- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 18 November 2016 16:49
- Hits: 3897
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
การขึ้นดอกเบี้ยของ Fed เดือนหน้าเกือบแน่นอนแล้ว
คาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบวันนี้ หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐที่ออกมาดีมากทุกตัว และถ้อยแถลงของประธาน Fed ต่อรัฐสภาบ่งชี้ว่าการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ในเดือนหน้าเกือบจะเป็นเรื่องแน่นอนแล้ว ซึ่งทำให้ทุกตลาดเกิดใหม่นับจากนี้อยู่ภายใต้ความเสี่ยงของการที่เงินทุนจะไหลออกสู่สหรัฐ อย่างไรก็ตาม แนวโน้มที่ประเทศพัฒนาแล้วหันมาใช้มาตรการคลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เริ่มจากญี่ปุ่น ตามมาด้วยสหรัฐภายใต้ประธานาธิบดีคนใหม่ และล่าสุดสหภาพยุโรปเป็นปัจจัยบวกต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้การแข็งค่าของเงินดอลลาร์ก็เป็นประโยชน์ต่อภาคส่งออกของเอเซีย ภายในประเทศการเร่งโครงการ EEC ของรัฐบาลที่จะเริ่มปีหน้านับเป็นปัจจัยบวกสำคัญต่อเศรษฐกิจประเทศไทยในขณะที่สัญญาซื้อข้าวรัฐบาลต่อรัฐบาล กับ จีน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อเกษตรกรไทยและเศรษฐกิจโดยรวม
หุ้นเด่นวันนี้ : TISCO (Bt55.00; ซื้อ, ราคาเป้าหมายปี 60 ของ AWS 67.00 บาท)
บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นธนาคารที่มีผลประกอบการและฐานะทางการเงินที่ดีอย่างแท้จริง โดยมีความเพียงพอของเงินกองทุนในระดับสูง คุณภาพสินทรัพย์ที่ดี ความสามารถในการทำกำไรในระดับสูง และการบริหารจัดการที่ดี มูลค่าหุ้นในปัจจุบันถือว่าไม่แพง มีอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่น่าสนใจ แม้ว่าการขยายตัวของสินเชื่อปีนี้อาจจะติดลบหรือไม่เพิ่มขึ้นและขยายตัวเพียง 3% ในปี 60 แต่เราคาดว่ากำไรจะขยายตัวสูงถึง 16.7% ในปีนี้และชะลอตัวลงขยายตัว 6.9% ในปีหน้า อย่างไรก็ตามเรามองว่าสินเชื่ออาจจะมีโอกาสโตได้มากกว่า 3% ในปีหน้าหลังจากโครงการรถคันแรกสิ้นสุดลงมีผลตั้งแต่ 16 ก.ย. 59 และรายได้ครัวเรือนปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ตลอดจนการฟื้นตัวของการลงทุนรวมนำโดยการเร่งการลงทุนของรัฐบาล กำไรเก้าเดือนแรกของปี 59 อยู่ที่ 3.7 พันล้านบาท ขยายตัวสูงถึง 23.5% YoY โดยที่อัตราส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 4.2% ในไตรมาส 3/59 จาก 4.0% ในไตรมาส 2/59 และ 3.6% ในไตรมาส 3/59
ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิที่ดีขึ้นมาเป็นลำดับเกิดจากการขยายตัวของสินเชื่อเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลที่มีอัตราผลตอบแทนสูงในพอร์ตสินเชื่อทั้งหมด และการบริหารต้นทุนทางการเงินที่มีประสิทธิผล ค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญกลับคืนสู่ระดับปกติในปีนี้โดยเพิ่มขึ้น 19% QoQ และลดลง 49% YoY ในขณะที่อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมคงตัวที่ระดับ 3.04% ในไตรมาส 3/59 จาก 3.03% ในไตรมาส 2/59 เราคาดว่าอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงรวมอยู่ที่ระดับสูงมาก 20.4% เฉพาะขั้นที่ 1 ที่ 16.5% ในปีนี้ เพิ่มขึ้นจาก 18% และ 14% ในปี 58 ตามลำดับ หุ้น TlSCO ล่าสุดมี PER ที่ 8.9x ในปีนี้ ลดลงเป็น 8.3x ในปี 60 ราคาเป้าหมายของเราที่ 67 บาทซึ่งคำนวณมาจากค่า PBV ที่ 1.56 เท่า และ ROE 17% สูงกว่าราคาปิดล่าสุด 22% แถมมีอัตราตอบแทนเงินปันผลอีกถึง 4.6-4.8% Price Pattern ของ TlSCO มีความแข็งแกร่งอย่างมากในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิดทั้ง Daily, Weekly, & Monthly Buy Signal และยังคงมี Price Pattern ที่บ่งบอกถึงการทำ New High อีกต่างหาก ทั้งนี้เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ TlSCO มีเป้าหมายแรกเพื่อทดสอบ High เดิมที่ 60.25 บาท และมีเป้าหมายแรกของการทำ New High อยู่ที่ 67.25 บาท ซึ่ง TlSCO มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 53.25 บาท (Resistance: 55.50, 56.00, 57.00; Support: 54.25, 53.25, 52.75)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
รัฐเร่งเดินหน้าโครงการ EEC รัฐบาลเปิดเผยว่ากำลังเร่งรัดโครงการก่อสร้างต่างๆ รวมไปถึงการเบิกจ่ายงบประมาณภายใต้แผนงานพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) ที่จะเริ่มในช่วงปี 2560-61 ทั้งนี้โครงการ EEC จะประกอบไปด้วย 173 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวมกว่า 7.0 แสนลบ. ซึ่งในจำนวนนี้จะเป็นการลงทุนผ่านภาครัฐบาลจำนวน 1.5 แสนลบ. ขณะที่โครงการลงทุนส่วนที่เหลือจะเป็นในลักษณะของการร่วมทุนร่วมกับภาคเอกชน (Joint venture) รวมไปถึงส่วนที่จะมาจากภาคเอกชนเพียงอย่างเดียว (Bangkok Post) ความเห็น: เรามอง EEC จะเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญในระยะยาว
ดีลข้าว G2G ในไตรมาสสุดท้ายของปีจะหนุนการส่งออกข้าวไทย กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์คาดว่าการส่งออกข้าวไทยในปีนี้จะอยู่ที่ 9.5 ล้านตัน และจะส่งออกได้ต่อเนื่องในปีหน้าที่ระดับ 9 ล้านตัน โดยได้ปัจจัยสนับสนุนจากดีลการตกลงซื้อขายข้าวระหว่างภาครัฐสู่ภาครัฐ (G2G) ระหว่างไทยและประเทศเพื่อนบ้านต่างๆ ได้แก่ จีน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และอินโดนิเซีย ซึ่งคาดว่าจะสามารถได้ข้อสรุปและบรรลุข้อตกลงในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ทั้งนี้นับตั้งแต่ช่วงต้นปีจนถึงวันที่ 2 พ.ย. ยอดการส่งออกข้าวรวมอยู่ที่ 8.4 ล้านตัน (Bangkok Post)
ต่างประเทศ :
เยลเลน: เฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยในไม่ช้า นางเจเน็ท เยลเลน ประธานเฟดกล่าวต่อคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจร่วมของสภาคองเกรสเมื่อวันพฤหัสว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งล่าสุดไม่ส่งผลกระทบต่อแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด รวมทั้งการขอให้นางเยลเลนดำรงตำแหน่งประธานเฟดต่อไป ซึ่งจะหมดวาระในปี 2018 นางเยลเลนยังกล่าวอีกว่าเฟดอาจเปลี่ยนมุมมองหากรัฐบาลออกแผนเกี่ยวกับการปรับลดภาษีหลายแสนล้านดอลลาร์สหรัฐและเพิ่มการใช้จ่ายภาครัฐ ประธานเฟดให้ความเห็นว่ารัฐบาลชุดใหม่พึงระลึกว่าสหรัฐมีการจ้างงานเกือบเต็มที่และเงินเฟ้ออาจกำลังสูงขึ้น (Reuters)
เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรชันขึ้นเมื่อวันพฤหัส หลังข้อมูลการจ้างงานสหรัฐแสดงถึงตลาดแรงงานกำลังตึงตัวและเงินเฟ้อเริ่มเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนขายพันธบัตรรัฐบาลระยะยาว ราคาพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลง 5/32 อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ระดับ 2.242% ราคาพันธบัตรอายุ 30 ปี ลดลง 23/32 อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ระดับ 2.962% (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าสู่ระดับสูงสุดในรอบ 13 ปีครึ่งเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังเสร็จสิ้นการแถลงของนางเยลเลนต่อสภาคองเกรส ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ล่าสุดเพิ่มขึ้น 0.2% อยู่ที่ 100.61 หลังจากเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 100.65 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่เดือนเม.ย. 2003 (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดเพิ่มขึ้นเมื่อวันพฤหัส โดยดัชนี S&P500 ปิดบวกใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เนื่องจากหุ้นกลุ่มธนาคารได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นและหุ้นในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจและผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของบริษัทต่าง ๆ นางเจเน็ท เยลเลน ประธานเฟดทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. (Reuters)
ดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 6 เดือนในเดือนต.ค. เนื่องจากราคาน้ำมัน และค่าเช่าบ้านที่ปรับตัวขึ้น บ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ดัชนี headline CPl สหรัฐเพิ่มขึ้น 0.4% MoM หลังเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ย. ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาจนถึงเดือนต.ค. ดัชนี CPl เพิ่มขึ้น 1.6% เป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2014 ดัชนีดังกล่าวเพิ่มขึ้น 1.5% นับแต่ ม.ค.-ก.ย. การเพิ่มขึ้นของ CPl ในเดือนต.ค. ทั้ง MoM และ YoY เป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ดัชนี core CPl ซึ่งไม่รวมกลุ่มอาหารสดและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนต.ค. เช่นเดียวกับในเดือนก.ย. ซึ่งชะลอการเพิ่มขึ้นของ core CPl เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนมาอยู่ที่ 2.1% จากที่เพิ่มขึ้น 2.2% ในเดือนก.ย. เฟดตั้งเป้าอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 2% และติดตามอัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ 1.7% (Reuters)
ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 9 ปีในเดือนต.ค. เนื่องจากมีการสร้างบ้านสำหรับครอบครัวเดี่ยวและครอบครัวที่อยู่กันหลายคนมากขึ้น ทำให้มีความหวังว่าธุรกิจอสังหาจะช่วยหนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาส 4/59 ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 25.5% สู่ระดับ 1.32 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2007 และเพิ่มขึ้นเมื่อคิดเป็นร้อยละมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 1982 ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นทั้ง 4 ย่านที่อยู่อาศัยในเดือนต.ค. ส่วนตัวเลขการสร้างบ้านในเดือนก.ย. ยังอยู่ที่ 1.05 ล้านยูนิต ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลขในเดือนต.ค. จะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 1.16 ล้านยูนิต ทั้งนี้ การก่อสร้างที่พักอาศัยเป็นตัวฉุดจีดีพีมา 2 ไตรมาสติดต่อกัน (Reuters)
จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานในสหรัฐลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 43 ปีเมื่อสัปดาห์ก่อน ชี้ให้เห็นถึงตลาดแรงงานที่ตึงตัวอย่างรวดเร็ว ตัวเลขดังกล่าวลดลง 19,000 รายอยู่ที่ระดับ 235,000 ราย ณ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 12 พ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับแต่เดือนพ.ย. 1973 ตัวเลขในสัปดาห์ก่อนหน้านั้นยังไม่มีการปรับปรุง จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการในขณะนี้อยู่ต่ำกว่าที่ระดับ 300,000 รายซึ่งแสดงว่าตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่ง ติดต่อกัน 89 สัปดาห์แล้ว ซึ่งยาวนานที่สุดนับแต่ปี 1970 นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 257,000 ราย (Reuters)
เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัว 3.6% YoY ในไตรมาส 4/59 หลังจากมีข้อมูลเศรษฐกิจแข็งแกร่งออกมาหลายตัว ตามประมาณการจีดีพีของเฟด สาขาแอตแลนตาเมื่อวันพฤหัส ประมาณการตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/59 ล่าสุดเติบโตเร็วกว่าอัตราการเติบโตของจีดีพีที่ 3.3% ซึ่งคำนวณเมื่อวันที่ 15 พ.ย. จากเฟดสาขาแอตแลนตา (The Federal Reserve Bank of Atlanta)
ยุโรป :
ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันพฤหัสบดีปรับตัวสูงขึ้น นำโดยการฟื้นตัวสูงขึ้นของหุ้นกลุ่มทรัพยากรขั้นพื้นฐาน ขณะที่หุ้น lnvestec ซึ่งประกอบธุรกิจให้บริการทางการเงินสัญชาติแอฟริกาใต้ได้ปรับตัวสูงขึ้นโดดเด่นหลังรายงานผลประกอบการงวดครึ่งปีแรกเติบโตสูง อย่างไรก็ตามหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลดลงจากแรงเทขายทำกำไรหลังปรับตัวสูงขึ้นโดดเด่นนำมาก่อนหน้านี้ (Reuters)
EU เมื่อวันพฤหัสบดีบรรลุข้อตกลงกรอบงบประมาณสำหรับปีหน้า โดยเพิ่มสูงขึ้นมาอยู่ที่ 1.344 แสนล้านยูโร (1.4409 แสนล้านดอลลาร์ฯ) จากเดิมที่ 1.337 แสนล้านยูโร เพื่อสร้างการจ้างงานให้มีมากขึ้นและเพื่อรับกับวิกฤตที่อาจเกิดขึ้นจากผู้อพยพนอกเมือง อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้สมาชิกสภานิติบัญญัติและคณะบริหารได้ร้องขอไปในจำนวนที่มากกว่านี้ (Reuters)
ยังคงต้องจับตาสถานการณ์ในการลงประชามติในรัฐธรรมนูญของอิตาลี ซึ่งปัจจุบันพรรค Five Star Movement ซึ่งต่อต้าน EU กำลังได้รับคะแนนเสียงจากประชาชนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่นายกรัฐมนตรี Renzi ได้เตรียมแผนงบประมาณสำหรับปีหน้าที่จะใช้กระตุ้นเศรษฐกิจที่นับว่าไม่สอดคล้องกับนโยบายทางการคลังของ EU ที่กำหนดไว้ แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาอิตาลีจะได้รับการผ่อนปรนเพื่อให้สามารถใช้จ่ายลงทุนได้อย่างอิสระและสอดคล้องกับความต้องการของประเทศ (Reuters)
เอเชีย :
นายกรัฐมนตรี นายชินโซะ อาเบะ กล่าวเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาว่า เขามั่นใจว่าจะสร้างความเชื่อมั่นกับทรัมป์ได้ หลังการประชุมที่เขาต้องการความชัดเจนเกี่ยวกับการรณรงค์จากของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับพันธมิตรที่ยาวนานของสหรัฐฯ แต่เขาบอกว่าเขาจะไม่เปิดเผยรายละเอียดของการสนทนาเพราะการพูดคุยไม่เป็นทางการ (Reuters)
ญี่ปุ่นจะย้ายห้าประเทศรวมทั้งจีนและไทยออกจากกรอบการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร ในแง่ของการพัฒนาทางเศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้ดีขึ้น การเปลี่ยนแปลงจะมีผลบังคับใช้ในปีงบประมาณ 2562 โดยประเทศเหล่านั้นจะมี จีน, เม็กซิโก, บราซิล, ไทยและมาเลเซียถูกถอดออกจากรายการของผู้รับสิทธิประโยชน์ (Reuters)
ปูตินจะพูดคุยกับอาเบะและดูเตเต้ที่การประชุมเอเปค: ประธานาธิบดีรัสเซีย นายวลาดิมีร์ ปูติน จะเข้าพบกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น นายชินโซ อะเบะ ที่ที่ประชุมสุดยอดความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก (เอเปค) ในเปรู ในสัปดาห์นี้เพื่อหารือเกี่ยวกับข้อพิพาทดินแดนในกลุ่มของหมู่เกาะแปซิฟิก ปูตินเปิดการการเจรจาครั้งแรกของเขากับประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ Rodrigo Duterte เพื่อหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการจัดหาก๊าซธรรมชาติเหลวและไฮโดรคาร์บอนจากรัสเซียไปยังกรุงมะนิลา (Reuters)
จีนจะจับอุตสาหกรรมยานพาหนะไฟฟ้าใหญ่ที่สุดในโลก (EV) ให้แน่นขึ้น โดยกำจัดกิจการในประเทศที่อ่อนแอออกไป หลังจากที่จ่ายเงินไปหลายพันล้านดอลลาร์เพื่ออุดหนุนเพื่อส่งเสริมรถยนต์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่บางผู้ผลิตชั้นนำ EV ท้องถิ่นละเลยที่จะขอใบอนุญาตการผลิตที่มีต้นทุน โดยจีนเลือกที่จะลงทุนในการออกแบบและนวัตกรรมเทคโนโลยีมากกว่า จีนได้สร้างตลาด EV ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างรวดเร็ว ด้วยเงินอุดหนุน 4.5 พันล้านดอลลาร์ ในปีที่ผ่านมา โดยหวังจะลดการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อปรับปรุงคุณภาพอากาศในเมืองใหญ่ รวมถึงการเป็นแชมป์เทคโนโลยี (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นวันพฤหัสด้วยราคาน้ำมันสหรัฐเพิ่มขึ้นช่วงสั้นถึง 1 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลจากการคาดการณ์ว่า OPEC อาจลดกำลังการผลิตชนะความกังวลเรื่องอุปทานล้นเกิน แต่ดอลลาร์แข็งค่าจำกัดขาขึ้น Brent บวก 23 เซนต์ปิด 46.86 ดอลลาร์สหรัฐ ถอยจากสูงสุดที่ 47.62 ดอลลาร์ น้ำมันดิบ WTl บวก 32 เซนต์ปิดที่ 45.89 ดอลลาร์ หลังแตะจุดสูงสุดที่ 46.58 ดอลลาร์ (Reuters)
ราคาทองคำเมื่อวันพฤหัสบดีปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือนครึ่ง หลังจากค่าเงินดอลลาร์ฯ แข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบ 13 ปีครึ่ง โดยราคาทองคำตลาดจรปรับตัวลดลง 0.8% มาอยู่ที่ 1,215.50 ดอลลาร์ฯ ต่อออนซ์ หลังจากก่อนหน้านี้ได้มีการปรับตัวลดลงถึงระดับ 1,210.73 ดอลลาร์ฯ ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 มิ.ย. (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) TeI: 02 680 5041
Mr. Krit SuwanpibuI (No.17968) TeI: 02 680 5090
Mrs. VajiraIux SangIerdsiIIapachai (No. 17385) TeI: 02 680 5077
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) TeI: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) TeI: 02 680 5094