- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 21 November 2016 15:05
- Hits: 3194
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวต้าน 1480 แนวโน้มลงทดสอบ 1440
SET Index: 1479.51 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 1480 จุด แต่มูลค่าการซื้อขายไม่สูงมาก ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลง โดยมีแนวต้านที่ 1480-1485 จุด และมีแนวรับที่ 1465-1470 จุด ถ้าหลุดจะมีโอกาสปรบตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับสำคัญ 1440 จุด ซึ่งเราแนะนำให้ใช้เป็นจังหวะเข้าซื้อหุ้นบางส่วน
แนวต้าน : 1480 และ 1484
แนวรับ : 1475 และ 1470
PTT = 342 / 345, SCC = 468 / 474, CPF = 28.00 / 28.50, TRUE = 7.15 / 7.30, INTUCH = 50.00 / 50.50
Siam Global House (GLOBAL TB; THB 16.10) – ซื้อ
แนวต้าน : 16.70 และ 17.00
แนวรับ : 16.10 และ 16.00
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐานหลังจากฟื้นตัวเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ GLOBAL โดยมีแนวรับที่ 16.10 และ 16.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 16.70 และ 17.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 15.30 ลงไป
TRC Construction (TRC TB; THB 1.54) – ซื้อ
แนวต้าน : 1.60 และ 1.64 / แนวต้านสำคัญ 1.85
แนวรับ : 1.54 และ 1.52
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้น และเส้นแนวโน้มขาลงเดิมในระยะยาว
MACD ฟื้นตัวเหนือระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 60
แนะนำซื้อ TRC โดยมีแนวรับที่ 1.54 และ 1.52 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1.60 และ 1.64 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 1.46 ลงไป
SET50 Index Futures
S50Z16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 918 หลังจากฟื้นตัวเหนือระดับ 908-910 บริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน แต่เราคาดว่า โครงสร้างหลักยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลง โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 920-923 ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะมีแนวต้านถัดไป 930-933 และมีแนวรับสำคัญที่ 908
แนวต้าน : 916 และ 918
แนวรับ : 912 และ 910
คำแนะนำ: เราแนะนำให้เน้นการ Open Short ใน S50Z16 โดยมีแนวต้านที่ 916 และ 918 โดยมีแนวรับที่ 908 แต่ถ้าหลุด 905 ให้ Short ต่อเนื่อง
STOP LOSS สถานะ Short ถ้า S50Z16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 920 ขึ้นไป
TRUEZ16X
เคลื่อนไหวในกรอบแคบต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 7.40 ซึ่งเราแนะนำให้ Open short ที่บริเวณ 7.30 เนื่องจากแนวโน้มหลักยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนรับที่ 7.00 และ 6.80 แต่การปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 7.47 ขึ้นไป จะมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 7.80 อีกครั้ง
แนวต้าน : 7.30 และ 7.40
แนวรับ : 7.10 และ 7.00
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Short ใน TRUEZ16X ที่แนวต้าน 7.30-7.40 แต่ถ้าทะลุผ่าน 7.40 ขึ้นไปจะเป็นจังหวะ Open Long โดยมีแนวต้านถัดไปที่ 7.80
STOP LOSS สถานะ Short ถ้าหลังจาก TRUEZ16X ทะลุผ่าน 7.47 ขึ้นไป
ITDZ16
ปรับตัวลดลงไปเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 5.00 หลังจากฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 5.40 ซึ่งเราคาดว่า โครงสร้างในระยะยาวน่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 5.40 และ 6.00 เราจึงแนะนำให้กลับเข้าไป Open Long ที่บริเวณ 4.90
แนวต้าน : 5.20 และ 5.40
แนวรับ : 4.90 และ 4.86
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ใน ITDZ16 ที่บริเวณแนวรับ 4.90 เพื่อคาดหวังการฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 5.40
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า ITDZ16 ปรับตัวลดลงต่ำกว่า 4.77 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(AM)
Technical highlights
SET Index : แนวต้าน 1480 แนวโน้มลงทดสอบ 1430-1440
ทิศทางตลาด : SET Index ปิดที่ 1473.86 จุด เพิ่มขึ้น 0.01 จุด มูลค่าการซื้อขาย 49,392 ล้านบาท ตลาดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวในกรอบแคบต่ำกว่าระดับ 1480 จุด และมีแนวรับที่ 1470 จุด ถ้าหลุดจะมีโอกาสปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1460 และ 1440 จุด
Daily: เคลื่อนไหวในกรอบแคบต่อเนื่องหลังจากถูกขายทำกำไรที่บริเวณแนวต้าน 1480-1482 จุด ซึ่งเรายังคงคาดว่า โครงสร้างการเคลื่อนไหวของ SET Index ยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1430-1440 จุด และมีแนวต้านที่ 1480-1485 จุด แต่ถ้าปรับตัวลดลงหลุดระดับ 1420 จุดลงไป จะมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบ 1370 จุด
กลยุทธ์ :SET Index เกิดสัญญาณฟื้นตัวในระยะสั้นหลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1465-1470 จุด แต่ยังมีแนวต้านสำคัญที่ 1480-1485 จุด ทำให้แนวโน้มหลักยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1430-1440 จุด จึงยังคงแนะนำให้เน้นการขายหุ้นออกที่บริเวณ 1480-1485 จุด
Asia Fund Flow : 18 พฤศจิกายน 2559
ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ซื้อสุทธิ 25 ล้านเหรียญ (21 พ.ย.)
ตลาดหุ้นไต้หวัน ขายสุทธิ 202 ล้านเหรียญ
ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ขายสุทธิ 10 ล้านเหรียญ
ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ขายสุทธิ 17 ล้านเหรียญ
ตลาดหุ้นไทย ขายสุทธิ 21 ล้านเหรียญ
Most Active Value: แนวรับ แนวต้าน
SCC ซื้อที่แนวรับ 460 แนวต้าน 474 และ 480 464 / 460 470 / 474
PTT สัญญาณฟื้นตัว แนวต้าน 350 แนวรับ 340 ถ้าหลุดแนวรับถัดไป 330 340 / 336 344 / 347
CPF สัญญาณฟื้นตัว ซื้อที่แนวรับ 27.00-27.50 แนวต้าน 30.00 27.50 / 27.00 28.50 / 29.00
THAI แนวโน้มลงทดสอบ 24.00 และ 22.00 แนวต้านสำคัญ 26.50 24.00 / 23.50 25.50 / 26.00
FN ขายที่แนวต้าน 6.40 และ 6.70 แนวรับ 6.00 6.00 / 5.70 6.40 / 6.50
JAS-W3 ขายที่แนวต้าน 3.70 แนวรับ 3.30 3.50 / 3.30 3.70 / 3.80
DTAC เคลื่อนไหวในกรอบ 34.50-37.00 35.00 / 34.50 36.00 / 37.00
BJC สัญญาณซื้อ แนวโน้มขึ้นทดสอบ 55.00 และ 56.00 แนวรับสำคัญ 51.00 53.00 / 52.50 55.00 / 56.00
KBANK สัญญาณฟื้นตัว แนวรับ 167-168 แนวต้าน 172 และ 175 168 / 167 172 / 175
BEAUTY สัญญาณขาย แนวโน้มลงทดสอบ 10.00 แนวต้าน 11.00 10.50 / 10.00 10.80 / 11.00
Eastern Polymer Group (EPG TB; THB 13.90) - ซื้อ
แนวต้าน : 14.50 และ 15.00
แนวรับ : 13.80 และ 13.60
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง หลังจากเคลื่อนออกด้านข้างเพื่อสร้างฐานเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 60
แนะนำซื้อ EPG โดยมีแนวรับที่ 13.80 และ 13.60 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 14.50 และ 15.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 13.20 ลงไป
Scan Inter (SCN TB; THB 7.95) - ซื้อ
แนวต้าน : 8.50 และ 8.80 / แนวต้านสำคัญ 9.00
แนวรับ : 7.90 และ 7.80
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน แต่สามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้ ในขณะที่โครงสร้างในระยะยาวไม่ได้ทำจุดต่ำสุดใหม่
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ SCN โดยมีแนวรับที่ 7.90 และ 7.80 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 8.50 และ 8.80 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 7.70 ลงไป
Trading Pick Follow up: แนวรับ แนวต้าน
CCET แนวโน้มขึ้นทดสอบ 2.80-2.84 แนวรับสำคัญ 2.56 2.60 / 2.56 2.70 / 2.80
VGI แนวโน้มขึ้นทดสอบ 5.60 และ 5.80 แนวรับสำคัญ 4.98 5.10 / 5.00** 5.50 / 5.60
MACO แนวโน้มขึ้นทดสอบ 1.20 และ 1.23 แนวรับสำคัญ 1.08 1.12 / 1.10 1.18 / 1.23
ALLA สัญญาณฟื้นตัว แนวโน้มขึ้นทดสอบ 3.10 และ 3.20 แนวรับสำคัญ 2.84 2.94 / 2.90 3.04 / 3.10
TISCO สัญญาณฟื้นตัว แนวโน้มขึ้นทดสอบ 58.00 และ 60.00 แนวรับสำคัญ 53.00 54.50 / 54.00 56.50 / 58.00
BJC สัญญาณซื้อ แนวโน้มขึ้นทดสอบ 55.00 และ 56.00 แนวรับสำคัญ 51.00 53.00 / 52.50 55.00 / 56.00
SPA สัญญาณซื้อ แนวโน้มขึ้นทดสอบ 13.50 และ 14.00 แนวรับสำคัญ 12.20 12.60 / 12.40 13.20 / 13.50
TMT สัญญาณซื้อ แนวโน้มขึ้นทดสอบ 15.00 และ 15.30 แนวรับสำคัญ 14.00 14.50 / 14.40 15.00 / 15.30
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 - [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...ยังมีแรงกดจากค่าเงิน
หลังผลเลือกตั้งสหรัฐ ปรากฏว่าตลาดให้ความสำคัญกับนโยบายทางเศรษฐกิจในช่วงหาเสียงทั้งเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในของสหรัฐ (ผ่านการเร่งการใช้จ่ายโครงสร้างพื้นฐาน การลดภาษี) และนโยบายปกป้องการค้าของสหรัฐต่อประเทศคู่ค้าของเอเชีย นโยบายดังกล่าวตลาดตีความว่า จะไปหนุนให้เศรษฐกิจภายในโตขึ้นและดันเงินเฟ้อในสหรัฐ นอกจากนั้นสัปดาห์ก่อนทางทางประธานธนาคารกลางสหรัฐ ได้ส่งสัญญาณว่า FED พร้อมที่จะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม FOMC ในเดือน ธ.ค.นี้ ผลดังกล่าวได้เกิดแรงขายหุ้นในเอเชียพร้อมๆ กับกับการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนจากพันธบัตรของสหรัฐ และการอ่อนตัวของค่าเงินในเอเชีย
หากมาดูปฎิกริยาของค่าเงินในเอเชียตั้งแต่ต้นเดือน พ.ย. ถึงวันศุกร์ที่ผ่านมา ปรากฏว่า ส่วนใหญ่อ่อนตัวลงหมด ที่แรงมากๆ คือ ค่าเงินริงกิตมาเลเซีย ตามมาด้วยเกาหลี อินโดนีเชีย และฟิลิปปินส์ ส่วนของไทยอ่อนตัวน้อยสุดที่ 1.3% การอ่อนตัวของค่าเงินในเอเชีย คาดจะยังดำเนินต่อไปอีกระยะ จนกว่าจะเห็นความชัดเจนของการปรับขึ้นดอกเบี้ย หรือการแถลงนโยบายเศรษฐกิจของนาย Donald Trump ส่วนปฎิกริยาของตลาดในเอเชีย ต่างปรับตัวลงในระดับที่แตกต่างกันไป จากแรงขายของนักลงทุนต่างประเทศโดยตลาดหุ้นไทยลงไปประมาณ -2%
ช่วงที่ตลาดตีความว่า สหรัฐจะขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งตัวในรอบ 13 ปีครึ่งและอัตราผลตอบแทนจากพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้นเรื่อยๆ น่าจะยังกดดันให้นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นในเอเชียออกมาอีก แต่คาดจะไม่รุนแรง เหมือนในหลายๆ รอบที่ผ่านมา เนื่องจากทาง FED ส่งสัญญาณให้ตลาดรับรู้มาตลอด ช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว เรามองว่า ต่างชาติ น่าจะยังขายหุ้นออก ดังนั้นการเข้าไปรับหุ้นในช่วงนี้ จึงยังไม่ใช่ โดยให้รอดู 2 ปัจจัย คือ แนวรับของดัชนี และ สอง คืออัตราผลตอบแทนจากพันธบัตรหรือค่าเงินดอลลาร์
อาทิตย์นี้ คาดดัชนีตลาดหุ้นไทย จะยังเคลื่อนไหวตามดัชนีในภูมิภาค ขณะที่การประกาศผลการดำเนินงาน Q3/16 ของหลายๆ บริษัทออกมาดี แต่ตลาดไม่เล่น ซึ่งน่าจะยังกังวลกับภาพใหญ่ของตลาด เรามองว่าหากดัชนี SET ลงไปในระดับ 1450-1460 จุด แล้วนิ่งๆ เราแนะนำ ให้ทยอย ซื้อหุ้นไปบางส่วนอย่างหุ้นที่ทาง MSCI เพิ่มน้ำหนักคือ หุ้น TRUE IVL BEM หุ้นที่ลงไปลึกในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ อย่าง KBANK และหุ้นที่ผลการดำเนินงาน Q3/16 ออมมาดีมากอย่าง BCH อย่างไรก็ตามหากหลุดแนวรับที่ 1450+/- จุด ให้ไปทยอยรับที่แนว 1430-1420 จุด ตรงนี้ให้ ซื้อ พลังงาน ปิโตรเคมี ธนาคาร รับเหมาและผู้ผลิตอาหาร
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้แม้ว่านักลงทุนต่างประเทศจะยังคงขายสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่องแต่แรงขายเริ่มชะลอตัวลงหลังตลาดปรับลดลงมา 50 จุดหรือ -3% ใน 1 สัปดาห์และเริ่มยืนที่ระดับ 1470 จุดได้ ดังนั้นตลาดระยะสั้นอาจเห็นการรีบาวน์บ้างแต่คงขึ้นไปได้ไม่มากตราบใดที่ bond yield ยังคงปรับเพิ่มขึ้นอยู่ วันนี้เราแนะนำให้ ซื้อเก็งกำไรหุ้นกลุ่มอสังหาฯ หลังภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมีแนวโน้มจะเลื่อนออกไปจากปี 2560 ไปเริ่มใช้ในปี 2561 แทน ซึ่งดีกับผู้ประกอบการอสังหาฯ แนะนำเก็งกำไร AP LH QH SIRI และ SPALI วันนี้เราให้แนวรับที่ 1460-1465 จุดและแนวต้านที่ 1480-1485 จุด
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(AM)
Investment Strategy
กลยุทธ์: อาทิตย์นี้ คาดดัชนีตลาดหุ้นไทย จะยังเคลื่อนไหวตามดัชนีในภูมิภาค ขณะที่การประกาศผลการดำเนินงาน Q3/16 ของหลายๆ บริษัทออกมาดี แต่ตลาดไม่เล่น ซึ่งน่าจะยังกังวลกับภาพใหญ่ของตลาด เรามองว่าหากดัชนี SET ลงไปในระดับ 1450-1460 จุด แล้วนิ่งๆ เราแนะนำ ให้ทยอย ซื้อหุ้นไปบางส่วนอย่างหุ้นที่ทาง MSCI เพิ่มน้ำหนักคือ หุ้น TRUE IVL BEM หุ้นที่ลงไปลึกในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ อย่าง KBANK และหุ้นที่ผลการดำเนินงาน Q3/16 ออมมาดีมากอย่าง BCH อย่างไรก็ตามหากหลุดแนวรับที่ 1450+/- จุด ให้ไปทยอยรับที่แนว 1430-1420 จุด ตรงนี้ให้ ซื้อ พลังงาน ปิโตรเคมี ธนาคาร รับเหมาและผู้ผลิตอาหาร กลยุทธ์การลงทุนวันนี้แม้ว่านักลงทุนต่างประเทศจะยังคงขายสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่องแต่แรงขายเริ่มชะลอตัวลงหลังตลาดปรับลดลงมา 50 จุดหรือ -3% ใน 1 สัปดาห์และเริ่มยืนที่ระดับ 1470 จุดได้ ดังนั้นตลาดระยะสั้นอาจเห็นการรีบาวน์บ้างแต่คงขึ้นไปได้ไม่มากตราบใดที่ bond yield ยังคงปรับเพิ่มขึ้นอยู่ วันนี้เราแนะนำให้ ซื้อเก็งกำไรหุ้นกลุ่มอสังหาฯ หลังภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมีแนวโน้มจะเลื่อนออกไปจากปี 2560 ไปเริ่มใช้ในปี 2561 แทน ซึ่งดีกับผู้ประกอบการอสังหาฯ แนะนำเก็งกำไร AP LH QH SIRI และ SPALI วันนี้เราให้แนวรับที่ 1460-1465 จุดและแนวต้านที่ 1480-1485 จุด
Themes play :
ซื้อเก็งกำไรกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ : เราแนะนำ ซื้อเก็งกำไร หุ้นกลุ่มอสังหาฯ ในระยะสั้น หลังจากที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ร่างกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่กระทรวงการคลังและรัฐบาลกำลังผลักดันให้มีผลบังคับใช้ อาจมีความล่าช้าจากกำหนดเดิมที่ต้องการเห็นร่างกฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนม.ค.2560 โดยขณะนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นคณะกรรมการกฤษฎีกา และ เมื่อกฤษฎีกาพิจารณารายละเอียดของร่างกฎหมายแล้ว ก็จะต้องนำเข้าสู่ชั้นการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งก็ต้องใช้เวลาพิจารณาในชั้นคณะกรรมาธิการอีกระยะหนึ่ง โดยคาดว่าการบังคับใช้กฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างอาจต้องเลื่อนไปปี 2561 ซึ่งข่าวดังกล่าวจะส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่มอสังหาฯ ดังนั้นเราแนะนำ ซื้อ AP LH QH SIRI และ SPALI โดยมีราคาเป้าหมาย 9.00 บาท, 11.10 บาท, 3.40 บาท, 2.00 บาท และ 27.50 บาท ตามลำดับ
ประเด็นในสัปดาห์
21 พ.ย. : ไทยประกาศตัวเลข GDP YoY ไตรมาส 3/59 โดยตลาดคาด +3.4% จากไตรมาสก่อนหน้าที่ +3.5%
22 พ.ย. : สหรัฐประกาศตัวเลข Existing Home Sales เดือนต.ค. จากเดือนก่อนหน้าที่ 5.47 ล้านยูนิต
23 พ.ย. : สหรัฐประกาศตัวเลข Markit U.S. Manufacturing PMI เดือนพ.ย. จากเดือนก่อนหน้าที่ 53.4
23 พ.ย. : สหรัฐประกาศตัวเลข New Home Sales เดือนต.ค. จากเดือนก่อนหน้าที่ 593,000 ยูนิต
Opportunity Day
21 พ.ย. : TASCO GLOBAL JSP SPCG GOLD BJCHI
22 พ.ย. : SELIC MILL
23 พ.ย. : TU KOOL CPN CHO KIAT BA
24 พ.ย. : BIZ AH TSR BAFS TK PCSGH
28 พ.ย. : BANPU LHK NDR TMILL TTA K
29 พ.ย. : BJC BIGC CENTEL KTIS CNT AMATA BTS
30 พ.ย. : A GUNKUL PTG CGH SGP LALIN
1 ธ.ค. : BCPG HTECH SENA AIT
2 ธ.ค. : TRT PJW THRE JUBILE EA TM
6 ธ.ค. : MEGA SEAFCO ORI DEMCO PYLON
7 ธ.ค. : TVD ALLA GTB TPCH TKS
8 ธ.ค. : EPG DRT SCN SAT TRC TKT
Fundamental Stock :
STA : Company Note (คำแนะนำ : ขาย ราคาเป้าหมาย : 13.50 บาท)
Technical Pick:
กลยุทธ์ : SET Index มีแนวรับ 1460 จุด แนวต้าน 1480 จุด
Eastern Polymer Group (EPG TB; THB 13.80) - ซื้อ
Scan Inter (SCN TB; THB 7.95) - ซื้อ
SET Index : Sideway
Retail Research Team