- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 23 November 2016 16:08
- Hits: 2312
บล.เอเซียพลัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์การลงทุน
รัฐหนุนการใช้จ่ายในประเทศผ่านการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย และลดค่าธรรมเนียมหนุนนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวไทยนานขึ้น โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ขณะที่แรงกดดันจาก Fund Flow ไหลออกยังมีอยู่ และทำให้ SET Index ยังแกว่งตัวต่ำกว่า 1,500 จุด Top Picks เลือก BLA(FV@B62) ได้ประโยชน์จาก Bond Yield ที่เพิ่มระยะสั้น และ BCH([email protected])
(+) รัฐหนุนเศรษฐกิจผ่าน '“C' ทั้งช่วยเหลือคนจน&ดึงนักท่องเที่ยวอยู่นานขึ้น
วานนี้ ครม.อนุมัติมาตการช่วยเหลือเพื่อกระตุ้นการบริโภค(C) ในช่วงงวด 4Q59 คือ แจกเงินให้เปล่าผู้มีรายได้น้อยที่อยู่นอกภาคการเกษตรวงเงิน 1.27 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น รายได้ไม่เกิน 3 หมื่น/ปี แจกคนละ 3 พันบาท และ 3 หมื่น - 1แสน/ปี แจกคนละ 1.5 พันบาท คาดรัฐเบิกจ่าย 1-31 ธ.ค.59 ซึ่งได้รวมอยู่ในประมาณการ GDP Growth ปี 2559 ซึ่ง ASPS อยู่ในช่วงทบทวนประมาณการใหม่คาดว่าจะอยู่ราว 3.2-3.3% นอกจากนี้รัฐยังออกมาตการส่งเสริมภาคการท่องเที่ยว กำหนดระยะเวลา (1 ธ.ค.59- 28 ก.พ.60) โดย 1) ลดค่าธรรมเนียมเข้าประเทศรวม19 ประเทศ อาทิ สหรัฐ ญี่ปุ่น อังกฤษ จีน อินเดีย บัลแกเรีย ภูฎาณ เป็นต้น โดยยกเว้นค่าธรรมเนียมผ่านวีซา 1 พันบาท/คน และลดค่าธรรมเนียมวีซ่าที่ช่องทางด่านตรวจคนเข้าเมือง เหลือ 1000 บาท/คน จากเดิม 2000 บาท/คน และขยายระยะเวลา (Long Stay VISA) กลุ่มนักท่องเที่ยวที่พักระยะยาวอายุ 55 ปีขึ้นไป คือ ขยายเป็น 10 ปี (เดิมครั้งละไม่เกิน 1 ปี) ต่ออายุครั้งละ 5 ปี
ทั้งนี้ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติพบว่า จีนเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางมามากสุด 30% ของยอดนักท่องเที่ยวทั้งหมด รองลงมาคือ มาเลเซีย 10% เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ลาว อินเดีย 4% รัสเซีย อังกฤษ สหรัฐ 3% เชื่อว่าเป็นการกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับสิทธิเข้ามาไทย ซึ่งน่าจะดีต่อหุ้นโรงพยาบาล โดยเฉพาะที่เน้นคนไข้ต่างชาติ นำโดย BH(FV@213) มีรายได้คนไข้ต่างชาติสูงสุด 64%ของรายได้รวม ที่เหลือเป็นคนไข้ในประเทศ รองลงมาคือ BDMS([email protected]) มีรายได้คนไข้ต่างชาติราว 30% ของรายได้รวม ที่เหลือ 70% เป็นคนไข้ในประเทศไทยและ BCH([email protected]) มีรายได้จากต่างชาติน้อยเพียง 5% ของรายได้รวม แต่การที่ได้เตรียมโรงพยาบาล World Medical Center ไว้พร้อมรองรับนโยบายรัฐ น่าจะหนุนการเติบโตในระยะยาว และได้ แต่หากพิจารณา upside พบว่า BCH มี unside มากสุดราว 15% รองมาคือ BH 13% และ BDMS 11.4% จึงเลือก BCH เป็น Top pick
(+) BLA ประโยชน์จาก bond yield ที่เพิ่มขึ้น
หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก Bond Yield ที่ปรับขึ้น ดีต่อธุรกิจประกันชีวิต สะท้อนล่าสุด Bond yield curve ระยะ 10 ปี ไทย ปรับดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 2.61% จาก 2.02% เมื่อสิ้นสุด 2Q59 ในทิศทางเดียวกับ Bond Yield สหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2.36% สูงสุดในรอบ 1 ปี หนุนให้ Bond Yield 10 ปี ในภูมิภาคเอเชียปรับตัวขึ้น อาทิ ฟิลิปปินส์ล่าสุด 4.62%(จาก 3.88% ต้นเดือนที่ผ่านมา) , อินโดนีเซีย 7.89%(จาก 7.21% ต้นเดือนที่ผ่านมา) , มาเลเซีย 4.39%(จาก 3.60% ต้นเดือนที่ผ่านมา) ,ซึ่งถือเป็นประเด็นบวกต่อกลุ่มประกันชีวิต อย่าง BLA(FV@B62) กล่าวคือ ทำให้ไม่ต้องเพิ่มการตั้งสำรองพิเศษ (LAT Reserve) อย่างที่เคยคาดการไว้ในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่แนวโน้มการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับสุทธิงวด 4Q59 จะเป็นในทิศทางเร่งเมื่อเข้าสู่ฤดูกาล จึงทำให้นักวิเคราะห์ ASPS ปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2559-60 ที่ 8.5% และ 74% yoy ทำให้ผลการดำเนินงานปี 2559-60 จะเท่ากับ 9.8% yoy และ 37.6% yoy ตามลำดับ หนุนเพิ่มมูลค่าพื้นฐานปี 2560 เป็น 62 บาท (จาก 54 บาท เพิ่มขึ้น 14.8%) อ่านรายละเอียดใน Equty Talk วันจันทร์ที่ 21 พ.ย. 2559
(-) ภาพรวมต่างชาติสลับมาซื้อหุ้นในภูมิภาค แต่ยังขายหุ้นในกลุ่ม TIP
แรงขายหุ้นในภูมิภาคที่ลดลงเรื่อยๆ จนวานนี้ต่างชาติสลับมาซื้อสุทธิเป็นวันแรก ด้วยมูลค่าราว 330 ล้านเหรียญ (หลังจากขายสุทธิติดต่อกันนานกว่า 19 วัน) โดยหลักๆเป็นการกลับมาซื้อสุทธิในตลาดหุ้นแถบอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ อย่างเกาหลีใต้ที่ถูกซื้อสุทธิราว 293 ล้านเหรียญ (ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2) และไต้หวัน 137 ล้านเหรียญ (หลังจากขายสุทธิ 9 วัน) ส่วนตลาดหุ้นในกลุ่ม TIP ต่างชาติยังคงขายสุทธิ คือ อินโดนีเซียถูกขายสุทธิ 54 ล้านเหรียญ (ขายสุทธิเป็นวันที่ 10), ฟิลิปปินส์ 17 ล้านเหรียญ (ขายสุทธิเป็นวันที่ 3), และไทยที่ถูกขายสุทธิราว 28 ล้านเหรียญ หรือ 993 ล้านบาท (ขายสุทธิติดต่อกันเป็นวันที่ 22 โดยมีมูลค่ารวมสูงถึง 3.63 หมื่นล้านบาท) ต่างกับนักลงทุนสถาบันฯที่ซื้อสุทธิราว 1.28 พันล้านบาท (ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 3)
ส่วนทางด้านตราสารหนี้ไทย นักลงทุนสถาบันฯซื้อสุทธิราว 1.37 หมื่นล้านบาท ต่างกับนักลงทุนต่างชาติที่ยังคงขายสุทธิราว 565 ล้านบาท และเป็นการขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 9 โดยมีมูลค่ารวมสูงถึง 8.28 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้ Bond Yield 10 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยล่าสุดอยู่ที่ 2.58%
ภรณี ทองเย็น เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 004146
เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 004132
พบชัย ภัทราวิชญ์ เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 052647
ภราดร เตียรณปราโมทย์ เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
พาสุ ชัยหลีเจริญ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
ฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ ผู้ช่วยนักเศรษฐศาสตร์