WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

FSS copyบล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

แม้ SET จะผันผวนหลังพยายามรีบาวด์ แต่คาดยังลุ้นขึ้นต่อได้อีก...
  ตลาดหุ้นวานนี้ : SET ยังปรับตัวย้อนลบในช่วงบ่ายวานนี้ หลังจากที่ในช่วงครึ่งวันเช้าดัชนีแกว่งผันผวนในกรอบบวกต่อก่อน เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบโลกก็กลับอ่อนตัวลง จากการบวกขึ้นแรงวันก่อนหน้าด้วย ประกอบกับค่าเงินดอลลาร์ยังกลับมาแข็งค่า จึงกดดันค่าเงินในเอเชีย รวมทั้งเงินบาทให้อ่อนตัวลงอีกเล็กน้อยด้วย
  แนวโน้มตลาดวันนี้ : ตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้กลับมาปิดเป็นลบเล็กน้อย ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ก็เริ่มมีแรงขายกดดันอีกครั้ง หลังประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ ออกมาสนับสนุนให้เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้า(13-14 ธ.ค.) ซึ่งกดดันให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ยังแกว่งตัวผันผวนและมีจังหวะย้อนลบอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม FSS ยังคาดว่ากรอบลบของ SET จะมีอยู่ค่อนข้างจำกัด หลังเงินบาทเริ่มชะลอการอ่อนค่า ขณะที่สุดท้ายแล้วราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกวานนี้ยังขยับกลับมาฟื้นตัวต่อได้อีก เพื่อรอติดตามการประชุมนอกรอบของโอเปกและรัสเซียในช่วงท้ายสัปดาห์นี้อีกครั้ง ซึ่งพอจะเป็นเครื่องชี้วัดความสำเร็จของการประชุมโอเปกในช่วงท้ายเดือนนี้ได้บ้าง (30 พ.ย.)
กลยุทธ์ : เราจึงยังแนะนำให้เน้นถือต่อเนื่องไว้ก่อน เพื่อรอรอบบวกของตลาดต่อไป ส่วนเลือกหุ้นซื้อใหม่ควรรอเฉพาะช่วงตลาดอ่อนตัวลง

แนวรับ  1472-1467 , 1463-1454 จุด  
แนวต้าน  1478-1482 , 1485-1490 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : SPRC , PJW , HMPRO(buy back)
      Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$351ล้าน ยังคงไหลออกจากไต้หวันมากที่สุด US$276 ล้าน ตามด้วยไทย US$59ล้าน ขณะที่กลับมาไหลเข้าเกาหลีใต้ US$38ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคเพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ย วันนี้จะมีการแถลงของนางเยนเลนต่อคองเกรสเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่เจ้าหน้าที่ Fed สาขาเซ็นหลุยส์ให้ความเห็นในเชิงสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า

ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
  (0) รอการแถลงของ Yellen แม้วานนี้แรงขายของต่างชาติรวมทั้ง 3 ตลาดจะชะลอลงมากเหลือ 1.05 พันล้านบาท แต่เชื่อว่า Flow จะยังซบเซารอการแถลงของ Yellen ถึงมุมมองเศรษฐกิจต่อสภาคองเกรสคืนนี้ และน่าจะได้เห็นท่าทีของพรรครีพลับลิกันที่พยายามจำกัดอำนาจของเฟด ขณะเดียวกัน 16-19 พ.ย. จะมีการแสดงความเห็นของปธ.เฟดสาขาต่างๆเกี่ยวกับเศรษฐกิจและทิศทางดอกเบี้ย (ส่วนใหญ่หนุนขึ้นดอกเบี้ย) ตลาดคาดความเป็นไปได้ในการขึ้นดอกเบี้ยเฟดเดือน ธ.ค. สูงถึง 94% สอดคล้องกับ Bond Yield ของสหรัฐที่ปรับขึ้นสูงสุดในรอบ 11 เดือน และดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ระยะสั้นตลาดผันผวนแต่เชื่อดัชนีเดือน ธ.ค. ปรับขึ้นได้ด้วยแรงซื้อของ LTF/RMF และต่างชาติหยุดขาย เรามองจุดซื้อลงทุนที่ปลอดภัยที่ 2017PE 13.5 เท่าหรือ SET ~1,450 จุด    
  (+) MINT แนวโน้มกำไร 4Q16 จะถูกกระทบชั่วคราวจากการไว้ทุกข์ แต่เรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อทิศทางผลการดำเนินงานในปี 2017 จากตลาดในประเทศที่จะกลับสู่ภาวะปกติ ขณะที่ธุรกิจในต่างประเทศคาดว่าจะเห็นพัฒนาการที่ดีขึ้นในหลายๆส่วน เราจึงยังคงประมาณการกำไรปกติปี 2016-17 ที่คาดเติบโต 14.4% Y-Y และ 20.2% Y-Y ตามลำดับ เรายังคงแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐานปีหน้า 48 บาท  
  (-) GL แม้เราจะปรับกำไรปี 2017 ขึ้นเป็นโตสูงถึง 62.8% Y-Y และปรับราคาพื้นฐานปีหน้าขึ้นเป็น 48 บาทแต่ราคาหุ้น fully valued แล้ว จึงลดคำแนะนำจากซื้อ เป็นขาย การเติบโตก้าวกระโดดในปีหน้ามาจากการซื้อและเข้าลงทุนในกิจการมากมายในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งจะเริ่มสร้างรายได้อย่างมีนัยสำคัญโดยเฉพาะธุรกิจในอินโดนีเซียและศรีลังกา และมีเงินสดในมืออีก 6 พันล้านบาทสามารถขยายธุรกิจได้อีกมาก แต่เราได้ให้ premium ในการประเมินมูลค่าหุ้นโดยอิง PEG 1.2 เท่าแล้ว หากราคาหุ้นปรับลงจึงน่าสนใจเพราะเป็น growth stock ที่แข็งแรงตัวหนึ่ง  
  (+) กลุ่มไฟแนนซ์ เป็นกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดเป็นอันดับ 1 (+2.3%) และเป็นเพียง 1 ใน 2 กลุ่มที่บวกสวนตลาดในรอบ 1 สัปดาห์นับตั้งแต่ Trump ชนะเลือกตั้ง ขณะที่ SET -2.3% สอดคล้องกับกำไร 3Q16 ที่โตแรงกว่าทุกกลุ่ม +47% Y-Y เราคาดกำไรทั้งปี +28% Y-Y และคาดปีหน้า +23% Y-Y เป็นหนึ่งในกลุ่มที่เติบโตสูง หุ้นที่กำไรโตสูงสุดคือ GL แต่ Fully valued แล้ว หุ้นที่กำไรโตสูงรองลงมา ราคาหุ้นมี upside จากราคาเป้าหมายและเราแนะนำซื้อได้แก่ MTLS (ราคาพื้นฐาน 28.80 บาท), LIT (ราคาพื้นฐาน 14 บาท) และ KTC (ราคาพื้นฐาน 168 บาท)    
  (+) หุ้นพื้นฐานดีที่ถูกเพิ่มเข้าคำนวณใน MSCI รอบนี้มีแนวโน้มข็งแกร่งกว่าตลาด ได้แก่ BJC และ KCE (มีผล 30 พ.ย. 2016)

ปัจจัยที่ต้องติดตาม
17 พ.ย. - ฟิลิปปินส์: 3Q16 GDP
- อินโดนีเซีย: ธนาคารกลาง (BI)ประชุม
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (ต.ค.)
-สหรัฐ: Housing Starts& Building Permits (ต.ค.),เยลเลนแถลงสภาคองเกรส
20 พ.ย. - ไทย:ยอดขายรถ (ต.ค.)
21 พ.ย. - ไทย: 3Q16 GDP
- สิงคโปร์: 3Q16 GDP
23 พ.ย. - สหรัฐ: คำสั่งซื้อสินค้าคงทน (ต.ค.),ยอดขายบ้านใหม่ (ต.ค.) 
- ยูโรโซน:Markit Eurozone Composite PMI (พ.ย.)
24 พ.ย. - สหรัฐ:ตลาดหุ้นปิด วัน Thanksgiving, FOMC Meeting Minutes
25 พ.ย. - ไต้หวัน: 3Q16 GDP
28 พ.ย. - ไทย: ดุลการค้า,ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (ต.ค.)
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนลบหลังจากบวกติดต่อกัน 7 วันทำการ รวมถึงประธาน FED สาขาเซนต์หลุยส์ได้ออกมาสนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนหน้า
(-) ด้านตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนลบเช่นกัน โดยตลาดเริ่มลดความร้อนหลังหลังจากปรับตัวขึ้นหลายวันในช่วงก่อนหน้าจากผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯและราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้น
(-) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดในแดนลบตามตลาดหุ้นภูมิภาคอื่น  รวมถึงแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่เริ่มปรับตัวลงอีกครั้ง
(0) ค่าเงินบาทยังแกว่งตัวออกข้าง ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 35.30-35.50 บาท/ดอลลาร์

Contact person : Somchai Anektaweepon  Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: fss_research

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!