- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 28 November 2016 16:15
- Hits: 2067
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วันศุกร์ฟื้นตัวเด่นสวนทางกับที่คาด ผลักดันโดย AOT / SCC รวมถึงหุ้นขนาดกลางที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัวขยับขึ้นเด่น และท้ายที่สุดไต่ระดับขึ้นทดสอบด่าน 1,500 จุด และปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX เท่ากับ 1,500.40 จุด บวก 10.29 จุด มูลค่าการซื้อขายเพียง 36,867 ล้านบาท
ต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 25 เพียง 519 ล้านบาท กลับมา Long สุทธิใน SET50 Index Futures อีกครั้ง 6,580 สัญญา และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 อีก 1,362 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
- การส่งออกเดือนต.ค.เป็นบวกต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3
- คาดครม.อนุมัติ 'ช็อปช่วยชาติ#2' วงเงิน 30,000 บาท ตลอดเดือนธ.ค.
- ติดตามการประชุมสนช.นัดพิเศษในวันพรุ่งนี้
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง - Sideways (วันที่ 15)
หลัง SET INDEX ปิดยืนเหนือ 1,500 จุดได้อีกครั้งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทำให้บรรยากาศการลงทุนในช่วงต้นสัปดาห์ยังมีโมเมนตัมเชิงบวกลักษณะ sideways-to-sideways-up เพื่อทดสอบด่านแรก 1,520 จุดภายในสัปดาห์นี้ เราคาดว่าจะมีแรงเก็งกำไรในกลุ่มหลักด้วยปัจจัยเด่นคือ
- กลุ่มพลังงาน /ปิโตรเคมี กับการคาดหวังผลการประชุมโอเปกในวันที่ 30 พ.ย. แม้ว่าราคาน้ำมันดิบจะปรับตัวลงแรงคืนวันศุกร์ แต่โอกาสเกิด Technical rebound มีความเป็นไปได้สูง
- กลุ่มค้าปลีก กับแรงเก็งกำไรต่อการประชุมครม. อาจพิจารณาโครงการช็อปช่วยชาติรอบที่ 2
- ขณะที่หุ้นที่เกี่ยวข้องกับ MSCI Thailand จะแข็งแกร่งต่อเนื่องจนถึงวันที่ 30 พ.ย.
ขณะที่กระแสเงินทุนต่างชาติคาดชะลอตัวต่อเนื่อง หลังลดน้ำหนักตลาดหุ้นใน TIP ตลอด 25 วันทำการที่ผ่านมา น่าจะสะท้อนโอกาสที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมวันที่ 14 ธ.ค. และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าอย่างโดดเด่นนับตั้งแต่ทราบผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 9 พ.ย.
กลยุทธ์การลงทุนโดยรวม เรายังคงแนะนำ "ถือพอร์ตเพื่อรอขายทำกำไรบริเวณ 1,520 จุด +/-" ทั้งนี้อาจเข้าเก็งกำไรต่อกลุ่มหลักที่มีประเด็นเชิงบวกเฉพาะตัวในสัปดาห์นี้ ประเมินกรอบแกว่ง SET INDEX วันนี้ระหว่าง 1,495-1,510 จุด
Strategy of the Day
1. เก็งกำไร HMPRO : ราคาปิด 9.95 บาท ราคาเหมาะสม 11.70 บาท
a) หุ้นกลุ่มค้าปลีกมี Sentiment เชิงบวก เนื่องจากคาดว่ารัฐบาลจะนำเสนอมาตรการกระตุ้นภาคบริโภคในประเทศให้ครม.พิจารณาในวันพรุ่งนี้ โดยจะอนุมัติให้นำเงินค่าใช้จ่าย Shopping จำนวน 30,000 บาท ระหว่างวันที่ 1-31 ธ.ค. นำมาลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาได้
b) คาดกำไรสุทธิ 4Q59 จะขยายตัว qoq ทำระดับสูงสุดของปี 2559 เนื่องจากเป็น High Season ของธุรกิจ และมีการจัดงาน HomePro Expo เพื่อกระตุ้นยอดขาย
c) คงมุมมองเชิงบวกในระยะยาวจากการขยายฐานธุรกิจไปยังต่างประเทศ และเปิดร้านรูปแบบใหม่คือ Home Living เพื่อรองรับ Demand ของผู้บริโภคที่มีความต้องการหลากหลายมากขึ้น จะผลักดันกำไรสุทธิปี 2560 ให้เติบโต +12% yoy เป็น 4,408 ล้านบาท
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ขายสุทธิเป็นวันที่ 2 เพียง US$9 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$339 ล้าน
โดยยังคงลดน้ำหนักในแถบอาเซียนทั้งหมด
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติลดน้ำหนักตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 25 แต่ลดลงค่อนข้างมาก
นักลงทุนต่างชาติ ยังคงขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 25 เหลือเพียง 519 ล้านบาท รวม 25 วันทำการต่างชาติขายสุทธิ 38,838 ล้านบาท ส่งผลให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิลดลงเป็น 82,569 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index futures นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Long สุทธิอีกครั้ง 6,580 สัญญา มากกว่าวันก่อนหน้าที่ Short สุทธิ 5,064 สัญญา คาดว่าจะเป็นการปิดสถานะ Short อีกครั้ง ส่งผลให้ QTD ใน 4Q59 นักลงทุนกลุ่มนี้มีสถานะ Short สุทธิลดลงเป็น 3,314 สัญญา แต่ S50Z16 ปิดต่ำกว่า SET50 Index เป็นวันที่ 18 แคบเพียง 0.16 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 2.13 จุด
และนักลงทุนกลุ่มนี้ยังคงซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 อีก 1,362 ล้านบาท รวม 2 วันทำการซื้อสุทธิ 3,560 ล้านบาท ขณะที่ราคาพันธบัตรไทยกลับมาปรับฐานลงเป็นวันที่ 2 ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นอีก 1.83bps จากวันก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 0.56bps ปิดที่ 2.619%
Short-Selling วานนี้
ท่ากับ 361 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 489 ล้านบาท ด้วยจำนวนหุ้น 52 หลักทรัพย์ จากวันก่อนหน้า 63 หลักทรัพย์
NVDR Movement
VDR กลับมาขายสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 7 วันทำการ ยังคงเน้นลดน้ำหนักกลุ่ม ICT
การซื้อขายผ่าน NVDR วานนี้กลับมาเป็นการขายสุทธิ 115 ล้านบาท จาก 7 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 4,715 ล้านบาท โดยเป็นการปรับลดน้ำหนักกลุ่ม ICT เป็นหลักและต่อเนื่องอีก 232 ล้านบาท กลุ่มอสังหาฯ 161 ล้านบาท ขณะที่สะสมกลุ่มค้าปลีก 219 ล้านบาท และกลุ่มปิโตรเคมี 121 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาเป็นกลาง
- การค้าเดือนต.ค. ขาดดุล US$6.2 หมื่นล้าน มากกว่า Bloomberg consensus คาดขาดดุล US$5.97 หมื่นล้าน และเดือนก่อนหน้าขาดดุล US$5.65 หมื่นล้าน โดยการส่งออกหดตัว 2.7% mom จากเดือนก่อนหน้า +0.9% mom เป็นผลจากการส่งออกอาหาร, อาหารสัตว์และเครื่องดื่มหดตัวมากถึง 12.0% mom และผลผลิตภาคอุตฯ ลดลง 4.1% mom ขณะที่การนำเข้าขยายตัว 1.1% mom จากเดือนก่อนหน้า -1.1% mom
- ดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้น เดือนพ.ย. เท่ากับ 54.7 จุด ใกล้เคียงกับเดือนก่อนหน้าที่ 54.8 จุด โดยภาคธุรกิจใหม่ขยายตัวได้ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 และทำระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2558
ยุโรป
สกอตแลนด์อาจใช้กฎหมายในการยืนยันกับศาลสูงสุดของอังกฤษ: เพื่อเป็นการยืนยันว่าสภาของสกอตแลนด์จะต้องอนุมัติถึงกรณี Brexit ก่อนที่นายกฯ May จะดำเนินการตามขั้นตอนการออกจากการเป็นสมาชิกในกลุ่มอียู ทั้งนี้คาดว่าศาลจะพิจารณากรณีนี้ในต้นเดือนธ.ค.
สถาบันการเงินในอังกฤษเตรียมยื่นขอใบอนุญาตในดับบลินต้นปีหน้า: สถาบันการเงินบางแห่ง เริ่มมองหาเมืองในอียูเพื่อจัดตั้งสำนักงาน หลังอังกฤษออกจากอียู โดยจะต้องเริ่มขั้นตอนการขอใบอนุญาตที่กรุงดับบลินในต้นปีหน้า รวมถึงเมืองหลักอื่นๆ อย่างปารีส, แฟรงเฟิร์ต และลักเซมเบิร์ก ซึ่งทางไอร์แลนด์ได้เสนอกับสถาบันการเงินในอังกฤษให้ยื่นขอใบอนุญาต Pre-application เพื่อหารือกับธนาคารกลางของไอร์แลนด์ในเบื้องต้น
ธนาคาร Monte dei Paschi ยังคงมีความเสี่ยงแม้ว่าจะผ่านแผนเพิ่มทุนแล้วก็ตาม: สะท้อนได้จากราคาหุ้นปรับตัวลง 7% ในวันศุกร์ที่ 25 พ.ย. เพราะแผนการเพิ่มทุนจะเกิดขึ้นหลังการลงประชามติวันที่ 4 ธ.ค. ซึ่งมีความไม่แน่นอนทางการเมืองในอิตาลีและอาจส่งผลกระทบต่อแผนการเพิ่มทุนของธนาคารที่จะเริ่มดำเนินการในวันที่ 7 หรือ 8 ธ.ค.
นายกฯ อิตาลีผ่านการโหวตรับรอง: วันที่ 25 พ.ย. สภาล่างของอิตาลีมีการโหวตเพื่อรับรองนายกฯ และรัฐบาลของนาย Renzi ด้วยเสียง 348 ต่อ 144 ดังนั้นนายกฯ Renzi จะเร่งเดินหน้าพิจารณาและอนุมัติงบประมาณปี 2560 ด้วยการเพิ่มใช้จ่ายกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและสวัสดิการสุขภาพ แต่ยกเลิกแผนการเพิ่มภาษีขาย
จีน
จีนวานแผนเน้นการเจรจาการค้าเพิ่มขึ้น ไม่ว่า TPP หรือ RCEP จะเกิดขึ้นหรือไม่: โฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีน ออกมายืนยันถึงแนวทางการปฎิรูปการค้าของจีนจะมุ่งเน้นการเจรจากับคู่ค้าแบบ Bilateral และ Multilateral เพื่อเป็นการเปิดตลาดใหม่ แม้ว่าจะมีความไม่แน่นอนใน TPP หรือ RCEP อย่างไรก็ตาม จีนจะผลักดันการเจรจา RECP ให้ได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้
ทางการจีนเริ่มเข้าไปตรวจสอบเหมืองถ่านหิน และโรงเหล็กที่ขยายกำลังการผลิตผิดกฎหมาย: ทางการจีนเตรียมส่งทีมตรวจสอบ เพื่อเข้าตรวจสอบเหมืองถ่านหินและบริษัทเหล็กที่ขยายกำลังการผลิตผิดกฎหมาย ตามแผนที่ประกาศไว้ในเดือนก.พ.คือ ทางการต้องการลดกำลังการผลิตเหมืองถ่านหิน 500 ล้านตัน และสินแร่เหล็ก 100-150 ล้านตันในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า เพื่อลดระดับอุปทาน
เอเชียแปซิฟิก
อินเดียได้ให้เคาท์เตอร์แลกเงินยกเลิกการรับธนบัตรเก่า: ตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 24 พ.ย. เคาท์เตอร์รับแลกธนบัตรเก่าจะต้องถูกยกเลิก ธนบัตรเก่าจะยังสามารถนำไปฝากในธนาคารพาณิชย์ได้จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. แต่จะไม่สามารถนำไปแลกที่เคาท์เตอร์แลกเงินได้ ส่วนชาวต่างชาติจะเปิดให้แลกเงินได้ 5,000 รูปีต่อสัปดาห์
ซาอุฯ ยกเลิกการเจรจากับรัสเซีย เพราะประชุมนอกรอบโอเปกไม่ได้ข้อสรุป: ซาอุดิอาระเบียยกเลิกการหารือกับสมาชิกนอกกลุ่มโอเปกรวมถึงรัสเซียในวันจันทร์ที่ 28 พ.ย. เรื่องจากการหารือนอกรอบของกลุ่มโอเปกเพื่อหารือถึงการจัดสรรลดกำลังการผลิตน้ำมันภายในกลุ่มไม่สามารถหาข้อตกลงได้
ไทย
คาดโครงการช็อปช่วยชาติยืดเป็น 30 วัน: แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 29 พ.ย.นี้ กระทรวงการคลังจะเสนอให้ที่ประชุมครม.พิจารณาอนุมัติมาตรการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศในช่วงสิ้นปีนี้ ผ่านการนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้า ในช่วงเวลาวงเงินสูงสุดไม่เกิน 3 หมื่นบาทต่อคน มาหักลดหย่อนภาษี เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่กำหนดให้นำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าวงเงินไม่เกิน 1.5 หมื่นบาทต่อคน มาลดหย่อนภาษี นอกจากนี้มาตรการในปีนี้ จะเพิ่มระยะเวลาการจับจ่ายใช้สอย ที่สามารถนำรายจ่ายนั้นหาหักลดหย่อนภาษีได้ ซึ่งอาจเสนอระยะเวลานานตลอดเดือนธ.ค.นี้
Strategist Team
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Krittapol Itthithumsakul Assistant Analyst