- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 24 November 2016 17:41
- Hits: 3535
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวโน้มลงทดสอบ 1485 และ 1470
SET Index: 1495.22 เคลื่อนไหวในกรอบแคบต่ำกว่าระดับ 1500 จุด หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นมาเคลื่อนไหวเหนือ 1485 จุด ซึ่งเราคาดว่า การปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในระยะสั้น น่าจะเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปปิด Gap ที่บริเวณ 1495 จุด ในขณะที่แนวโน้มหลักยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลง โดยมีแนวรับที่ 1484 และ 1470 จุด ถ้าหลุดจะมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับสำคัญ 1440 จุดบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ซึ่งเราแนะนำให้ใช้เป็นจังหวะเข้าซื้อหุ้นบางส่วน
แนวต้าน : 1495 และ 1497
แนวรับ : 1490 และ 1485
TPIPL = 2.28 / 2.34, PTT = 344 / 348, IRPC = 4.78 / 4.84, BANPU = 18.60 / 18.80, IVL = 33.50 / 34.50
Tipco Foods (TIPCO TB; THB 13.90) – ซื้อ
แนวต้าน : 15.50 และ 16.00 / แนวต้านสำคัญ 18.00
แนวรับ : 13.90 และ 13.70
ราคาหุ้นปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้น หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันขึ้นไปได้ พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยเหนือระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50
แนะนำซื้อ TIPCO โดยมีแนวรับที่ 13.90 และ 13.70 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 15.50 และ 16.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 13.40 ลงไป
Mono Technology (MONO TB; THB 2.94) – ซื้อ
แนวต้าน : 3.10 และ 3.20
แนวรับ : 2.94 และ 2.90
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันทำให้โครงสร้างในระยะยาวยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยที่ระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 60
แนะนำซื้อ MONO โดยมีแนวรับที่ 2.94 และ 2.90 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 3.10 และ 3.20 เป็นจุดขายทำกำไรในระยะสั้น
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 2.84 ลงไป
SET50 Index Futures
S50Z16 ปรับตัวลดลงที่บริเวณแนวต้าน 932 ตามกรอบแนวโน้มขาลง หลังจากเพิ่มขึ้นไปทะลุผ่านแนวต้านที่ 923 ขึ้นไปได้ แต่ยังคงเราคาดว่า โครงสร้างหลักยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลง โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 932 และมีแนวรับที่ 923 ถ้าหลุดจะมีแนวรับถัดไปที่ 910
แนวต้าน : 930 และ 932
แนวรับ : 925 และ 923**
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Short ใน S50Z16 โดยมีแนวต้านที่ 930-932 และมแนวรับที่ 923 เป็นจุดขายทำกำไร และ Short เพิ่มถ้าหลุด 922 ลงไปต่อเนื่อง
STOP LOSS สถานะ Short ถ้า S50Z16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 935 ขึ้นไป
TPIPLZ16
ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคไปทดสอบแนวต้านสำคัญของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 2.34-2.36 หลังจากเคลื่อนไหวในกรอบแคบที่บริเวณ 2.20-2.24 ในระยะสั้น น่าจะมีแรงขายทำกำไรที่บริเวณ 2.34 และมีแนวรับที่ 2.28 และ 2.24 เป็นจังหวะในการกลับเข้าไป Open Long
แนวต้าน : 2.34 และ 2.36
แนวรับ : 2.28 และ 2.24
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Short ที่แนวต้าน 2.35-2.36 และมีแนวรับที่ 2.28 และ 2.24 เป็นจังหวะขายทำกำไรพร้อมกับ Open Long
STOP LOSS สถานะ Short ถ้า TPIPLZ16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือ 2.40 ขึ้นไป
ITDZ16
ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค หลังจากปรับตัวลดลงไปเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 5.00 ซึ่งเราคาดว่า โครงสร้างในระยะยาวน่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 5.40 และ 6.00 เราจึงแนะนำให้กลับเข้าไป Open Long ที่บริเวณ 5.00 และ 4.90
แนวต้าน : 5.20 และ 5.35
แนวรับ : 4.96 และ 4.90
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ใน ITDZ16 ที่บริเวณแนวรับ 5.00 และ 4.90 เพื่อคาดหวังการฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 5.40
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า ITDZ16 ปรับตัวลดลงต่ำกว่า 4.77 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...กรอบขึ้นยังมีจำกัด
ในการประชุมอย่างเป็นทางการของกลุ่ม OPEC ในวันที่ 30 พ.ย. ถือเป็นอีกวันที่ตลาดให้ความสนใจ เนื่องจากจะส่งผลต่อราคาน้ำมันในตลาดโลก โดยตลาดคาดกันว่าทาง OPEC น่าจะบรรลุข้อตกลงในการลดกำลังการผลิต เพียงแต่จะลดอย่างไรหรือลดเท่าไร โดยความเห็นของนักวิเคราะห์น้ำมัน ส่วนใหญ่มองทาง OPEC จะลดกำลังการผลิต แต่จะไม่มาก โดยทาง Goldman Sach มองจะลดกำลังการผลิตมาอยู่ที่ 33 ล้านบารเรล์ต่อวัน จากกำลังการผลิตในเดือน ต.ค. ที่ 33.8 ล้านบารเรล์ต่อวัน หากลดมาอยู่ที่ระดับ 32.5-33.0 ล้านบารเรล์ต่อวัน ก็เท่าๆกับข้อตกลงการลดกำลังการผลิตอย่างไม่เป็นทางการในเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา
แม้ตลาดจะคาดกันว่าทาง OPEC จะลดกำลังการผลิต แต่ทาง Hedge fund กลับมีการ Short position น้ำมันเพิ่มขึ้น โดยข้อมูลสิ้นสุดในวันที่ 15 พ.ย. พบว่า Gross short position ยังเพิ่มขึ้น จากรูปด้านซ้าย เราจะเห็นปริมาณการ Short น้ำมันทั้ง 3 ตลาด ยังเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตามหากมีการลดจริงๆ และในปริมาณมากพอ ที่ทางตลาดมองว่าจะส่งผลต่อราคาน้ำมัน เรามองว่าทาง Hedge fund จะ Cover short คืน แต่หากมองว่าการลดในครั้งนี้ไม่มากพอ ทาง Hedge fund น่าจะ Short น้ำมันเพิ่ม จนส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวลง
หากได้ข้อสรุปเกี่ยวกับการลดกำลังการผลิตของทางกลุ่ม OPEC และหากออกมาในเชิงบวก น่าจะดันราคาน้ำมันให้ขึ้นไปยืนในกรอบ 50-55 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่หากออกมาในเชิงลบ ราคาน้ำมันอาจลงมาในกรอบ 45-40 ดอลลาร์ต่อบารเรล์ นั่นก็หมายความว่าหุ้นพลังงานของไทยจะผันผวนทั้งเชิงบวกและลบได้ในช่วงสัปดาห์หน้า ซึ่งจะเป็นวันที่ทาง MSCI Rebalancing มีผลบังคับใช้ในวันที่ 30 พ.ย. หากมาดูทิศทางดัชนี SET ในช่วงที่เหลือของเดือน พบว่ามีโอกาสที่ขึ้นและลง พอๆกัน ขึ้นอยู่กับว่าจะมีปัจจัยอะไรเข้ามากระทบ
สัญญาณแรงกด ตลาดหุ้นไทยในตอนนี้คือ ค่า Earning revision ratio ดิ่งลงไปมากกว่าในภูมิภาค (โดยของภูมิภาคยังทรงๆตัว) สะท้อนความกังวลของนักลงทุนต่างประเทศต่อแนวโน้มการทำกำไรของตลาดหุ้นไทย ซึ่งตอนนี้เห็นได้ชัดมาก ว่าไม่มีหุ้นกลุ่มไหนที่มีแรงซื้ออย่างชัดเจน จะเป็นแค่ซื้อสลับกลุ่มเล่นสั้น สัญญาณที่เกิดขึ้นเรามองว่าเป็นประเด็นที่ทำให้นักลงทุนต่างประเทศ เทขายหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง
ทิศทางดัชนี SET คาดยังสามารถขึ้นได้ต่อ แต่ไม่มาก คือน่าจะขึ้นทะลุ 1500 จุด แล้วแกว่ง หากยืนได้ กรอบขึ้นจะอยู่ที่ 1510-1520 จุด แต่หากยืนไม่ได้ ดัชนีจะค่อยๆซึมลง วันนี้คาดดัชนี SET จะขึ้นไปทดสอบ 1500 จุดแล้วอาจมีแรงขายสลับออกมา โดยวันนี้มองแนวต้านที่ 1502-1506 จุด ส่วนแนวรับที่ 1490-1485 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร DTAC TRUE IRPC
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary...
SET ช่วงเช้าปิดที่ 1,495.22 จุด ลดลง 1.14 จุด (-0.08%) มูลค่าการซื้อขาย 16,770.22 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ผัวผวนในกรอบ 1490-1500 จุด ตลาดรอปัจจัยใหม่หนุน ด้านตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่แกว่งลบ ติดตามการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่ยังมีแนวโน้มอ่อนค่า
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดบ่าย ตลาดกลับมาเล่นประเด็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดอีกรอบ หลังเฟดเริ่มมออกมาให้ความเห็นว่ามีความเหมาะสมที่สหรัฐฯจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. เรามองว่าน่าจะเห็นการแข็งค่าขึ้นของค่าเงินดอลลาร์ในช่วงสั้นๆนี้ แต่เนื่องจากตลาดยังมองว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยรอบถัดไปน่าจะเป็นช่วง 2H/17 ทำให้การแข็งค่าไม่น่าจะแข็งขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งหากเป็นไปในลักษณะนี้ จะไม่ได้กดดันตลาดหุ้นไทยมากนัก ระยะสั้นตลาดยังแกว่งตัวออกข้าง เพื่อปัจจัยใหม่ๆเพิ่มเติม กลยุทธ์ยังเน้นขึ้นแรงขายลงแรงซื้อกลับ มองแนวต้าน ที่ 1500 จุด และ 1520 จุด แนวรับ 1470 จุด แนะนำ SQ (Consensus Target price สูงสุด อยู่ที่ 4.80 บาท) บริษัทรับเหมาน้ำดี SQ ถือเป็นบริษัทรับเหมาที่ไม่เหมือนใคร คือ รายได้มีความแน่นอนจากสัญญาระยะยาว 8-12 ปี ในขณะที่การทำกำไรก็ถือว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยพอสมควร โดยมี Gross margin เฉลี่ย 24-26 % และ Net margin ประมาณ 12-14% และงานมีคู่แข่งน้อยราย เพราะอาศัยความชำนาญเฉพาะทาง และใช้เงินทุนสูงในการทำธุรกิจ ทำให้การแข่งขันไม่รุนแรง โดยการเข้าตลาด ทำให้ SQ สามารถเติบโตได้สูงกว่าในอดีต เพราะไม่มีข้อจำกัดด้านเงินทุนเหมือนในอดีต และตลาดการทำเหมืองในภูมิภาคอินโดจีนยังมีโอกาสเติบโตอยู่มากมาย เนื่องจากเป็นภูมิภาคที่มีทรัพยากรทั้งถ่านหินสินแร่ต่างๆมากมาย ซึ่งเราเชื่อว่าในอนาคตมีโอกาสที่จะเห็น backlog ของ SQ ทะลุ 1 แสนล้านบาทได้ จากปัจจุบันที่ 3.58 หมื่นล้านบาท โดย SQ อยู่ระหว่างเข้าเตรียมประมูลงานใหญ่อีก 2 แห่ง คือโครงการแม่เมาะ9 และเหมืองถ่านหินที่เซกองประเทศลาว มูลค่างานรวมประมาณ 4 หมื่นล้าน บาท ปัจจุบัน SQ ซื้อขายกันที่ระดับ PE17-18 เพียง 13.6 เท่า และ 10.5 เท่า
Technical Pick (PM) & Cash Balance...
Tipco Foods (TIPCO TB; THB 13.90) - ซื้อ
Mono Technology (MONO TB; THB 2.94) - ซื้อ
Cash Balance Preview : คาดหลักทรัพย์ที่มีโอกาสจะติด Cash Balance สัปดาห์หน้า : FN, TSF (กรณีหุ้นแม่ติด ฯ Warrant ทุกตัวของหุ้นนั้นจะติดตามด้วย)
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]