- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 22 November 2016 16:24
- Hits: 2138
บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) : Market Comment
คาดหวังจากการประชุมโอเปกในช่วงปลายเดือนนี้
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น คาดหวังน่าจะตกลงกันได้ในการประชุมปลายเดือน ทำให้ DOW JONES, NASDAQ, S&P500 ปิด 0.47%, 0.89%, 0.75%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น คาดหวังน่าจะตกลงกันได้ในการประชุมปลายเดือน ทำให้ DAX, FTSE, CAC40, FTMIB ปิด 0.19%, 0.03%, 0.56%, 0.19%
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 47.49 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 2.04 ดอลลาร์ ปิดที่ 48.90 ดอลลาร์/บาร์เรล คาดหวังโอเปกจะร่วมมือกันได้
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกันกับภูมิภาค จากความคาดหวังในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นของรัฐบาล หลังมีกระแสข่าวในนสพ. จากแหล่งข่าวกระทรวงการคลังเตรียมเสนอมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปีนี้ คือ 1. มาตรการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศได้ตามจำนวนเงินที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท เพิ่มเติมจากที่ก่อนหน้านี้ที่ให้มีการลดหย่อนได้ 1.5 หมื่นบาท รวมทั้งปีนี้สามารถลดหย่อนได้ 3 หมื่นบาท คาดว่ามาตรการจะมีผลบังคับในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายก่อนสิ้นปี 2. มาตรการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากการซื้อสินค้าและบริการช่วงปลายปีไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท คาดว่ามาตรการจะมีผลในช่วง 1 สัปดาห์ก่อนสิ้นปี 3. มาตรการยกเว้นภาษีเพื่อจูงใจให้มีการซื้อเครื่องสำอางและน้ำหอมในราคาถูกลง คาดว่ามาตรการจะมีผลในช่วงเวลา 2 เดือน
(ล่าสุดรองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจสั่งทบทวน และให้คลังหามาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่มีรายรวมได้ไม่เกินปีละ 1 แสนบาท จากยอดผู้มีรายได้น้อยที่ได้ลงทะเบียนเพื่อรับสวัสดิการของรัฐทั้งหมด 8.3 ล้านราย) หลังมีรายงานการเก็บภาษี VAT ที่ต่ำกว่า 920 ล้านบาทในเดือนต.ค. เนื่องจากประชาชนไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะมีการจับจ่าย กอปรกับรัฐบาลต้องการที่จะรักษา momentum ของเศรษฐกิจในไตรมาส 4/2559 ให้มีการเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งวานนี้มีการเปิดเผย GDP ของไทยไตรมาส 3/2559 ขยายตัว 3.2% ซึ่งใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด ทำให้สภาพัฒน์คาดว่า GDP ในปีนี้จะขยายตัวราว 3.2% ต่ำกว่าที่คาดก่อนหน้านี้เล็กน้อยที่ 3.3% เนื่องจากคาดว่าไตรมาส 4/2559 เศรษฐกิจไทยอาจจะชะลอตัวเล็กน้อย เนื่องจากสถานการณ์การท่องเที่ยวภายในประเทศที่มีการชะลอตัวลง ทั้งจากอยู่ในช่วงไว้ทุกข์ และการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ ทำให้ยังต้องรอการประเมินผลกระทบให้ชัดเจนก่อน
ส่วน GDP ของไทยในปีหน้า คาดว่าจะเติบโตราว 3.0-4.0% โดยมีปัจจัยสนับสนุนคือ การฟื้วอย่างช้า ๆ ของภาคการส่งออก แนวโน้มการฟื้นตัวของการผลิตในภาคการเกษตร การลงทุนภาครัฐที่ขยายตัวในเกณฑ์ดีต่อเนื่อง และภาคการท่องเที่ยวที่อยู่ยังอยู่ในเกณฑ์ดีต่อเนื่อง วานนี้มีแรงซื้อหุ้น ROBINS เข้ามาหนุนจากความคาดหวังในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในช่วงปลายปี ทั้งนี้เราคาดหุ้น MINT, CENTEL, ROBINS และ HMPRO จะมีแรงหนุนในระยะสั้น หากมาตรการดังกล่าวมีความชัดเจนหรือมีแนวโน้มที่จะผ่านความเห็นชอบจากครม. ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าจะได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของราคาน้ำมันที่ฟื้นตัว จากความคาดหวังว่าจะมีการตกลงกันได้ในการลดกำลังการผลิตในการประชุมปลายเดือนนี้ ซึ่งมีรายงานการเปิดสถานะ long WTI futures ถึง 1.47 ล้านสัญญา ณ 15 พ.ย.
กลยุทธ์การลงทุน
Trading : ดีดกลับไม่ผ่านแถว ๆ 1,485-1,500 จุด แนะนำ ขายลดความเสี่ยง
Saravut Tachochavalit, Analyst
TEL : +66 (2) 862-9754 Ext. 9754
EMAIL : [email protected]