- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 17 November 2016 16:41
- Hits: 2148
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ 'แกว่งตัวกรอบแคบๆ'
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ตลาดค่อนข้างผันผวนตลอดทั้งวัน หลังจากดีดตัวกลับมาได้ในวันก่อนหน้า โดยเรามองว่าตลาดซึมซับปัจจัยเรื่องผลการเลือกตั้งสหรัฐฯไปค่อนข้างมากแล้ว ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังไม่มีอะไรใหม่แต่อย่างใด แม้ว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อย่างมากก็ตาม โดยกลุ่มที่กดดันดัชนีได้แก่ กลุ่มขนส่ง (-0.6%) กลุ่ม ICT (-0.4%) กลุ่มธนาคาร (-0.3%) ขณะที่กลุ่มรับเหมาก่อสร้างปรับตัวเพิ่มได้กว่า 1.1% คาดว่าเกิดจากแรงเก็งกำไรล่วงหน้าก่อนการเปิดซองประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและชมพูในวันนี้ (17 พ.ย.) ปิดตลาดดัชนีปรับตัวลดลง 1.82 จุด (-0.1%) มาอยู่ที่ 1,474.64 จุด ด้วยปริมาณซื้อขาย 56,882.23 ล้านบาท
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(-) EIA รายงาน Stock น้ำมันดิบสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 5.3 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่ตลาดคาดไว้ว่าจะเพิ่ม 1.5 ล้านบาร์เรล กดดันให้ราคาน้ำมันดิบ (WTI) วานนี้ปิดลดลง 0.5%Day มาอยู่ที่ 45.57 US/Barrel
(-) ประธาน FED สาขาเซนต์หลุยส์ สนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค.
(-) ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐ ในเดือน ต.ค. ทรงตัว MoM ตำกว่าที่ตลาดคาดว่าจะ +0.3%MoM
(-) ราคาถ่านหิน (Newcastel)อ่อนตัวลง 1.5%Day มาอยู่ที่ 104.9 US/Tons
(-) ยังคงมีแรงขายสุทธิจากนักลงทุนต่างชาติออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยวานนี้ขายสุทธิไปอีก 2.08 พันลบ. และ MTD ขายสุทธิไปกว่า 2.24 หมื่นลบ.
(+) วันนี้ รฟม. เปิดซองประมูลรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และชมพู (สร้างแรงเก็งกำไรต่อ BTS/STEC/RATCH และ BEM/CK)
(+) ค่าระวางเรือ (BDI) ทำ New High ในรอบ 15 เดือน โดยวานนี้ +5.6%Day มาอยู่ที่ 1145 จุด (เป็นบวกต่อการเก็งกำไรหุ้นกลุ่มเรือ)
(+) โครงการอินเทอร์เน็ตหมู่บ้าน วงเงิน 1.5 หมื่นลบ. เตรียมเสนอที่ประชุมครม. สัปดาห์หน้า (บวกต่อกลุ่ม SI และผู้ขายสาย Fiber ได้แก่ SAMTEL, AIT, ILINK, INET เป็นต้น)
(+) ประกาศเกี่ยวกับ AD ท่อเหล็กจีน+เกาหลี ซึ่งประกาศใช้ในราชกิจจาฯ 15 พ.ย. 59 มองเป็นบวกต่อผู้ขายเหล็กในประเทศ (PERM, AMC, PAP)
(+) รัฐบาลเก็บรายได้สุทธิในเดือน ต.ค. 59 ได้สูงถึง 2 แสนล้าน ซึ่งสูงกว่าประมาณการ เนื่องจากภาษีหลายด้านดีขึ้นตามมาตรการกระตุ้นภาครัฐ
(+/-) วานนี้ ผบห. BEAUTY และ TKN มีการขายหุ้น Big Lot สูงถึง 3.3 พันลบ. และ 892 ลบ. (ราคา Discount จากกระดานราว 5-10%)
(+/-) NAHB Market Index ของสหรัฐ เดือน พ.ย. ทรงตัวเท่าเดือน ต.ค.
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
หุ้นเข้า/ออก SET 50 รอบ 1H60 (คาดหุ้นเข้า ได้แก่ GL, THAI, GLOBAL, SPRC, JAS, KKP, SCCC, RATCH และหุ้นออก ได้แก่ TASCO, SAWAD, TTW, WHA, BEC, TPIPL, BCP)
ในวันนี้ประธาน FED จะมีการแถลงมุมมองเศรษฐกิจต่อสภาคองเกรส
การประชุม OPEC ในช่วง 30 พ.ย. ณ.กรุงเวียนนา ออสเตรีย
ตัวเลขสำคัญสัปดาห์นี ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานประจำสัปดาห์, ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือน ต.ค., อัตราเงินเฟ้อสหรัฐเดือน ต.ค. (Core Inflation rate คาดไว้ที่ 2.2%/17 พ.ย.)
กลยุทธ์การลงทุน “ เก็งกำไรกลุ่มพลังงาน ”
ประเมินดัชนีวันนี้มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น จากโมเมนตัมบวกของความคาดหวังการลดกำลังผลิตจากกลุ่ม OPEC ในช่วงปลายเดือนนี้ ยังคงลดน้ำหนักกลุ่มสายการบิน สลับเข้าเก็งกำไรกลุ่มพลังงาน และเก็งกำไรกลุ่มที่ได้ปัจจัยเด่นสนับสนุน เช่นกลุ่มเดินเรือ ที่ได้ประโยชน์จากค่าระวางที่ปรับตัวบวก
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
BCP เก็งกำไร
เปิดตัวสถานีจำหน่ายน้ำมันรูปแบบใหม่ มีแผนเปิด 10 แห่งในปี 60
ร่วมมือกับ SPAR โฟกัสการเติบโตของธุรกิจ Non-Oil ตั้งเป้ายอดขาย Non-oil เติบโต 7 เท่า ใน 5 ปี
ปัจจุบันซื้อขายกันที่ระดับ 1.15 เท่า PBV ต่ำกว่ากลุ่ม TOP 1.4x, SPRC 1.4X ,ESSO 2.35X
TTA เก็งกำไร
ค่าระวาง BDI Index ปรับบวกขึ้นแข็งแกร่งมาที่ระดับ 1,065 สร้างโมเมนตัมบวกให้กับกลุ่มเดินเรือ
รายงาน 3Q59 พลิกกลับเป็นกำไร จากธุรกิจเดินเรือขาดทุนลดลง และธุรกิจวิศวกรรมใต้น้ำได้ปัจจัยฤดูกาลหนุน
ปัจจุบันซื้อขายกันที่ระดับ 0.84 เท่า PBV
ทีมวิเคราะห์