- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 25 November 2016 17:32
- Hits: 2546
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวโน้มลงทดสอบ 1485 และ 1470
SET lndex: 1497.95 ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่บริเวณ 1498 จุด แต่มูลค่าการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง จึงทำให้การปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้แนวต้านที่ 1500 จุด ยังมีความเสี่ยงในการถูกขายทำกำไร เนื่องการปรับตัวเพิ่มขึ้นในระยะสั้น น่าจะเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปปิด Gap ที่บริเวณ 1495 จุด ในขณะที่แนวโน้มหลักยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลง โดยมีแนวรับที่ 1485 และ 1470 จุด ถ้าหลุดจะมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับสำคัญ 1440 จุดบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ซึ่งเราแนะนำให้ใช้เป็นจังหวะเข้าซื้อหุ้นบางส่วน
แนวต้าน : 1498 และ 1500
แนวรับ : 1494 และ 1490
AOT = 380 / 384, MTLS = 24.00 / 24.50, MlNT = 35.50 / 36.50, BANPU = 18.40 / 19.00, MEGA = 24.50 / 25.50
RS (RS TB; THB 8.20) - ซื้อ
แนวต้าน : 8.80 และ 9.00 / แนวต้านสำคัญ 9.60
แนวรับ : 8.20 และ 8.10
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างสูง หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวโน้มขาลงขึ้นมาได้ ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเหนือระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 60
แนะนำซื้อ RS โดยมีแนวรับที่ 8.20 และ 8.10 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 8.80 และ 9.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 7.85 ลงไป
Filter Vision (FVC TB; THB 2.68) - ซื้อ
แนวต้าน : 2.84 และ 2.96
แนวรับ : 2.68 และ 2.64
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐานใต้เส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทดสอบระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ FVC โดยมีแนวรับที่ 2.68 และ 2.64 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 2.84 และ 2.96 เป็นจุดขายทำกำไรในระยะสั้น
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 2.56 ลงไป
SET50 Index Futures
S50Z16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 930 ซึ่งเราคาดว่า น่าจะเป็นแนวต้านสำคัญของกรอบแนวโน้มขาลง ซึ่งยังคงเราคาดว่า โครงสร้างหลักยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลง โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 932 ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะมีแนวต้านถัดไปที่ 944 และมีแนวรับที่ 923 ถ้าหลุดจะมีแนวรับถัดไปที่ 910
แนวต้าน : 930 และ 932
แนวรับ : 928 และ 925
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Short ใน S50Z16 โดยมีแนวต้านที่ 930-932 และมีแนวรับที่ 923 เป็นจุดขายทำกำไร และ Short เพิ่มถ้าหลุด 922 ลงไปต่อเนื่อง
STOP LOSS สถานะ Short ถ้า S50Z16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 934 ขึ้นไป
IRPCZ16
ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 4.84 ซึ่งเป็นแนวต้านของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน และเส้นแนวโน้มขาขึ้นเดิม ในขณะที่โครงสร้างการเคลื่อนไหวยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 4.50 ตามกรอบแนวโน้มขาลง เราจึงแนะนำให้ Open Short ที่บริเวณ 4.84-4.88
แนวต้าน : 4.84 และ 4.88
แนวรับ : 4.74 และ 4.70
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Short ที่แนวต้าน 4.84-4.88 เพื่อคาดหวังการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 4.70 และ 4.50
STOP LOSS สถานะ Short ถ้า IRPCZ16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 4.95 ขึ้นไป
BLANDZ16
ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังจากเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิคหลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเหนือแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้น และเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน แต่เราคาดว่า การปรับตัวเพิ่มขึ้นในระยะสั้น น่าจะมีแนวต้านที่ 1.70 ก่อนที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1.75 จึงแนะนำให้ขายสถานะ Long
แนวต้าน : 1.70 และ 1.71
แนวรับ : 1.65 และ 1.64
คำแนะนำ: เราแนะนำให้รอ Open Long ใน BLANDZ16 ที่บริเวณแนวรับ 1.64 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1.70
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า BLANDZ16 ปรับตัวลดลงหลุด 1.62 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...แนวโน้มกำไรของตลาดปีหน้าเริ่มอ่อนตัวลง
หลังการทราบผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 9 พ.ย. ถึงวันศุกร์ที่ 18 พ.ย. ปรากฏว่ามีเม็ดเงินไหลออกจากตลาดเกิดใหม่เอเชียทั้งตลาดพันธบัตรและตลาดหุ้นไปแล้วประมาณ 11 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (จากการคำนวณของ Bloomberg) โดยตลาดที่เงินไหลออกมากที่สุด คือ อินเดีย ตามด้วย ไทย สำหรับเม็ดเงินไหลเข้าตลาดเกิดใหม่เอเชีย(อินเดีย อินโดนีเชีย ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ ไต้หวันและไทย) ในช่วงต้นปีถึงปัจจุบัน มีประมาณ 55 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนแนวโน้มการไหลออกของเม็ดเงิน ตลาดยังมองว่าจะยังดำเนินต่อไปอีกระยะ จากการมองว่านโยบายของนาย Donald trump จะหนุนให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งตัวและส่งผลด้านลบกับตลาดหุ้นเกิดใหม่
สำหรับเม็ดเงินไหลออกตลาดไทยในระหว่างวันที่ 9 -18 พ.ย. ในตลาดพันธบัตรมีทั้งสิ้น 2.3 พันล้านดอลลาร์และตลาดหุ้น 534.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับทิศทางเม็ดเงินไหลออกของตลาดหุ้นไทยในอัตราที่สูง ส่วนหนึ่งมาจาก การมองว่าอัตราการทำกำไรของตลาดในปีนี้ ยังเติบโตได้ไม่มาก จากผลของการชะลอตัวของกำลังซื้อในประเทศและการชะลอตัวของเศรษฐกิจที่น่าจะยังดำเนินงานต่อไปถึง Q4/16 หากมาดูแนวโน้มอัตราการทำกำไรของตลาดในปี 2017 ของดัชนี IBES MSCI Thailand ปรากฏว่าปัจจุบันเติบโตได้เพียง 9% (ลดลงจากต้นเดือน ต.ค. ที่ 12%)เทียบภูมิภาคที่ 12.4% ซึ่งถือว่าเป็นการเติบโตที่ต่ำกว่าภูมิภาคในรอบมากกว่า 5 ปี
แนวโน้มอัตราการทำกำไรของตลาด (EpS growth) จะสอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของดัชนี SET เสมอ กล่าวคือ เมื่อแนวโน้มอัตราการทำกำไรของตลาด ชะลอตัวลง ในไม่ช้าดัชนี SET จะปรับตัวลงตาม (ดูรูปด้านขวา) โดยตอนนี้ดัชนี SET ขึ้นมาใกล้ 1500 จุด ท่ามกลางการชะลอตัวของอัตราการทำกำไรของตลาด เราจึงมองว่าในไม่ช้าคือประมาณเดือน ธ.ค. ดัชนี SET น่าจะค่อยๆอ่อนตัวลงตาม ตอบรับการชะลอตัวของกำไรของตลาด ซึ่งสามารถดูได้จากการที่ไม่มีแรงซื้อหุ้นในกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่เห็นได้ชัดๆ หากมีคือ พลังงานและปิโตรเคมี แต่ก็เป็นเพียงการเก็งกำไรในช่วงสั้น ส่วนใหญ่หุ้นที่เล่นกันจะเป็นหุ้นเล็กในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์โลหะพื้นฐานและเกษตร หลังบรรดา Hedge fund เข้าไป Long position แล้วดันราคาเหล็ก ทองแดง สังกะสี ขึ้นสร้าง New high ส่วนสินค้าเกษตร คือ น้ำมันปาล์ม ยาง
ในสัปดาห์หน้าเรามองว่าสภาพการซื้อขายของตลาดน่าจะคึกคักขึ้น จากผลของ MSCI Rebalancing และผลการประชุมกลุ่ม OPEC ในวันที่ 30 พ.ย. โดยมองว่าทิศทางตลาดจะเป็นไปได้ 2 ทางทั้งขึ้นและลงแรงได้ โดยเฉพาะหุ้นที่ได้เข้าไปคำนวณใน MSCI และหุ้นที่ถูกปรับเพิ่มน้ำหนัก ส่วนวันนี้มองดัชนี SET น่าจะยังอ่อนตัวลงตามดัชนีภูมิภาคและการอ่อนตัวของค่าเงินบาท โดยวันนี้มองแนวต้านที่ 1497-1500 จุดและแนวรับที่1480-1485 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร CPALL MINT SPALI TVO
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary...
SET ช่วงเช้าปิดที่ 1,497.95 จุด เพิ่มขึ้น 7.84 จุด (+0.53%) มูลค่าการซื้อขาย 16,319.99 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ดีดกลับในทิศทางเดียวกับตลาดภูมิภาค SET ยังไม่ผ่าน 1500 จุด ตลาดยังรอปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน ติดตามการประชุมกลุ่มโอเปก และการประชุมครม.ในสัปดาห์หน้า
Afternoon Perspective...
แนวโน้มตลาดบ่าย แกว่งแคบ ระยะสั้นตลาดยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ โดยกลับมาเน้นเก็งกำไรหุ้นรายตัวที่มีประเด็นหนุนเรามองว่าตลาดจะเคลื่อนหวในกรอบแคบไปจนกว่าจะมีความชัดเจนเรื่องการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเฟดครั้งหน้า กลยุทธ์หลักยังเน้น ขึ้นแรงขายลงแรงซื้อกลับ มองแนวต้าน ที่ 1500 จุด และ 1520 จุด แนวรับ 1485 จุด เราแนะนำ EPG ราคาเหมาะสม 16.80 บาท โดยแนวโน้มผลการดำเนินงานหลังจากนี้จะเริ่มเติบโตโดดเด่นหลังจากนี้ โดยมีปัจจัยหนุน 1) การอ่อนค่าของค่าเงินบาท (บริษัทมีรายได้จากตลาดต่างประเทศประมาณ 53%) 2) ต้นทุนวัตถุดิบเม็ดพลาสติกมีแนวโน้มลดลงตามทิศทางราคาน้ำมัน 3) โรงงานบรรจุภัณฑ์ EPP2 จะเริ่มเดินเครื่องผลิตได้เต็มที่ หลังจัดการปัญหาทางเทคนิคได้แล้ว ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้เพิ่มขึ้นถึง 2,000 ล้านต่อปี
Technical Pick (PM) ...
RS (RS TB; THB 8.20) - ซื้อ
Filter Vision (FVC TB; THB 2.68) - ซื้อ
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]