WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ASIAwealthบล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook

 

ไม่ไปไหนไกล
      คาดหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบจากตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัวของสหรัฐออกมาดีมาก ประกอบกับรายงานการประชุมล่าสุดของ Fed ซึ่งรวม ๆ กันแล้วยิ่งเน้นย้ำทิศทางการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นของ Fed ในเดือนหน้า และในปีหน้า ซึ่งแนวโน้มดังกล่าวทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และกระตุ้นการไหลออกของเงินทุนจากตลาดเกิดใหม่ แม้นโยบายกำแพงภาษีของ Trump จะส่งผลลบต่อภาคการส่งออกของเอเซีย แต่ดอลลาร์ที่แข็งค่าก็เป็นประโยชน์ต่อการส่งออกเช่นกัน ภายในประเทศตัวเลขด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ออกมาอ่อนแออีกในเดือน ต.ค. แต่ความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือน ต.ค. กลับออกมาดีมาก การรถไฟแห่งประเทศไทยมีโครงการใหม่จะสร้างทางรถไฟความเร็วสูง เส้นทาง กรุงเทพ-กัวลาลัมเปอร์ 1,400 กม. การก่อสร้างมากกว่าครึ่งหนึ่งอยู่ในประเทศไทย

หุ้นเด่นวันนี้ : THCOM (ราคาปิด 19.40 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมาย 23.00 บาท)
       บมจ.ไทยคมเป็นหนึ่งเดียวในภูมิภาคเอเชียที่ให้บริการทั้งดาวเทียมถ่ายทอดรายการโทรทัศน์และบริการบรอดแบนด์ผ่านดาวเทียมด้วย โดยราคาหุ้นได้ปรับตัวลดลงเรื่อยมาเนื่งจากถูกกระทบโดยหลายประเด็น ได้แก่ความเสี่ยงด้านกฎเกณฑ์จากการที่รัฐบาลจะนำดาวเทียมใหม่ของไทยคมนับตั้งแต่ไทยคม 7 กลับไปอยู่ภายใต้ระบบสัมปทานที่มีค่าธรรมเนียมสูงจากเดิมระบบใบอนุญาตที่มีค่าธรรมเนียมต่ำกว่า ประเด็นลบอื่นได้แก่การปิดตัวของลูกค้ารายใหญ่ CTH และการเลิกใช้ของ NBN ลูกค้าออสเตรเลียโดยหันไปใช้ดวงใหม่ของตัวเองแทน อย่างไรก็ดีเราเชื่อว่าราคาตลาดปัจจุบันได้รับรู้ปัจจัยลบไปเกือบหมดแล้วและได้ลดต่ำลงกว่าราคาเป้าหมายปี 60 ของเราแล้ว ถ้าไม่นับเรื่องนี้ถือว่าปัจจัยพื้นฐานของไทยคมยังดีอยู่ การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีจากช่องความคมชัดมาตรฐาน (SD) เป็นช่องความคมชัดสูง (HD) ไปจนถึงความคมชัดสูงมาก (UHD) น่าจะหนุนอุปสงค์ต่อบริการดาวเทียมได้เป็นอย่างมาก

       อุปสงค์ต่อบริการเสริมความสามารถในการให้บริการมือถือด้วยดาวเทียม (mobile backhaul) ก็ยังน่าจะเติบโตได้ดีด้วย เพราะเทรนด์การใช้ข้อมูล เปลี่ยน 2จี ไป3 จี 4จีและ 5 จี ยังมีโอกาสเติบโตอีกมากสำหรับตลาด CLMV เพราะน่าจะพัฒนาตามประเทศไทยได้ นอกจากอาเซียนที่เป็นตลาดหลักแล้ว บริษัทยังได้วางตลาดอินเดียเป็นเป้าหมายเพราะความที่ตลาดยังไม่ได้มีผู้เล่นเข้าไปอย่างเต็มที่ เราคาดการณ์ไว้ว่ากำไรอาจเติบโต 9% ปีนี้แต่ลดลง 5% ในปีหน้าเพราะการถอนตัวของ NBN อย่างไรก็ดีไทยคมน่าจะฟื้นตัวและกลับมาเติบโตได้ไม่เลวในระยะยาวจากการมองว่าลูกค้าใหม่น่าจะใช้บริการดาวเทียมเพิ่มขึ้นอีก ราคาเป้าหมายปี 60 ตามวิธี DCF ของเราอยู่ที่ 23 บาท ซึ่งถือเป็นอัพไซด์ราว 18.5% คาดการณ์ปันผลตอบแทนดีที่ 4.2% Price Pattern ของ THCOM กลับมาเกิดความแข็งแกร่งในระยะสั้น จากการเกิด Daily Buy Signal ครั้งใหม่ และหาก Price Pattern ของ THCOM สามารถปิดตลาดรายสัปดาห์ได้เหนือ 20.00 บาท ก็จะทำให้กลับมาเกิดความแข็งแกร่งเพิ่มเข้ามาในระยะกลาง จากการกลับมาเกิด Weekly Buy Signal ครั้งใหม่ ทั้งนี้เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ THCOM มีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 23 บาท และมีเป้าหมายเบื้องต้นอยู่ที่ 26.50 บาท ตามลำดับ ซึ่ง THCOM มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 19 บาท (แนวต้าน: 19.50, 19.70, 19.80; แนวรับ: 19.30, 19.20, 19.00)

ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
      ตัวเลขยานยนต์อ่อนแอลงใน ต.ค. สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) รายงานตัวเลขผลิตรถยนต์ใน ต.ค. ปีนี้ลดลง 2.6% เมื่อเทียบปีก่อนสู่ 161,105 คัน ยอดขายรถยนต์ในประเทศกลับลดลง 10.7% เทียบปีก่อนสู่ 60,634 คัน ขณะที่การส่งออกรถสำเร็จรูปลดลง 7.2% สู่ 103,912 คันด้วยมูลค่าส่งออกลดลง 10.1% เทียบปีก่อนเหลือ 5.39 หมื่น ลบ. สำหรับ 10 เดือนแรก การผลิตรถยนต์เพิ่มขึ้น 2.5% สู่ 1,637,841 คัน ขณะที่ส่งออกลดลงเหลือ 5.39 หมื่น ลบ. สำหรับ 10 เดือนแรก การผลิตรถยนต์เพิ่มขึ้น 2.5% สู่ 1,637,841 คัน ขณะที่ส่งออกลดลง 1.25% เทียบปีก่อนสู่ 1,003,918 คัน โดยที่มูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้น 8.7% สู่ 5.344 แสน ลบ. ยอดขายในประเทศลดลง 0.7% สู่ 617,159 คัน (ส.อ.ท.) ความเห็น: ยอดขายในประเทศที่อ่อนตัวน่าจะมาจากช่วงถวายความอาลัย ขณะที่ตัวเลขส่งออกกระทบโดยเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอ เราคงคำแนะนำเป็นกลางสำหรับหมวดยานยนต์ด้วยแนวโน้มฟื้นตัว
       ความเชื่อมั่นอุตสาหกรรม ต.ค. สูงสุดรอบเจ็ดเดือน ส.อ.ท. รายงานตัวเลขความเชื่อมั่นเท่ากับ 86.5 สูงสุดรอบเจ็ดเดือน เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่สองติดต่อกันจาก 84.8 ในเดือน ก.ย. เพราะยอดคำสั่งซื้อที่มากขึ้นต้อนรับความต้องการช่วงเทศกาลทั้งในประเทศและต่างประเทศโดยเฉพาะคู่ค้า เช่น จีน ญี่ปุ่น ยุโรป และสหรัฐในช่วงสิ้นปี ดัชนีความเชื่อมั่นสำหรับช่วงสามเดือนข้างหน้าดีขึ้นเป็น 102.9 สูงสุดรอบ 11 เดือนจาก 102.4 จุดใน ก.ย. อย่างไรก็ดี ผู้ผลิตยังคงกังวลเรื่องต้นทุนการผลิต ความสามารถในการแข่งขันด้านราคา เรื่องสภาพคล่องของ SME ความผันผวนของค่าเงินและความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก คัน (ส.อ.ท.)

ต่างประเทศ :
      อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐแตะระดับสูงสุดในรอบหลายปีในวันพุธ หลังการเผยแพร่รายงานการประชุมเฟดประจำเดือนพ.ย. ซึ่งไม่มีอะไรแปลกใหม่ ราคาพันธบัตรอายุ 2 ปีปรับตัวลง สู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 6 ปี อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ระดับ 1.13% หลังจากที่ปรับตัวขึ้นที่ระดับ 1.15% ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่วันที่ 6 เม.ย. 53 ราคาพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลง 9/32 อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ระดับ 2.35% หลังจากก่อนหน้านี้ที่ปรับตัวขึ้นที่ระดับ 2.42% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่วันที่ 15 ก.ค. 58 (Reuters)
      ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 46 เมื่อวันพุธ โดยได้แรงหนุนจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจหลายฉบับซึ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวอย่างมั่นคงและข้อมูลเศรษฐกิจหนุนความคาดหวังในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้มากขึ้น ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า 1.2% เทียบกับเงินเยนที่ระดับ 112.51 เยน ก่อนหน้านี้ดอลลาร์สหรัฐแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือนที่ 112.97 เยน ส่วนเงินยูโรยังคงอ่อนค่าลงเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ โดยอ่อนค่า 0.7% อยู่ที่ระดับ 1.0550 ดอลลาร์สหรัฐ หลังจากก่อนหน้านี้ ตะระดับต่ำสุดในรอบ 19 เดือน (Reuters)

สหรัฐ :
      ดัชนีดาวโจนส์และ S&P500 ทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันพุธ ก่อนวันหยุดเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม แม้ว่าหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงและมีผลต่อดัชนีแนสแดคก็ตาม หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมได้แรงหนุนจากรายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในเดือนต.ค. ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากเนื่องจากมีความต้องการเครื่องจักรและอุปกรณ์อื่น ๆ ตลาดหุ้นสหรัฐจะปิดทำการในวันพฤหัสและปิดเร็วขึ้นในวันศุกร์ (Reuters)
     รายงานการประชุม FOMC เมื่อวันที่ 1-2 พ.ย. 59 : เศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งเพียงพอที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รายงานการประชุมล่าสุดจากเฟด ซึ่งแสดงว่าคณะกรรมการเฟดดูเหมือนมีความมั่นใจตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 8 พ.ย. ว่าเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรองรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ (Reuters)
      ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐดีดตัวในเดือนต.ค. มีปัจจัยผลักดันจากความต้องการเครื่องจักรและอุปกรณ์อื่น ๆ ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งบ่งชี้ว่าการลงทุนในสินทรัพย์ประเภททุนที่มีอายุการใช้งานเพิ่มขึ้น ส่วนคำสั่งซื้อสินค้าทุนที่ไม่รวมเครื่องบินเพิ่มขึ้น 0.4% หลังจากที่ลดลง 1.4% ในเดือนก.ย. ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐานในขณะนี้เพิ่มขึ้น 4 ใน 5 เดือนที่ผ่านมา (Reuters)
     เฟดสาขาแอตแลนตาประมาณการ GDP ไตรมาส 4/59 จะขยายตัวในอัตรา 3.6% ต่อปี เศรษฐกิจขยายตัวในอัตรา 2.9% ในไตรมาส 3/59 (Federal Reserve Bank of Atlanta)
     ตัวเลขการขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้น 18,000 คน อยู่ที่ 251,000 คน ณ วันที่ 19 พ.ย. เทียบกับการคาดการณ์ก่อนหน้าที่ 250,000 คน ซึ่งตัวเลขดังกล่าวอยู่ต่ำกว่าระดับ 300,000 คน บ่งบอกถึงสภาวะตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งมาเป็นเวลา 90 สัปดาห์ติดต่อกันแล้ว นับว่ายาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2513 (Reuters)
      ยอดขายบ้านเดี่ยวใหม่ลดลงในเดือน ต.ค. แต่คาดว่าน่าจะเป็นการปรับตัวลงชั่วคราวเท่านั้นเนื่องจากขัดแย้งกับตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง โดยตัวเลขยอดขายบ้านดังกล่าวลดลง 1.9% อยู่ที่ 563,000 หน่วยในเดือน ต.ค. ขณะที่ตัวเลขยอดขายเดือน ก.ย.ถูกปรับลดลงมาอยู่ที่ 574,000 หน่วยจาก 593,000 หน่วยที่รายงานก่อนหน้านี้ ซึ่งในเดือนที่แล้วนักเศรษฐศาสตร์ได้คาดการณ์ว่ายอดขายบ้านเดี่ยวจะเพิ่มขึ้นอย่างมั่นคง (Reuters)
     กิจกรรมภาคการผลิตในสหรัฐฯ เดือนพ.ย. ที่จะขยายตัวมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2558 โดย Markit รายงานดัชนี PMl ภาคการผลิตเบื้องต้นของสหรัฐฯ เดือนพ.ย. อยู่ที่ 53.9 สูงขึ้นจากเมื่อเดือนต.ค. ก่อนหน้าที่ 53.4 (HlS Markit)

ยุโรป :
    ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันพุธทรงตัว โดยดัชนี pan-European STOXX 600 index อ่อนตัวลงเล็กน้อย 0.07% หลังปรับตัวสูงขึ้น 2 วันติดต่อกันก่อนหน้านี้ ทั้งนี้หุ้นกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานยังคงได้แรงหนุนจากการปรับตัวสูงขึ้นของราคาโลหะ (Reuters)
ดัชนี PMI ยูโรโซนล่าสุดยังคงส่งสัญญาณการเติบโตที่แข็งแกร่งในปีนี้ โดย Markit รายงานดัชนี PMl เบื้องต้น ซึ่งรวมทั้งภาคการผลิตและบริการของยูโรโซน ดีดตัวแตะ 54.1 ในเดือนพ.ย. จาก 53.3 ในเดือนต.ค. และทำระดับสูงสุดในปีนี้นับตั้งแต่เดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว (lHS Markit)
ดัชนี PMI เดือนพ.ย. ตอกย้ำถึงการเติบโตที่แข็งแกร่งของเศรษฐกิจเยอรมนี โดย Markit รายงานดัชนี PMl เบื้องต้น ซึ่งรวมทั้งภาคการผลิตและบริการของเยอรมนีเดือนพ.ย. อยู่ที่ 54.9 เปลี่ยนแปลงเล็กน้อยจากเมื่อเดือนต.ค. ก่อนหน้าที่ 55.1 แต่ยังอยู่เหนือค่าเฉลี่ยของปีนี้ที่ 54.2 ทั้งนี้หลักๆ มาจากกิจกรรมภาคการบริการที่ขยายตัวโดดเด่น ขณะที่ภาคการผลิตชะลอตัวลงเล็กน้อย (lHS Markit)
ตัวเลขผลผลิตในผรั่งเศสยังคงแข็งแกร่งในเดือนพ.ย. โดย Markit รายงานดัชนี PMl เบื้องต้น ซึ่งรวมทั้งภาคการผลิตและบริการของฝรั่งเศสเดือนพ.ย. อยู่ที่ 52.3 สูงขึ้นจากเมื่อเดือนต.ค. ก่อนหน้าที่ 51.6 นำโดยการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของกิจกรรมภาคการบริการ เช่นเดียวกับภาคการผลิตที่ขยายตัวได้เป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน (lHS Markit)

เอเชีย :
    หุ้นญี่ปุ่นปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบใกล้ 11 เดือนในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา จากเงินเยนที่อ่อนค่าลงหลังจากที่หุ้นวอลล์สตรีทปิดที่จุดสูงสุดใหม่ในคืนที่ผ่านมา ในขณะที่เงินดอลลาร์ยังวิ่งแรงต่อ เนื่องจากข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสูงขึ้นในรอบหลายปี (Reuters)
     ประเทศจีนจะปกป้องสิทธิขององค์การการค้าโลก (WTO) ถ้าทรัมป์เข้ามาเคลื่อนไหวเรื่องอัตราภาษี จีนจะปกป้องสิทธิของตนภายใต้กฎระเบียบภาษีองค์การการค้าโลก ถ้าประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ได้รับเลือกตั้งคนใหม่ คือ นายโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ามาและดำเนินการคุกคามตามการหาเสียงของเขา ที่จะเรียกเก็บอัตราภาษีอย่างเป็นการลงโทษสินค้าที่ทำในประเทศจีน นี่เป็นคำกล่าวอย่างเป็นทางการในวันพุธที่ผ่านมาของเจ้าหน้าที่การค้าระดับสูงของจีน (Reuters)


     ประเทศจีนเป็นท็อปด้านนวัตกรรม: จีนจะผลักดันการเติบโตในด้านนวัตกรรมของเอเซียอย่างกว้างขวางทั่วโลก และกำลังกลายเป็นประเทศแรกที่ยื่นขอจดสิทธิบัตร 1 ล้านฉบับภายในหนึ่งปี ขององค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WlPO) นักประดิษฐ์ชาวจีนส่วนใหญ่ยื่นใบสมัครในปี 2558 ในงานด้านวิศวกรรมไฟฟ้า ซึ่งรวมถึงการโทรคมนาคม ตามด้วยเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และเซมิคอนดักเตอร์ และเครื่องมือวัด รวมทั้งเทคโนโลยีทางการแพทย์ ในขณะที่ทั่วโลกมีการยื่นขอจดสิทธิบัตรจำนวน 2.9 ล้านฉบับเมื่อปีที่แล้ว เพิ่มขึ้น 7.8% จากปี 2557 ซึ่งประมาณสองในสามของสิทธิบัตรที่ยื่นจะได้รับการอนุมัติในท้ายที่สุด สหรัฐฯ เป็นอันดับที่สองในปีที่ผ่านมาที่ยื่นการจดสิทธิบัตร 526,296 ฉบับ ตามด้วยญี่ปุ่นที่ 454,285 ฉบับ และเกาหลีใต้ 238,015 ฉบับ (Reuters)


สินค้าโภคภัณฑ์ :

     น้ำมันพลิกบวกวันพุธ แม้นักลงทุนจะกังขาว่าจะลดการผลิตได้ขนาดที่จะแก้ปัญหาอุปทานล้นเกินได้จริงหรือ น้ำมันดิบสหรัฐล่วงหน้าบวก 8 เซนต์ ปิดที่ 48.11 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล Brent บวก 5 เซนต์ ปิดที่ 49.16 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ปิดสูงสุดนับแต่สิ้น ต.ค. (Reuters)
ทองคำลดลง 2% สู่จุดต่ำสุดรอบ 9 เดือนครึ่งวันพุธ หนุนโดยดอลลาร์ที่แข็งค่าวิ่งสูงสุดนับแต่ปี 46 เพราะตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดี ยิ่งย้ำว่าน่าจะขึ้นดอกเบี้ยเดือนหน้าเลย ราคาทองคำตลาดจรปิดลบ 1.9% ไปอยู่ที่ 1,188.82 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หลังอ่อนตัว 2.5% แตะ 1,188.82 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ต่ำสุดนับแต่ 10 ก.พ. ราคาทองคำตลาดจรปิดลบ 1.8% ไปอยู่ที่ 1,189.30 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ (Reuters)


Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) TeI: 02 680 5041
Mr. Krit SuwanpibuI (No.17968) TeI: 02 680 5090
Mrs. VajiraIux SangIerdsiIIapachai (No. 17385) TeI: 02 680 5077
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) TeI: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) TeI: 02 680 5094

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!