WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

CIMBบล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(AM)

 

Technical highlights
SET Index : แนวต้าน 1480 แนวรับ 1460
  ทิศทางตลาด : SET Index ปิดที่ 1474.64 จุด ลดลง 1.82 จุด มูลค่าการซื้อขาย 56,882 ล้านบาท ตลาดเมื่อวานเคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวนที่บริเวณ 1480 จุด หลังจากเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคในระยะสั้นเหนือระดับ 1460 จุด ในขณที่โครงสร้างหลักยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลง
  Daily: ปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรต่อเนื่องหลังจากเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคเหนือระดับ 1460 จุด ซึ่งเรายังคงคาดว่า โครงสร้างการเคลื่อนไหวของ SET Index ยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1430-1440 จุด และมีแนวต้านที่ 1480 จุด แต่ถ้าปรับตัวลดลงหลุดระดับ 1420 จุดลงไป ความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบ 1370 จุดจะเพิ่มสูงขึ้น
  กลยุทธ์ :SET Index ปรับตัวลดลลงหลังจากฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1480 จุด แต่แนวโน้มหลักยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1430-1440 จุด จึงยังคงแนะนำให้เน้นการขายหุ้นออกที่บริเวณ 1480 จุด เพื่อรอเข้าซื้อหุ้นบางส่วนที่บริเวณ 1440 จุด

Asia Fund Flow : 16 พฤศจิกายน 2559
  ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ขายสุทธิ 38 ล้านเหรียญ (17 พ.ย.)
  ตลาดหุ้นไต้หวัน ขายสุทธิ 276 ล้านเหรียญ
  ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ขายสุทธิ 28 ล้านเหรียญ
  ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ขายสุทธิ 28 ล้านเหรียญ
  ตลาดหุ้นไทย ขายสุทธิ 59 ล้านเหรียญ

Most Active Value: แนวรับ แนวต้าน
TRUE สัญญาณฟื้นตัว แนวโน้มขึ้นทดสอบ 7.70-7.80 แนวรับ 7.10 7.20 / 7.10 7.50 / 7.60
PTT แนวโน้มลงทดสอบ 320 แนวต้าน 340 334 / 330 338 / 340
ADVANC แนวโน้มลงทดสอบ 142 และ 140 เป็นจังหวะซื้อเพิ่ม แนวต้าน 150 และ 154 144 / 142 147 / 148
THAI แนวโน้มลงทดสอบ 23.50 และ 22.00 แนวต้านสำคัญ 26.50 24.50 / 24.00 25.50 / 26.00
BEAUTY สัญญาณขาย แนวต้าน 11.50 แนวโน้มลงทดสอบ 10.00 11.00 / 10.80 11.50 / 11.60
SCC แนวโน้มลงทดสอบ 460 หลังจากหลุดระดับ 480 ลงไป 470 / 464 480 / 484
PTTGC สัญญาณฟื้นตัว แนวต้าน 62.00 แนวรับ 60.00 60.50 / 60.00 61.50 / 62.00
AOT แนวรับสำคัญ 356 ถ้าหลุดจะมีโอกาสลงทดสอบ 340 แนวต้าน 370 356 / 350 364 / 367
CPALL แนวรับสำคัญ 60.00 ถ้าหลุดจะมีแนวรับถัดไปที่ 57.00 แนวต้าน 62.00 และ 63.00 60.00** / 59.00 61.00 / 62.00
KBANK สัญญาณฟื้นตัวระยะสั้น แนวรับ 165 แนวต้าน 170 167 / 165 170 / 172

Cal-Comp Electronics (CCET TB; THB 2.66) - ซื้อ
  แนวต้าน : 2.80 และ 2.84
  แนวรับ : 2.66 และ 2.62
  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง ทะลุผ่านแนวโน้มขาลงขึ้นมาได้ พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
  MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบระดับ 60
  แนะนำซื้อ CCET โดยมีแนวรับที่ 2.66 และ 2.62 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 2.80 และ 2.84 เป็นจุดขายทำกำไร
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 2.56 ลงไป

VGI Global Media (VGI TB; THB 5.20) - ซื้อ
  แนวต้าน : 5.60 และ 5.80 / แนวต้านสำคัญ 6.00
  แนวรับ : 5.20 และ 5.10
  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เริ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น
  MACD ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มขึ้น RSI ฟื้นตัวเข้าใกล้ระดับ 50
  แนะนำซื้อ VGI โดยมีแนวรับที่ 5.20 และ 5.10 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 5.60 และ 5.80 เป็นจุดขายทำกำไร
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 4.98 ลงไป

Trading Pick Follow up: แนวรับ แนวต้าน
PK แนวโน้มขึ้นทดสอบ 3.50 และ 3.60 แนวรับสำคัญ 3.18 3.24 / 3.20 3.44 / 3.50
CHEWA แนวโน้มขึ้นทดสอบ 1.60 และ 1.64 แนวรับสำคัญ 1.46 1.48 / 1.46** 1.55 / 1.60
TFG ขายทำกำไรที่แนวต้าน 5.80 และ 6.00 แนวรับ 5.20 5.40 / 5.20 5.60 / 5.80
UMI แนวโน้มขึ้นทดสอบ 3.60 และ 3.70 แนวรับสำคัญ 3.16 3.16** / 3.04 3.50 / 3.60
IVL แนวโน้มขึ้นทดสอบ 35.00 และ 36.00 แนวรับสำคัญ 31.00 32.00 / 31.50 34.00 / 34.50
JMT สัญญาณฟื้นตัว แนวโน้มขึ้นทดสอบ 16.70 และ 17.00 แนวรับสำคัญ 15.30 15.80 / 15.60 16.50 / 16.70
FSMART สัญญาณซื้อ แนวโน้มขึ้นทดสอบ 18.00 และ 18.50 แนวรับสำคัญ 16.70 17.20 / 17.00 18.00 / 18.50
SYNTEC สัญญาณซื้อแนวโน้มขึ้นทดสอบ 4.40 และ 4.50 แนวรับสำคัญ 4.10 4.18 / 4.14 4.30 / 4.40

Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 - [email protected]

บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)

SET...ราคาน้ำมัน ตัวแปรหลังจากนี้
  การดีดตัวขึ้นแรงของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกช่วงที่ผ่านมาที่ประมาณ 6% เป็นผลจากตลาดคาดการณ์ว่า การประชุม OPEC ในปลายเดือนนี้ ทางกลุ่มน่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงเรื่องการลดกำลังการผลิตได้ หลังทางซาอุดิอาระเบียและรัสเซีย บินนัดประชุมกันที่กาตาร์ในอาทิตย์นี้ ส่งผลให้ราคาน้ำมันทั้ง 2 ตลาดสามารถขึ้นมายืนเหนือ 45 ดอลลาร์ต่อบารเรล์ได้ แต่ก็ยังอยู่ในกรอบที่ตลาดคาดไว้เดิม อย่างไรก็ตามหากมาดูพฤติกรรมของกลุ่มนักเก็งกำไร อย่าง Hedge fund สิ้นสุด ณ. วันที่ 8 พ.ย. กลับมีพฤติกรรมตรงข้าม คือ มีการ Short position น้ำมันดิบถึง 149 ล้านบารเรล์ ดูจากรูปด้านซ้าย
  ภาพของราคาน้ำมันยังคงต้องติดตามผลการประชุมระหว่างซาอุดิอาระเบียกับรัสเซีย ในอาทิตย์นี้ ว่าจะออกมาอย่างไร หากเป็นไปในเชิงบวกก็น่าจะดันให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นไปที่ประมาณใกล้ๆ 50 ดอลลาร์ต่อบารเรล์อีกครั้ง แต่หากออกมาในเชิงลบ ราคาน้ำมันอาจต้องกลับลงมาเล่นต่ำกว่า 45 ดอลลาร์ต่อบารเรล์ ดังนั้นประเด็นของการประชุมของกลุ่ม OPEC ในปลายเดือนนี้ ถือเป็นประเด็นสำคัญกับตลาดทั้งเชิงบวกและเชิงลบ
  ทิศทางค่าเงินในเอเชียที่ดิ่งลงหลักในช่วง 4 วันที่ผ่านมา ตอนนี้เริ่มกลับมาฟื้นตัว อย่างค่าเงินเปโซ และรูเปี๊ย อินโดนีเซีย ส่วนค่าเงินบาทยังแกว่งในกรอบที่ถือว่าไม่ผันผวนมาก เมื่อเทียบกับ 2 ประเทศข้างต้น อย่างไรก็ตามในช่วงที่นักลงทุนเริ่ม Bullish กับค่าเงินดอลลาร์ (Dollar index) ที่ตอนนี้แข็งขึ้นไปยืนเหนือ 100 ได้ ค่าเงินในเอเชียก็ยังมีแนวโน้มที่จะอ่อนตัวลง สว่นหนึ่งเป็นผลจากการขายหุ้นในเอเชียออก
  นับตั้งแต่เดือน ต.ค. ถึงปัจจุบัน เราจะพบว่าดัชนีกลุ่มอุตสาหกรรมในตลาดหุ้นไทยที่สามารถยืนแดนบวกได้ คือ กลุ่มพาณิชย์ นอกนั้นอ่อนตัวลงหมดเมื่อเทียบกับต้นเดือน ต.ค. ภาพตรงนี้พอจะบอกได้ว่า แรงขายของต่างชาติที่ออกมาอย่างต่อเนื่องอาจจะยังกังวลเรื่องผลการดำเนินงานใน Q3/16 และต่อเนื่องไปถึง Q4/16 จึงขายหุ้นในกลุ่มที่โตจากภายในเกือบทุกกลุ่มออกมา ภาพของตลาดเองในช่วงกลางถึงปลายเดือนนี้ คาดยังมีข้อจำกัดในการขึ้น ขณะที่การลงก็ยังลงได้ไม่ลึกเหมือนกัน โดยประเด็นที่ส่งผลต่อการลงทุน ยังคงเป็นผลการดำเนินงาน Q3/16 ราคาน้ำมัน ค่าเงินบาท และทิศทางอัตราผลตอบแทนจากพันธบัตรของสหรัฐ
  ภาพตลาดในวันนี้ น่าจะเริ่มอ่อนตัวลง หลังตลาดไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ๆ เข้ามา อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่ยังคงพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง (ล่าสุดพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นมาสูงสุดในรอบปีที่ 2.60% จากระดับต่ำสุดที่ 1.60%) แสดงให้เห็นถึงแรงขายของนักลงทุนต่างประเทศทั้งในตลาดพันธบัตร ตลาดหุ้นและตลาดอนุพันธ์ ในขณะที่ค่าเงินบาทแม้อยู่ในแนวโน้มอ่อนค่าแต่เริ่มอยู่ในกรอบที่แคบลง ทำให้เราคาดว่าแรงขายของนักลงทุนต่างประเทศจะเริ่มชะลอลงบ้างในช่วงนี้ประกอบกับดัชนีที่ปรับลดลงมา 40 จุดหรือประมาณ 3% ในช่วง 1 สัปดาห์น่าจะช่วยจำกัด downside risk ในระยะสั้นได้ โดยสรุปตราบใดที่นักลงทุนต่างประเทศยังคงขายสุทธิหุ้นไทยอยู่ โอกาสที่ตลาดหุ้นจะปรับตัวขึ้นแรงหรือเปลี่ยนเป็นแนวโน้มขาขึ้นก็ยังคงเป็นไปได้ยาก ดังนั้นกลยุทธ์การ Trading buy น่าจะเหมาะสมกับสถาการณ์ปัจจุบัน เราประเมินกรอบดัชนีในวันนี้ ให้แนวรับที่ 1460-1467 จุดและ แนวต้านที่ 1480-1485 จุด หุ้นที่ยังแนะนำ เก็งกำไร คือ TRUE IVL BEM และ BCH

Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)

Morning Market Summary…
  SET ช่วงเช้าปิดที่ 1,476.54 จุด เพิ่มขึ้น 1.90 จุด(+0.13%) มูลค่าการซื้อขาย 22,781.31 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ผันผวนแคบ ตลาดรอปัจจัยใหม่มาหนุน ด้านตลาดภูมิภาคแกว่งบวก-ลบ ค่าเงินบาทเริ่มทรงตัว

Afternoon Perspective...
  แนวโน้มตลาดบ่าย แกว่งแคบ ตลาดโดยรวมขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ ในขณะที่ยังถูกกดันตลาดต่อเนื่องโดยขายหุ้นออกทั้งภูมิภาค ทำให้ทิศทางตลาดยังอยู่ในแนวโน้มลงไปสักระยะจนกว่าตลาดจะสร้างสมดุลใหม่ได้ โดยเราให้สังเกตุจากบอนด์ยีบสหรัฐ หากเริ่มทรงตัวได้และหยุดการแกว่งขึ้นตลาดหุ้นไทยก็น่าจะเริ่มฟื้นตัวกลับมาได้ ระยะสั้นมองแนวรับลึกๆแถว 1440-1465 จุด แนวต้าน 1485 จุด หุ้นแนะนำลงทุน SQ consensus TP 4.40 บาท โดยราคาหุ้นปรับตัวลงหลังจากประกาศงบต่ำกว่าคาด แต่ปัจจัยดังกล่าวเป็นตามฤดูกาลปกติเนื่องจากเป็นฤดูฝน ทำให้การทำงานทำได้น้อยกว่าปกติ เราเชื่อว่าผลการดำเนินงานจะฟื้นตัวกลับมาโดดเด่นในไตรมาสถัดไปและกำลังอยู่ระหว่างเข้าประมูลงานแห่งใหม่ หากชนะประมูลก็จะเป็นปัจจัยหนุน ผลการดำเนินงานเพิ่มเติมในระยะยาว

Technical Pick (PM) & Cash Balance...
  Master Ad (MACO TB; THB 1.12) - ซื้อ
  Alla (ALLA TB; THB 2.94) - ซื้อ
  Cash Balance Preview : คาดหลักทรัพย์ที่มีโอกาสจะติด Cash Balance สัปดาห์หน้า : COMAN, TSF* (* ดูรายละเอียดของเงื่อนไขในบทวิเคราะห์ และกรณีหุ้นแม่ติด ฯ Warrant ทุกตัวของหุ้นนั้นจะติดตามด้วย)

Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!