- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 17 November 2016 16:33
- Hits: 1949
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily
ภาพตลาดวันวาน
ดัชนีเปิดตลาดด้วยความสดใสปรับตัวขึ้น 7.42 จุด ยืนเหนือ 1483 จุด แกว่งตัวแคบ ๆ ทำจุดสูงสุดที่ 1486.45 จุด เพิ่มขึ้น 9.99 จุด ก่อนที่จะทิ้งตัวลงแรงช่วงบ่ายจากแรงขายหุ้นในกลุ่มพลังงาน สื่อสาร และขนส่งกดดัชนีทำจุดต่ำสุดที่ 1474.55 จุด ลดลง 1.91 จุด ทำให้มีกรอบการเคลื่อนไหวที่ 11.90 จุด ทั้งนี้หุ้นที่มี Impact ต่อการปรับตัวลงได้แก่ BANPU, ADVANC, BEAUTY, SCC, AOT, KBANK, TKN ก่อนดัชนีจะทำปิดที่ 1474.64 จุด ลดลง 1.82 จุด (-0.12%) มูลค่าการซื้อขาย 56,882 ล้านบาท
ภาพตลาดวันนี้
ดัชนีวานนี้ดูเหมือนฟื้นตัวได้ดีในช่วงเช้า แต่การฟื้นตัวนั้นยังไม่มีความแข็งแรงมากพอ ทำได้ดีสุดที่ 1486 จุด ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ถูกกดจากเส้นค่าเฉลี่ย 5/25 วัน การขึ้นไปเป็นเพียงการลดขนาดของ Gap (1483.29-1493.93) เท่านั้น ก่อนที่จะทิ้งตัวลงในช่วงบ่าย พร้อมกับทำปิดที่จุดต่ำสุดของวันที่ 1474 จุด และสัญญาณในเชิงลบจาก MACD ที่ตัดลงต่ำกว่า Zero Line ทำให้ภาพโดยรวมมีโอกาสพักตัวลงได้ แต่ระยะสั้นเชื่อว่าน่าจะมีลักษณะแกว่งตัวผันผวน แนวรับ 1463 // 1454 จุด เป็นแนวที่คาดว่าน่าจะรองรับได้อยู่ และแนวต้าน 1485-1490 จุด ซึ่งเดิมเป็นแนวรับที่แข็งแกร่ง จะกลายเป็นแนวต้านที่แข็งแรงเช่นกัน คงต้องลุ้นกลับไปยืนให้ได้ เพื่อคาดหวังการขึ้นไปยืน 1500 จุดอีกครั้ง
กลยุทธ์ : แกว่งตัวผันผวน
Support 1463 // 1454 // 1433 จุด Resistance 1490-1500 // 1520 จุด
พรรณนภา เขมะสุรัตน์ Technical Analyst
เลขทะเบียน : 060110 Tel 02- 6481124
Email: [email protected]
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
Company Update & News Comment
(+) กลุ่ม ICT: กระทรวงดีอี เร่งอินเทอร์เน็ตหมู่บ้าน
(+) MINT: ธุรกิจในประเทศรับผลกระทบเชิงลบระยะสั้น ระยะยาวยังแข็งแกร่งเน้นเพิ่มรายได้ต่างประเทศ
(0) THAI: แนวโน้ม 4Q16 ดีขึ้น QoQ และ YoY / กังวลการแข่งขันอุตสาหกรรมสายการบินสูงต่อเนื่อง
ปัจจัยและทิศทางตลาดหุ้นไทย
ตลาดหุ้นต่างประเทศคืนที่ผ่านมาเริ่มทรงๆตัว น่าเป็นเพราะรับรู้ปัจจัยทั้งบวกและลบต่อตลาด โดยเฉพาะเรื่องนโยบายของนายทรัมป์กันมาระดับหนึ่งแล้ว หากจะขยับตัวอีกครั้ง น่าจะเมื่อมีอะไรใหม่ๆเข้ามาในตลาด สำหรับวันนี้ ตลาดน่าจะรอดูการพบปะกันระหว่างนายกรัฐมนตรี Shinzo Abe ของญี่ปุ่นกับว่าที่ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ เรื่องสำคัญ คือความชัดเจนในเรื่อง TPP ผลการหารือน่าจะมีผลบวก/ลบต่อตลาดหุ้นคืนนี้ด้วย
ตัวแปรหนึ่งที่น่าจะดีกับตลาด คือ Bond Yield ของสหรัฐฯ ดูนิ่งขึ้น คงเป็นเพราะปรับขึ้นมาถึงระดับก่อนที่จะลงไป และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ Fed แสดงความเห็นว่า Fed ปรับดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวก่อน น่าจะเพียงพอแล้ว ตามที่เราเคยแสดงความเห็นว่า ที่นักลงทุนกังวลควรจะเป็นจำนวนครั้งและอัตราเร่งของการปรับขึ้นดอกเบี้ยมากกว่า ถ้าขึ้นมากกว่าที่เคยคาด จะเป็นลบกับตลาดและ Fund Flow มากขึ้น เพราะเดือน ธ.ค. ค่อนข้างแน่แล้วว่าจะปรับขึ้น และตลาดก็ตีความแบบนั้น ธ.ค. (ค่า Fed Fund Futures Probability ของการประชุม FOMC เดือน ธ.ค. อยู่ที่ระดับ 94%)
ตัวช่วยอีกตัวหนึ่งของตลาด คือราคาน้ำมัน เพราะช่วงวันหยุดนี้ กลุ่ม OPEC และผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นๆ จะประชุมเพื่อพิจารณากำลังการผลิตน้ำมัน ก่อนที่จะมีการประชุมจริง 28 พ.ย.นี้ และผลการประชุมช่วงวันหยุดนี้ จะมีผลต่อราคาน้ำมันว่าจะขึ้นไปเหนือ $45 หรือกลับมาที่ $40 ขึ้นกับว่าจะสรุปตัวเลขกำลังการผลิตที่จะลดลงได้หรือไม่ ส่วนราคาสินค้าโภคภัฑณ์ เริ่มมีการอ่อนตัวลงหลังปรับตัวขึ้นมาแรงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นความกังวลต่อทิศทางเศรษฐิจจีนและการอ่อนค่าของเงินหยวน
ทิศทางตลาดหุ้นไทยที่ประเมินตอนนี้ จะผันผวนสูงแต่อยู่ในกรอบจำกัด จากการเข้ามาเก็งกำไรช่วงสั้นๆ โอกาสขึ้นมีมากกว่าที่จะลงต่ออยู่เล็กน้อย บนการคาดหมายว่า นโยบายของนายทรัมป์ทำได้แค่บางส่วน แต่ที่เราไม่มั่นใจและทำให้อาจตลาดลงต่อได้ คือเดาเรื่องฝรั่งขายไม่ได้ว่าจะจบลงเมื่อใด ที่ขายไปมากๆ (ตั้งแต่เดือน ต.ค. ถึงวานนี้ ขายไปแล้ว 4.0 หมื่นล้านบาท) เพียงเพื่อปรับพอร์ตรับดอกเบี้ยสหรัฐฯที่จะปรับขึ้นในเดือน ธ.ค.นี้ หรือลดความเสี่ยงจากนโยบายของประธานาธิบดีใหม่ของสหรัฐฯ หรือทั้งสองเหตุผล กันแน่
กลยุทธ์การลงทุน เช่นเดียวกับวันก่อน ที่โดยรวมเรายังแนะนำนักลงทุนชะลอการลงทุนหรือเล่นสั้นๆไว้ก่อนจนกว่าตลาดจะนิ่งและชัดขึ้น ...... หุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุน อาทิ CPALL , VNG , SCN , BCH , SLP
ประเด็นสำคัญ
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (16 พ.ย.) - SET Index ปิดที่ 1,474.64 จุด ลดลง 1.82 จุด หรือ -0.12% มูลค่าการซื้อขาย 56,882.23 ล้านบาท ตลาดเคลื่อนไหวในลักษณะไซด์เวย์ลง โดยมีความกังวลในเรื่องการไหลออกของต่างชาติ
ตลาดหุ้นต่างประเทศ - ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,868.14 จุด ลดลง 54.92 จุด หรือ -0.29%หลังมีเจ้าหน้าที่เฟดออกมาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า เช่นเดียวกับ Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง -0.2% ปิดที่ 338.47 จุด
ราคาน้ำมันดิบ WTI - สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 24 เซนต์ หรือ -0.5% ปิดที่ 45.57 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังEIA เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
เศรษฐกิจสหรัฐฯ - ประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวในวันนี้ว่า การที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียงหนึ่งครั้งในการประชุมเดือนหน้า ก็อาจเป็นการเพียงพอแล้วที่จะทำให้อัตราดอกเบี้ยของเฟดปรับตัวสู่ระดับเป็นกลาง
เศรษฐกิจสหรัฐฯ - กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ทรงตัวในเดือนต.ค.เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ย.
เศรษฐกิจสหรัฐฯ - ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐทรงตัวในเดือนต.ค. โดยผลผลิตในภาคการผลิต และเหมืองแร่ปรับตัวขึ้น ขณะที่ภาคสาธารณูปโภคร่วงลง
น้ำมัน - EIA เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว โดยเพิ่มขึ้น 5.3 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.5 ล้านบาร์เรล และคาดการณ์ว่า ผู้ผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (shale oil) ของสหรัฐจะเพิ่มการผลิตน้ำมัน หากราคาพุ่งแตะระดับ 60 ดอลลาร์/บาร์เรล
กลุ่ม ICT - รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า กระทรวงดีอีจะเร่งผลักดันโครงการบรอดแบนด์หมู่บ้าน และจะเร่งเปิดตัวโครงการภายในเดือน ธ.ค. 2559 นี้
News Release :
หมอสุวิน-เมียขายหุ้น 10%เพิ่มฟรีโฟลตBEAUTYกองทุนถือเพิ่ม 56% ไม่กระทบบริหารงาน
+ BEAUTY เนื้อหอม! "หมอสุวิน-ภรรยา" ขาย 300 ล้านหุ้น คิดเป็น 10% ในราคา 11 บาท ให้กองทุนไทยและต่างประเทศ รับทรัพย์ 3,300 ล้านบาท ส่งผลกองทุนถือเพิ่มเป็น 56% พร้อมดันฟรีโฟลตสูง 72.83% "หมอสุวิน" ย้ำยังคงถือหุ้นใหญ่ 25.94% ชี้ไม่กระทบการบริหาร ด้าน TKN แจงขายบิ๊กล็อต 35 ล้านหุ้น
CGHกำไรพุ่ง210%เล็งซื้อกิจการเพิ่มเร่งขยายสาขาปี 60
+ คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ หรือ CGH โชว์กำไรสุทธิไตรมาส 3 กว่า 260 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 210.28% ผลจากการปรับโครงสร้าง และส่วนแบ่งรายได้จากบริษัทในเครือเติบโตดี พร้อมซื้อกิจการทั้งในและต่างประเทศ เร่งขยายสาขาในปีหน้า ดันรายได้บริษัทโตต่อเนื่อง(ข่าวหุ้น)
LHแชมป์กำไรสูงที่สุด9เดือนโต 6.6 พันล้าน
+ "LH" ครองแชมป์อสังหาฯงวด 9 เดือนแรก โชว์กำไรสุทธิสูงสุด 6,619.94 ล้านบาท ฟาก PS รั้งอันดับ 2 ฟันกำไรสุทธิ 4,067.65 ล้านบาท ส่วน SPALI ยึดอันดับ 3 โกยกำไรสุทธิ 3,679.65 ล้านบาท(ข่าวหุ้น)
BIGโกยเงินโค้งสุดท้ายQ4 จัดงาน "โฟโต้ แฟร์" ดันยอดขายพุ่งทะลัก
+ BIG ไตรมาส 4 โกยเงินเต็มสูบรับไฮซีซั่น ค่ายกล้องรายใหญ่เปิดตัวสินค้าใหม่เพียบ เดินหน้าจัดงาน "โฟโต้ แฟร์ 2016" ช่วง 30 พ.ย.-4 ธ.ค. มั่นใจช่วยหนุนยอดขายบริษัทพุ่งทะลัก(ข่าวหุ้น)
ARROW จับตางบ Q4 แรง จ่อตั้งบริษัทย่อยขยายฐาน
+ ARROW ตั้งเป้ารายได้ปี 2560 เติบโต 10-15% แตะ 1.6 พันล้านบาท เติบโตจากธุรกิจหลักท่อร้อยสายไฟส่วนปีนี้มั่นใจรายได้เติบโต 10-15% แตะ 1.4 พันล้านบาท ตุนแบ็กล็อก 270 ล้านบาทรับรู้ปีนี้ทั้งหมด แย้มเล็งตั้งบริษัทย่อยขยายไลน์ธุรกิจ โบรกส่องแนวโน้ม Q4 สดใส ลุ้นทำจุดสูงสุดใหม่ แนะ "ซื้อ" เป้า 22.30 บาท (ทันหุ้น)
BTW ชงบอร์ดลุยพลังงานจัดทัพลุยประมูลหมื่นล้าน
+ บอสใหญ่ BTW "โชติก รัศมีทินกรกุล" เผยความคืบหน้าลุยพลังงาน จ่อชงบอร์ดอนุมัติต้นปี 2560 เชื่อมีศักยภาพพร้อมเข้าลงทุน หลังรับงาน EPC ให้ผู้ผลิตไฟฟ้าหลายราย กางแผนกลยุทธ์ปีหน้า จัดทัพชิงงานใหม่หมื่นล้าน เชื่อดีมานด์ก่อสร้างโรงไฟฟ้านอกบ้านล้น (ทันหุ้น)
VIBHAปี 60 งบโต 10% ยกเครื่องรพ.บางโพ หนุนเงินเข้ากรุเพียบ
+ VIBHA ปักเป้าปี 2560 รายได้ทะยาน 10% จากปีนี้หลังรุกขยายฐานลูกค้าใหม่ต่อเนื่อง พร้อมลุยปรับปรุงโครงสร้างโรงพยาบาลบางโพ หวังรับทรัพย์ก้อนโตปีหน้า(ทันหุ้น)
SR คว้างานใหญ่ 112 ล. หนุนแบ็กล็อกเต็มมือ
+ บอสใหญ่ "เกียรติ วิมลเฉลา" SR แจกข่าวดี รับงานโครงการออกแบบพร้อมติดตั้งระบบไฟฟ้าและควบคุมคลังน้ำมันนครลำปางจาก บริษัท อินเด็กซ์ อินเตอร์ เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด ซึ่งคลังน้ำมันดังกล่าวเป็นของบริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด มูลค่าโครงการประมาณ 112,000,000 บาท โดยกำหนดระยะเวลาส่งมอบงานภายในปี 2561 ขณะที่ ณ สิ้นเดือนกันยายน แบ็กล็อกแตะ 579.1 ล้านบาท พร้อมมุ่งมั่นสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนต่อไป (ทันหุ้น)
นักวิเคราะห์ :
มงคล พ่วงเภตรา
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
License No: 001937 Tel: 02-648-1123 และทีมวิเคราะห์