวสูงขึ้นทำ New High ในช่วงก่อนหน้านี้ เช่นเดียวกับ Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง -0.77% ที่ระดับ 339.83 จุด
ราคาน้ำมันดิบ WTI - สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้น 1.02 ดอลลาร์ หรือ +2.2% ปิดที่ 47.08 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีรายงานว่า อิรักพร้อมให้ความร่วมมือกับกลุ่ม โอเปก เพื่อให้มีการบรรลุข้อตกลง
เศรษฐกิจยุโรป - นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวว่า ECB กำลังพิจารณาแนวทางในการรักษาระดับในการใช้มาตรการกระตุ้นทางการเงินในการประชุมวันที่ 8 ธ.ค.
เศรษฐกิจไทย - กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยในเดือน ต.ค.59 พบว่า มูลค่าการส่งออกพลิกกลับมาหดตัวอีกครั้งที่ -4.2% สวนทางจากที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะขยายตัวเป็นบวกต่อเนื่องที่ราว 1.14-1.40%
เศรษฐกิจไทย - นิด้า เปิดเผยว่า มาตรการช้อปช่วยชาติ จะส่งผลบวกในระยะสั้นและไม่มีความยั่งยืน และมีสินค้าเพียงบางกลุ่มเท่านั้นที่ได้รับอานิสงส์จากมาตรการนี้ เช่น โทรศัพท์มือถือและยานพาหนะ สำหรับการดำเนินการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้ได้ผลในระยะยาวนั้น ภาครัฐควรเร่งดำเนินการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน
เศรษฐกิจไทย - สศค. เปิดเผยว่า เดือน ต.ค. 2559 มีสัญญาณการว่างงานเพิ่มขึ้นเป็น 1.2% ของแรงงานรวม หรือ 4.5 แสนคน จาก 0.9% ในเดือน ก.ย. 2559

 

News Release :
จับตาศึกชิงหุ้น IFEC ทุนใหม่โผล่ถือหุ้น 10% "วิชัย-สิทธิชัย" แอบขายทิ้ง เหลือคนละไม่ถึง 5%
+ จับตากลุ่มทุนใหม่ "ทวิชและเทพฤทธิ์ เตชะนาวากุล" เจ้าของนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค ไล่เก็บหุ้น IFEC ล่าสุดโผล่มาถือหุ้นรวมกันเกิน 10.21% ตรงกันข้ามกับ 2 ผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่เดิม "นพ.วิชัยและสิทธิชัย" แอบทยอยตัดขายหุ้นทิ้ง จนถือหุ้นรายละไม่ถึง 5% จากต้นปีทั้ง "นพ.วิชัยและสิทธิชัย" ถือหุ้นอยู่รายละ 5.29% (ข่าวหุ้น)

ILINKชนITDยกสองชิงงานAPMสองพันล.
+ ILINK เปิดศึกชน ITD ยกสอง ยื่นข้อเสนอชิงงานติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) สนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 วงเงิน 2.89 พันล้านบาท ขณะที่ UAS ยังเดินหน้าร้องเรียน AOT ต่อกรณีถูกบอกเลิกสัญญา(ข่าวหุ้น)

PSHลุยเทรด1ธ.ค.นี้ คนแห่แลกหุ้นแน่น98%
+ "พฤกษา โฮลดิ้ง" หรือ PSH เตรียมดีเดย์เข้าเทรดแทน PS ในวันที่ 1 ธ.ค.นี้ หลังผู้ถือหุ้นแห่ใช้สิทธิแลกหุ้น 97.9% "เลอศักดิ์" มั่นใจจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน แย้มปี 59 และปี 60 รายได้หลักมาจากการขายอสังหาฯ 100% (ข่าวหุ้น)

RJHโรดโชว์9กองทุนไทย
+ "RJH" โรดโชว์พบ 9 กองทุนไทย อัพเดตข้อมูลธุรกิจ ชูจุดแข็งฐานลูกค้าใช้บริการแน่น ดึงดูดกองทุนไทย-ต่างชาติสนใจลงทุนหุ้น โบรกฯเชียร์ "ซื้อ" เป้าราคาใหม่ 29 บาท จับตาผลประกอบการปี 59 กำไรโตเท่าตัว 160 ล้านบาท(ข่าวหุ้น)

'SCI'จ่อเซ็นงานใหญ่หมื่นล. หนุนผลงานก้าวกระโดด
+ SCI ผลงานโตก้าวกระโดด รอเซ็นสัญญางานมูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท แย้มแผนตั้งโรงงานผลิตเสาส่งแรงสูงและเสาส่งโทรคมนาคม ในเมียนมาคาดแล้วเสร็จปี 2561 ขณะที่เตรียมส่ง บริษัทร่วมทุน "T Utilities" เข้าตลาดหลักทรัพย์ปี 2563 ฟากโบรกเคาะเป้า 15 บาท(ทันหุ้น)

UAC เร่งปิดดีลชีวมวลเมียนมาจัดทัพลงทุนพลังงานนอกบ้าน
+ บอสใหญ่ UAC "กิตติ ชีวะเกตุ" กางแผนกลยุทธ์ปี 60 ตั้งเป้ารายได้โตไม่ต่ำกว่า 20% เชื่อโครงการปิโตรเลียมขอนแก่น-พลังงานหนุนงบโดดเด่น คอนเฟิร์มผลงานปีนี้เข้าเป้าคืบหน้าแผนลุยชีวมวลพม่า 20 MW คาดชัดเจนสิ้นปี พร้อมกางแผน 3-5 ปี เตรียมจัดทัพลงทุนพลังงานนอกบ้านเต็มสูบ ฟากโบรกส่องแนวต้าน 6.00 บาท(ทันหุ้น)

BANPU เดินเกมเทกโอเวอร์ ทุ่ม135ล้านดอลลาร์อัพผลิต
+ BANPU อัดฉีดงบลงทุนในปี 2560 ไว้ที่ 135 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หวังรักษาการผลิตถ่านหินอยู่ในระดับ 13-14 ล้านตันต่อปี คาดสรุปแผนเทกโอเวอร์เหมืองถ่านหินในอินโดนีเซียปีหน้า พร้อมขยายลงทุน "เชลล์แก๊ส" คาดราคาขายถ่านหินทั้งปีเฉลี่ยอยู่ที่ 60-66 ดอลลาร์สหรัฐ(ทันหุ้น)

NDRดันรายได้ต่างแดนพุ่งใส่เกียร์ลุยตั้งบริษัทร่วมทุน
+NDR ผลงานปีหน้าติดเครื่องวิ่งต่อ กางแผนปี 60 รุกชิงมาร์เก็ตแชร์ทะลุ 8% ทุ่มงบ 100 ล้านบาท ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ใส่เกียร์ลุยตั้งบริษัทร่วมทุน แย้มอยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตรคาดชัดเจนสิ้นปีนี้ ดันสัดส่วนรายได้ต่างแดนพุ่งแตะ 90% ฟากโบรกดีดลูกคิดกำไรทะยาน 45 ล้านบาท แนะ "ซื้อ" เป้าไกล 4.92 บาท(ทันหุ้น)

นักวิเคราะห์ :
มงคล พ่วงเภตรา
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
License No: 001937 Tel: 02-648-1123 และทีมวิเคราะห์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!