- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 18 November 2016 16:37
- Hits: 3510
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Today’s Report : RS
Our Portfolio Nov 2016 : BEM, EKH, KTC, PDG, ROBINS
แม้ SET ยังปรับลง แต่ก็มีแรงซื้อหนุนให้ทรงตัวได้ ดังนั้นซื้อแล้วเน้นถือ
ตลาดหุ้นวานนี้ : แม้ว่าจะยังมีแรงขายกดดันต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงเปิดทำการภาคบ่าย แต่ก็ถือว่า SET ยังมีจังหวะแกว่งทรงตัวได้ค่อนข้างดี ซึ่งครึ่งวันเช้าดัชนีแกว่งทรงตัวบวก/ลบแคบๆ ก่อนที่จะมีแรงขายกดดันให้ไหลลงอีกในช่วงเปิดภาคบ่าย แต่สุดท้ายตลาดก็ยังมีแรงซื้อกลับเข้ามาหนุนให้ SET ดีดขึ้นมาปิดเป็นลบเพียงเล็กน้อยได้ คาดว่านักลงทุนบางส่วนยังลุ้นถ้อยแถลงของประธานเฟดต่อสภาคองเกรสในช่วงค่ำอยู่
แนวโน้มตลาดวันนี้ : ค่าเงินดอลลาร์ขยับแข็งค่าต่อเนื่อง กดดันให้ค่าเงินบาทเริ่มอ่อนลงอีก หลังประธานเฟดกล่าวต่อสภาคองเกรสว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ ยิ่งทำให้นักลงทุนเชื่อว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค.นี้ค่อนข้างแน่นอน ดังนั้น SET ยังมีโอกาสที่จะอ่อนตัวลงต่ออีกในวันนี้ อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นในเอเชียเช้านี้ไม่ได้ตอบรับในเชิงลบมากนัก โดยส่วนใหญ่จะยังแกว่งตัวบวก/ลบแคบๆ มากกว่าจากความคาดหวังว่าเฟดน่าจะขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก แม้จะถูกกดดันบ้าง แต่นักลงทุนยังรอติดตามท่าทีของโอเปกและรัสเซียในการประชุมนอกรอบช่วงสุดสัปดาห์นี้อยู่
กลยุทธ์ : ดังนั้นแม้ SET ยังมีสิทธิอ่อนตัวลงอีก แต่ FSS คาดว่ากรอบลบค่อนข้างจำกัด ก่อนลุ้นพลิกกลับไปขยับบวกใหม่ได้ ดังนั้นซื้อแล้วเน้นถือต่อ
แนวรับ 1472-1467 , 1463-1460 จุด
แนวต้าน 1478-1482 , 1485-1490 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : TISCO , TPOLY , CPN(short)
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาคแต่เบาบางลงเหลือUS$180ล้าน โดยยังคงไหลออกไต้หวัน US$134ล้าน และไทย US$69ล้านขณะที่ไหลเข้าเกาหลีใต้ US$35ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคต่อไป เมื่อคืนนี้ประธานเฟดได้แถลงต่อคองเกรสถึงการจ้างงานที่แข็งแกร่งขึ้นจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้การขึ้นอัตราดอกเบี้ยเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ US Bond Yield 10 ปี ปรับขึ้นทันที พร้อมกับค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
• (0) ชัดเจนขึ้นถึงโอกาสขึ้นดอกเบี้ยเฟดเดือนหน้า หลังจากแรงขายของต่างชาติเบาบางลงในวันก่อน วานนี้กลับมาขายทั้ง 3 ตลาดในไทยถึง 1.44 หมื่นล้านบาท โดยเฉพาะพันธบัตรที่ขาย 1 หมื่นล้านบาท เพื่อรอคำแถลงของ Yellen ซึ่งเมื่อคืนได้กล่าวถึงมุมมองบวกของการจ้างงานและเงินเฟ้อที่ใกล้เป้า และส่งสัญญาณดอกเบี้ยนโยบายมีโอกาสขึ้นในเดือนหน้า ล่าสุดตลาดคาดโอกาสที่เฟดขึ้นดอกเบี้ยเฟดเดือน ธ.ค. ขยับขึ้นเป็น 96%จาก 94% เมื่อวันก่อน Bond Yield ของสหรัฐปรับขึ้นต่อทันที ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเช่นกัน เป็นลบต่อทองคำและหุ้น เชื่อว่าโฟลว์ยังไม่ไหลกลับเข้าเอเชีย (ยกเว้นญี่ปุ่น) เรายังมองเหมือนเดิม ดัชนีเดือน ธ.ค. ปรับขึ้นได้ด้วยแรงซื้อของ LTF/RMF และต่างชาติหยุดขาย เรามองจุดซื้อลงทุนที่ปลอดภัยที่ 2017PE 13.5 เท่าหรือ SET ~1,450 จุด
• (-) CPF การซื้อกิจการ 100% ใน Bellisio Parent ทำธุรกิจอาหารแช่แข็งพร้อมทานซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดอันดับ 3 ในสหรัฐ เป็นบวกในระยะยาวเพราะช่วยขยายฐานลูกค้าในสหรัฐและเป็นการเข้าสู่ธุรกิจ Food ที่ผันผวนน้อยกว่า Farm แต่ใน 1-2 ปีนี้ยังไม่ช่วยเพิ่มกำไรเพราะปีล่าสุด Bellisio ยังขาดทุนสุทธิ 501 ล้านบาท และมีค่าใช้จ่ายในการซื้อกิจการเข้ามาเพิ่ม ส่วนราคาที่ซื้อ US$1,075 ล้าน (3.8 หมื่นล้านบาท) คิดเป็น EV/EBITDA 13 เท่าถือว่าไม่ถูกแต่พอยอมรับได้ เราคงประมาณการกำไรและราคาพื้นฐาน CPF 38 บาท คงคำแนะนำซื้อ แต่ระยะสั้นนอกจากจะถูกกดดันจากผลขาดทุนของ Bellisio แล้ว ราคาไก่ยังทรงตัวในระดับต่ำมากว่า 5 สัปดาห์
• (0) GPSC แนวโน้มกำไร 4Q16 ชะลอลง Q-Q เพราะไม่มีเงินปันผลรับและเป็นช่วงหยุดซ่อมของโรงไฟฟ้า IPP แม้เป็นเวลาไม่นาน (8-9 วัน) แต่ทำให้รายได้จากค่าความพร้อมจ่ายลดลง เราคงประมาณการกำไรปีนี้ +54% Y-Y ส่วนปี 2017 คาดกำไร +16% Y-Yจากการรับรู้รายได้เต็มปีจากโรงไฟฟ้าที่ทยอย COD ในปีนี้และมี COD เพิ่มปีหน้า 4 แห่ง(177MW) เราคงราคาพื้นฐาน 38 บาท upside ไม่มากพอ จึงแนะนำถือ
• (-) RS เราลดคำแนะนำเป็นขาย จากซื้อ ปรับราคาพื้นฐานปีหน้าลงเหลือ 7.30 บาทจากเดิม 9 บาท แนวโน้ม 4Q16 ที่ขาดทุนมากกว่าคาดทำให้ทั้งปีน่าจะขาดทุนถึง 186 ล้านบาท ส่วนปี 2017 เราปรับกำไรสุทธิลงเหลือเพียง 13 ล้านบาทเพราะธุรกิจ Health &Beauty ยังต้องใช้เวลาในการสร้าง Brand ยอดขายน่าจะพลาดเป้า ส่วนธุรกิจทีวีดิจิตอลช่อง 8 ทำเรทติ้งได้ไม่ดีนัก เราชอบ WORK (ราคาพื้นฐานปีหน้า 44 บาท)
• (+) หุ้นพื้นฐานดีที่ถูกเพิ่มเข้าคำนวณใน MSCI มีแนวโน้มข็งแกร่งกว่าตลาดได้แก่ BJC และ KCE (มีผล 30 พ.ย. 2016)
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
20 พ.ย. - ไทย: ยอดขายรถ (ต.ค.)
22 พ.ย. - สหรัฐ: ยอดขายบ้านเก่า (ต.ค.)
21 พ.ย. - ไทย: 3Q16 GDP (ตลาดคาด +3.5% Y-Y เท่าไตรมาสก่อน)
- สิงคโปร์: 3Q16 GDP
23 พ.ย. - สหรัฐ: คำสั่งซื้อสินค้าคงทน (ต.ค.), ยอดขายบ้านใหม่ (ต.ค.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (พ.ย.)
24 พ.ย. - สหรัฐ: ตลาดหุ้นปิด วัน Thanksgiving, FOMC Meeting Minutes
25 พ.ย. - ไต้หวัน: 3Q16 GDP
28 พ.ย. - ไทย: ดุลการค้า, ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (ต.ค.)
29 พ.ย. - สหรัฐ: 3Q16 GDP (ตัวเลขสุดท้าย)
- ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคธุรกิจ (พ.ย.)
30 พ.ย. - ไทย: ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน ต.ค.
- อินเดีย: 3Q16 GDP
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนบวกและทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้อีกครั้ง โดยตอบรับในทางบวกต่อตัวเลขเศรษฐกิจรวมถึงถ้อยคำแถลงของประธาน FED ที่ส่งสัญญารว่าจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนหน้า
(+) ด้านตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนบวกได้หลัง BondYield สหรัฐฯเริ่มปรับตัวลง ขณะที่การแถลงของประธาน FED ส่งสัญญาณว่าการขึ้นดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นเร็วๆนี้
(+) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดในแดนบวกได้ตามตลาดหุ้นภูมิภาคอื่นหลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาแข็งแกร่ง รวมถึงตอบรับเชิงบวกต่อถ้อยแถลงของประธาน FED
(-) ค่าเงินบาทเริ่มกลับมาอ่อนค่าลงอีกครั้ง ล่าสุดขยับขึ้นไปเคลื่อนไหวในกรอบ 35.50-35.70 บาท/ดอลลาร์
Currency Markets Current Previous %change
Bt/ US$* 35.60 35.49 -0.29
US$/ Euro 1.06 1.06 -0.39
Yen/ US$ 110.54 110.12 -0.38
Yuan/ US$ 6.88 6.88 0.01
Commodity Price Current Prev %change
Crude Oil 44.90 45.42 -1.14
GOLD 1,213.60 1,216.90 -0.27
BDI 1,231.00 1,145.00 7.51
ZINC 2,533.00 2,524.00 0.36
CRB index 182.44 182.34 0.06
Source: Bloomberg *onshore rate
(0) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ลดลง 0.15 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 45.42 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยความคาดหวังเรื่องการปรับลดกำลังการผลิตของ OPEC ถูกบดบังจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า ขณะที่เดียวกันตลาดยังคงกังวลต่อสภาวะ Oversupply
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ลดลง 7.00 ดอลลาร์/ออนซ์มาอยู่ที่ 1,216.90 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังประธาน FED แถลงต่อสภาครองเกรสวานนี้โดยส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนหน้า
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265 Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research, IG: fss_research