- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 18 November 2016 16:51
- Hits: 3888
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้'แกว่งตัวแคบรอปัจจัยใหม่ๆ'
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ยังเป็นอีกวันที่มีความผันผวนตลอดทั้งวัน โดยสามารถยืนบวกได้ในช่วงเช้าก่อนจะมีแรงขายค่อนข้างมากในการเปิดตลาดช่วงบ่าย ปัจจัยกดดันหลักยังคงมาจากแรงขายของนักลงทุนต่างประเทศที่มียอดขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 19 ติดต่อกันอีก 2,400 ล้านบาท แม้ว่าจะมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มธนาคารจากความคาดหวังถึงการเร่งเดินหน้าโครงการพื้นฐานของภาครัฐฯ โดยกลุ่มที่ปรับตัวลดลงแรงได้แก่ กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม (-1.5%) กลุ่ม ICT (-0.9%) ส่วนกลุ่มที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้แก่กลุ่มธนาคาร (+1.0%) และกลุ่มท่องเที่ยว (+0.8%) ปิดตลาดดัชนีปรับตัวลดลง 0.79 จุด (-0.1%) มาอยู่ที่ 1,473.85 จุด ด้วยปริมาณซื้อขาย 51,297.65 ล้านบาท
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+) ตัวเลขยอดสร้างบ้านใหม่ของสหรัฐฯ เดือน ต.ค. ออกมาดีมาก โดยเติบโต 25.5% สู่ระดับ 1.32 ล้านยูนิต สูงสุดในรอบ 9 ปี
(+) ยอดขอรับสวัสดิการการว่างงานประจำสัปดาห์ของสหรัฐฯ ลดลง 1.9 หมื่นราย มาอยู่ที่ 2.35 แสนราย
(+) ดัชนีราคาผู้บริโภค CPI เดือน ต.ค. +0.4% เทียบ ก.ย. +0.3%
(+) รถไฟทางคู่ทั้ง 5 สาย มูลค่ากว่า 9.8 หมื่นลบ. เตรียมยื่นซองคุณสมบัติและซองเทคนิคราว ต้นเดือนธ.ค. 59-ม.ค.60 บวกต่อกลุ่มรับเหมาใหญ่
(+) ตั้งแต่ 9 พ.ย. 59 เกาหลีใต้อนุมัติให้นำเข้าไก่สดจากไทยได้ (บวกต่อ CPF, GFPT, TFG)
(+) ค่าระวาง BDI ทำ New High ในรอบ 2 ปี ล่าสุดอยู่ที่ 1231 จุด (+7.5%Day) คาดเป็นบวกต่อกลุ่มเดินเรือ TTA, PSL, RCL, JUTHA
(+) รัฐเห็นชอบแผนพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก 48 โครงการ 6.99 พันลบ. (บวกต่อรับเหมา, นิคม)
(-) ถ้อยแถลงของประธาน FED ต่อสภาคองเกรสวานนี้ คือ การปรับขึ้นดอกเบี้ยน่าจะเกิดในไม่ช้า และมีความเสี่ยงหากเฟดจะชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไป ส่งผลให้ค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้น, อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 10 ปี เพิ่มขึ้น, ราคาน้ำมันและทองคำลดลง
(-) ราคาน้ำมันดิบ WTI วานนี้ ลดลงไป 0.3%Day มาอยู่ที่ 45.42 US/Barrel
(-) ยังคงมีแรงขายสุทธิจากนักลงทุนต่างชาติออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยวานนี้ขายสุทธิไปอีก 2.44 พันลบ. และ MTD ขายสุทธิไปกว่า 2.48 หมื่นลบ.
(-) ราคาถ่านหิน (Newcastel) เริ่มเดือนใหม่เป็น ธ.ค. มาอยู่ 88 (-1.5%day)
(-) ทอท. เผยจำนวนนักท่องเที่ยวจีน เดือน ต.ค. ลดลงเหลือ 4 พันคน/วัน จากเดิม 1.2-1.3 หมื่นคน/วัน และ 1-17 พ.ย. จำนวนผู้โดยสารลดลง 0.63%YoY (เป็นลบ AOT, THAI, AAV, NOK, BA)
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
หุ้นเข้า/ออก SET 50 รอบ 1H60 (คาดหุ้นเข้า ได้แก่ GL, THAI, GLOBAL, SPRC, JAS, KKP, SCCC, RATCH และหุ้นออก ได้แก่ TASCO, SAWAD, TTW, WHA, BEC, TPIPL, BCP)
การประชุม OPEC ในช่วง 30 พ.ย. ณ.กรุงเวียนนา ออสเตรีย
ตัวเลขสำคัญในสัปดาห์นี ถึงสัปดาห์หน้า ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อสหรัฐเดือน ต.ค. (Core Inflation rate คาดไว้ที่ 2.2%/17 พ.ย.), ดัชนีความเชื่อมั่นยูโรโซน (22 พ.ย.), PMI ภาคการผลิตของเยอรมัน (23 พ.ย.), ยอดขายบ้านใหม่สหรัฐ (23 พ.ย.), GDP 3Q59 ของอังกฤษ (25 พ.ย.)
กลยุทธ์การลงทุน'Selective Buy'
ประเมินดัชนีวันนี้มีแนวโน้มปรับลดลง ด้วยประเด็นลบยังมีอยู่ทั้งความกังวลต่ออัตราดอกเบี้ย FED ที่จะกลับมากดดันตลาด Emerging Country จาก Fund Flow ที่ไหลออก เรามองตลาดมีปัจจัยบวกจำกัด แนะนำเลือก Selective รายตัว และเน้นการเก็งกำไรสั้นในวัน เป็นหลัก
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
TTA เก็งกำไร
ค่าระวาง BDI Index ปรับบวกขึ้นแข็งแกร่งมาที่ระดับ 1,231 จุด
รายงาน 3Q59 พลิกกลับเป็นกำไร จากธุรกิจเดินเรือขาดทุนลดลง และธุรกิจวิศวกรรมใต้น้ำได้ปัจจัยฤดูกาลหนุน
ปัจจุบันซื้อขายกันที่ระดับ 0.83 เท่า PBV
DTAC เก็งกำไร
ช่วง 3Q59 รายงานกำไรปกติ เพิ่มขึ้น 21%QoQ และมี Service Margin 34% ดีขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ 33%
EV/EBIDA ต่ำกว่าคู่แข่ง และมี EBITDA/Share 12 บาท/หุ้น
ราคาเหมาะสมปี 60 ที่ 40 บาท (DCF,WACC 7.7%,Growth Rate 1.5%)
ทีมวิเคราะห์