- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 28 November 2016 16:55
- Hits: 2465
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ “1,500 จนได้”
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันศุกร์ที่ผ่านมาดัชนีหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน โดยมีแรงซื้อเข้ามามากในหุ้นกลุ่มอาหารหลังมีปัจจัยบวกเข้ามามากทั้งการส่งไก่ไปเกาหลีใต้และการส่งกุ้งไปเม็กซิโก ส่วนกลุ่มขนส่ง (+1.5%) และกลุ่มค้าปลีก (+0.8%) ได้รับผลดีจากการที่รัฐบาลมีแนวคิดจะออกมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายช่วงปลายปีนี้อีกครั้ง ปิดตลาดดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้น 10.29 จุด (+0.7%) มาอยู่ที่ 1,500.40 จุด ด้วยปริมาณซื้อขายเบาบางเพียง 36,866 ล้านบาท และรวมทั้งสัปดาห์ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้น 26.54 จุด (+1.8%)
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(-) ราคาน้ำมันดิบยังผันผวนตามกระแสข่าวการประชุม OPEC ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 30 พ.ย. ซึ่งน้ำมัน WTI เมื่อวันศุกร์ -4% มาปิดที่ 46.06 US/Barrel
(-) ประชุม FED รอบเดือน ธ.ค. นี้ ตลาดคาดมีโอกาสสูงมากที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ค่าเงิน USD แข็งค่า, ราคาทองคำปรับลดลง
(-) ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบธ.ค. ลดลง 10.9 US (-0.9%Day) มาอยู่ที่ 1,178.40 US/ออนซ์
(-) ธนาคารฯ คาดสินเชื่อบ้านไตรมาส 4/59 พลาดเป้า กระทบยอดปล่อยสินเชื่อภาคธนาคาร
(+) ตัวเลข Composite PMI ของสหรัฐเดือนพ.ย. ทรงตัวเท่าเดือนก่อนหน้าทึ่ระดับ 54.9 จุด ซึ่งถือเป็นระดับที่สูงสุดของปีนี้ สะท้อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภาคเอกชนในสหรัฐฯ
(+) ตลาดหุ้นต่างประเทศที่ปิดไปเมื่อวันศุกร์ทั้งสหรัฐฯ และยุโรปต่างปิดบวก โดย DJIA ยังคงทำ All Time New High ที่ 19152 จุด (+0.36%Day), DAX +0.09%Day, FTSE +0.17%Day, CAC40 +0.17%Day
(+) ราคายาง TOCOM เช้านี้บวก 1.2%Day มาอยู่ที่ 227.70 Yen/Kg. และถ้าเทียบกับต้นเดือน พ.ย. ราคายังคงเพิ่มขึ้น 26%MTD มองยังเป็นบวกต่อการเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มยางทั้ง STA, NDR
(+) รองนายกสมคิดฯ มั่นใจเศรษฐกิจไทยปี 59 โตเกินร้อยละ 3 ประกาศปี60เป็นปีแห่งการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ พร้อมกระจายงบฯปี 61 เพิ่ม 4หมื่นลบ.
(+/-) ราคาถ่านหิน Newcastle ปิดลดลงเล็กน้อย 0.54%Day มาปิดที่ 92.5 จุด อย่างไรก็ตามราคาถ่านหินยังคง +83%YTD
(+/-) สอท. คาดว่าทั้งปีส่งออกไทยจะอยู่ที่ 0% ถึง-0.8%
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
หุ้นเข้า/ออก SET 50 รอบ 1H60 (คาดหุ้นเข้า ได้แก่ GL, THAI, GLOBAL, SPRC, JAS, KKP, SCCC, RATCH และหุ้นออก ได้แก่ TASCO, SAWAD, TTW, WHA, BEC, TPIPL, BCP)
การประชุม OPEC ในช่วง 30 พ.ย. ณ.กรุงเวียนนา ออสเตรีย
การลงประชามติเกี่ยวกับการปฏิรูปรัฐธรรมนูญของอิตาลี ในวันที่ 4 ธ.ค.
ประชุม FED รอบธ.ค. (13-14 ธ.ค.) ตลาดคาดรอบนี้จะขึ้นดอกเบี้ย
ตัวเลขสำคัญในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขส่งออกไทย ต.ค. (28 พ.ย.), อัตราการว่างงานญี่ปุ่นเดือน ต.ค., GDP 3Q59 สหรัฐฯ, ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจยูโรโซน (29 พ.ย.), PMI ภาคการผลิตจีน (1 ธ.ค.), อัตราการว่างงานสหรัฐ และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (2 ธ.ค.)
กลยุทธ์การลงทุน 'เน้นเก็งกำไรสั้น'
ประเมินดัชนีวันนี้มีแนวโน้มซึมตัวลง ยังคงมองราคาน้ำมันดิบที่เริ่มอ่อนตัวลงจะรบกวน Sentiment การลงทุน ประกอบกับปัจจัยที่หนุนเศรษฐกิจไทยค่อนข้างจำกัด มองการแกว่งตัวของดัชนีในระยะกลางยังคงเป็น Side Way แนะนำเก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยเฉพาะเด่น เช่นราคาถ่านหินที่ทรงตัวในระดับสูง, ราคาถั่วเหลืองที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น, กลุ่มที่มีการทำธุรกิจใหม่, แนวโน้มผลประกอบการ 4Q59 ที่เติบโตต่อเนื่อง
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
AUCT เก็งกำไร
ร่วมทุนบริษัทย่อย TSF เข้าสู่ธุรกิจรับบริหารและพัฒนาคุณภาพสินทรัพย์
เศรษฐกิจไทยอ่อนแอเป็นปัจจัยบวก ให้แนวโน้มการส่งรถยนต์เข้าประมูลมีมากขึ้น
ปัจจุบันซื้อขายกันที่ระดับ PER 41เท่า และ PBV 14 เท่า
TCAP เก็งกำไร
คาดแนวโน้มการดำเนินงานในปี 60 ดีกว่าปี 59 จากแนวโน้มการตั้งสำรองที่ลดลง,ธุรกิจลีสซิ่งยานยนต์และอสังหาเริ่มฟื้นตัว
คาดกำไร 4Q59 ยังเติบโตต่อดี จากที่ไม่มีการตั้งสำรองหนี้พิเศษเพิ่มเติม และ Credit Cost ที่คาดว่าจะลดลง QoQ
ทีมวิเคราะห์