WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ASIAwealthบล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook

 

สัญญาณแรกของการแยกตัวของทิศทางหุ้นสหรัฐกับเอเชีย
           คาดหุ้นไทยวันนี้ไม่ไปไหนไกล อยู่ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคที่เช้านี้เปิดอ่อน ด้วยเริ่มความกังวลเงินทุนโลกบางส่วนจะไหลออกจากเอเชีย หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้นด้วยการคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อสหรัฐจะพุ่งสูงขึ้น จากนโยบายของ Trump ที่จะใช้จ่ายด้านการคลังอย่างเต็มที่ ตลาดคาดว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ยแน่นอนมากขึ้นในเดือนธันวาคมด้วย ปัจจัยภายในประเทศวันนี้ไม่น่ามีผลมากต่อตลาด

หุ้นเด่นวันนี้ : SAWAD(ราคาปิด 43.50 บาท, ซื้อ, ราคาเป้าหมายปี 60 ของ AWS 61.00 บาท)
       เราคาดว่า บมจ. ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979 จะยังคงแสดงการเติบโตต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีหลังจากที่บริษัทได้แสดงผลการดำเนินงานที่น่าประทับใจในไตรมาส 3/59 โดยที่ SAWAD รายงานกำไรสุทธิในไตรมาสดังกล่าวอยู่ที่ 543 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.2% QoQ และ 46.8% YoY การเติบโตนี้ได้รับแรงหนุนจากปริมาณสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น 12% QoQ และ 35% YTD ซึ่งสอดคล้องกับการรุกขยายสาขาของบริษัท อีกทั้ง ในไตรมาส 3/59 จำนวนสาขาได้ทะลุเป้าทั้งปีที่ 2,000 สาขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2,027 สาขา จาก 1,896 สาขาในไตรมาส 2/59 อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าบริษัทจะยังคงการขยายสาขาต่อไปในไตรมาสสุดท้ายของปีตามกลยุทธ์ที่จะเข้าถึงประชากรได้มากขึ้น นอกเหนือจากตลาดในประเทศแล้ว ธุรกิจใหม่ในประเทศเมียนมาร์ของ SAWAD ที่ให้บริการสินเชื่อและให้บริการด้านการบริหารจัดการและให้คำปรึกษาน่าจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตในระยะยาว จากแนวโน้มการเติบโตของสินเชื่อที่ดูสดใสดังกล่าว เราคาดสินเชื่อของ SAWAD ในปีนี้จะเติบโตถึง 50% YoY และเราคาดการณ์กำไรจะยังเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 36.1% ทั้งในปี 59 และปี 60 Price Pattern ของ SAWAD ได้กลับเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) อย่างแข็งแกร่งอีกครั้ง จากการเกิดทั้ง Daily, Weekly, & Monthly Buy Signal โดยเมื่อพิจารณา Price Pattern ของ SAWAD มีเป้าหมายหลักอยู่ที่ 44.75 บาท ซึ่งหาก Price Pattern ของ SAWAD นั้นมีความแข็งแกร่งที่มากพอ โดยสามารถ Break เป้าหมายหลักด้วยการปิดตลาดเหนือ 44.75 บาทได้สำเร็จ นี่จะเป็นการบ่งบอกถึงการทำ New High ของ SAWAD อีกครั้ง โดยมีเป้าหมายแรกเพื่อทสดอบ High เดิมที่ 48 บาท และมีเป้าหมายแรกของการทำ New High อยู่ที่ 52 บาท ทั้งนี้ SAWAD มีจุด Stop Loss ระยะสั้นรอบนี้อยู่ที่ 39.75 บาท (Resistance: 43.75, 44.50, 45.50; Support: 43.00, 42.25, 41.25)

ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ
      ชัยชนะของทรัมป์ยังไม่กระทบส่งออกในระยะสั้น รมต.กล่าว รมว.พาณิชย์กล่าวว่าการส่งออกไปยังสหรัฐซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุดที่ไทยส่งออกไปน่าจะยังโตได้อยู่ในปีหน้าแม้จะน่ากังวลว่านโยบายการค้าสหรัฐหลังทรัมป์พลิกเข้าวินชนะการเลือกตั้งสหรัฐ อย่างไรก็ตาม รมต.จะจับตานโยบายระหว่างประเทศของสหรัฐอย่างใกล้ชิด ซึ่งนโยบายปกป้องคนในชาติและเกณฑ์ที่เข้มงวดขึ้นน่าจะเป็นรูปเป็นร่างปีหน้า และจะประเมินผลบวกลบใดที่จะกระทบต่อการค้าโลก (Bangkok Post/The Nation)
      ความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นใน พ.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นของสภาธุรกิจตลาดทุนไทยสำหรับสามเดือน (พ.ย.ถึง ม.ค.) เพิ่มขึ้นสู่ 104.6 ใน พ.ย. เพิ่มขึ้น 0.68% จาก 103.8 เมื่อ ต.ค. หนุนโดยการใช้จ่ายภาครัฐและการลงทุนรัฐที่เริ่มเข้ามา อย่างไรก็ดีดัชนียังไม่อยู่ในแดนบวกชัดเจนเพราะยังกังวลว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ยใน ธ.ค. (Bangkok Post)
     ธปท. คาด NPL สูงสุดในปีหน้า ธนาคารแห่งประเทศไทยรายงานอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) ต่อสินเชื่อรวมของธ.พ. ในประเทศ ณ สิ้นงวด 3Q59 อยู่ที่ 2.89% จากระดับ 2.72% ณ สิ้นงวด 2Q59 ก่อนหน้า โดยธปท. ประเมินแนวโน้มดังกล่าวจะสูงขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงช่วงปีหน้า (Bangkok Post) ความเห็น: แม้เศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมาจะสามารถขยายตัวได้มากกว่าที่ประเมินไว้ แต่พบว่าในบางกลุ่มอุตสาหกรรมยังไม่ได้รับอานิสงค์ดังกล่าวในทันที ซึ่งเรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อโมเมนตัมการเติบโตของเศรษฐกิจต่อเนื่องในปีหน้า
ทีโอทีพร้อมเดินหน้าโครงการอินเตอร์เน็ตหมู่บ้านต้นปีหน้า บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าจะสามารถเริ่มดำเนินโครงการอินเทอร์เน็ตหมู่บ้านจำนวน 24,700 แห่งได้ตั้งแต่เดือนมี.ค. ปีหน้า และคาดว่าการก่อสร้างและติดตั้งจะแล้วเสร็จในเดือนมี.ค. ปี 2561 ถัดไป ภายใต้กรอบงบประมาณ 1.0-1.5 หมื่นลบ. ตามแผนเดิม (Bangkok Post)
      IVL (32.25 บ.) รายงานกำไรสุทธิงวด 3Q59 อยู่ที่ 3.18 พันลบ. สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 2.40 พันลบ. ถึง 32% โดยผลประกอบการอ่อนตัวลง 46% QoQ จากการหายไปของกำไรพิเศษจากการต่อรองราคาซื้อกิจการที่ได้รับรู้ในงวด 2Q59 ก่อนหน้า ขณะที่กำไรสุทธิฟื้นตัว 564% YoY จากการหายไปของผลขาดทุนจำนวนมากผลจากสต็อก รวมถึงผลการดำเนินงานหลักที่ขยายตัวสูงขึ้นจากการรับรู้กำลังการผลิตใหม่ผ่านการเข้าซื้อกิจการในช่วงที่ผ่านมา หากพิจารณากำไรปกติที่ไม่รวมกำไรจากรายการพิเศษและผลของสต็อกจะอยู่ที่ 2.85 พันลบ. ทรงตัว QoQ และปรับตัวสูงขึ้น 57% YoY (SET)
      TRUE (7.60 บาท; NR; ราคาเป้าหมาย Bloomberg 7.43 บาท) รายงานขาดทุนสุทธิ 2.7 พัน ลบ. จาก ขาดทุน 552 ลบ.ในไตรมาส 2/59 และกำไร 35 ลบ. ในไตรมาส 3/58 เป็นแนวโน้มเชิงลบต่อ โดยตัวเลขขาดทุนนี้แย่กว่าตลาดคาดที่ 1.8 พัน ลบ. ถึง 50% (SET) ความเห็น: ตามที่เราคาด TRUE ประสบความสำเร็จในการเติบโตของรายได้แต่ผลงานกำไรยังแย่ต่อ ณ จุดนี้ เราไม่เชื่อว่าแหล่งรายได้ใหม่จากพันธมิตร Alipay ไม่น่าล้างผลจากปัจจัยพื้นฐานที่อ่อนแอได้

ต่างประเทศ :
      อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นเมื่อวันพฤหัส ปรับตัวขึ้นต่อเป็นวันที่ 2 เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะสูงขึ้นภายใต้การบริหารของพรรครีพับลิกันซึ่งคาดว่าจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายซึ่งทาให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น ราคาพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ลดลงกว่า 10/32 อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ระดับ 2.100% เพิ่มขึ้นจากที่ระดับ 2.064% เมื่อวันพุธ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งขึ้นถึงระดับ 2.125% สูงสุดนับแต่เดือนม.ค. (Reuters)
      ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นมากที่สุดในรอบ 3 เดือนครึ่งเทียบกับเงินเยนเมื่อวันพฤหัส เนื่องจากตลาดพิจารณาว่านโยบายหาเสียงของนายทรัมป์จะส่งผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างไร ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นกว่า 1% เทียบกับเงินเยนที่ระดับ 106.94 เยนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ก.ค. ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นมากโดยแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์และเกือบแตะระดับสูงสุดในช่วงต้นเดือนก.พ. (Reuters)

สหรัฐ :
      หุ้นในกลุ่มธนาคารสหรัฐทะยานขึ้นสู่ระดับสูงสุดซึ่งไม่ได้เห็นนับแต่เกิดวิกฤตการเงินในปี 2008 ดันให้ดัชนีดาวโจนส์ (DJlA) แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เนื่องจากตลาดวอลล์สตรีทคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของนายทรัมป์ โดยนายทรัมป์อยู่ข้างฝ่ายอนุรักษ์นิยมในการเรียกร้องให้ยกเลิกพรบ. ปฏิรูปการเงิน ดอดด์แฟรงค์ (Dodd Frank) ซึ่งบรรดาธนาคารต่อต้านอยู่ ดัชนีแนสแดคปรับตัวลงจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ร่วงลงเนื่องจากนักลงทุนหันไปลงทุนในกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน (Reuters)
       บูลลาร์ด: ชัยชนะของทรัมป์ส่งสัญญาณว่าจะมีการผ่อนคลายความเข้มงวด นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ระบุว่าการกวาดที่นั่งของพรรครีพับลิกันทั้งในทำเนียบขาวและในสภาคองเกรสจะช่วยปลดล็อคข้อจำกัดของนโยบายระดับประเทศที่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจสหรัฐ เขากล่าวว่าเดือนธ.ค. เป็นเวลาเหมาะสมที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย (Reuters)
       จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานในสหรัฐลดลงเกินคาดในสัปดาห์ก่อน ซึ่งย้ำถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานลดลง 11,000 ราย สู่ระดับ 254,000 ราย ณ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 5 พ.ย. ส่วนตัวเลขในสัปดาห์ก่อนหน้านั้นยังไม่มีการทบทวน จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการฯ อยู่ในระดับต่ำกว่า 300,000 รายติดต่อกัน 88 สัปดาห์ ซึ่งแสดงว่าตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่ง และเป็นเวลายาวนานที่สุดนับแต่ปี 1970 นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าตัวเลขดังกล่าจะลดลงสู่ระดับ 260,000 ราย (Reuters)

ยุโรป :
ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันพฤหัสปรับตัวลดลงเล็กน้อย เนื่องจากความคาดหวังของตลาดที่นาย Donald Trump ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่จะกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการคลังส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลกดดดันต่อราคาหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคที่เป็นลักษณะของหุ้นปันผลที่จะมีความน่าสนใจน้อยลง อย่างไรก็ตามตลาดได้แรงหนุนชดเชยจากหุ้นกลุ่มการเงินที่จะได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น (Reuters)

เอเชีย :
นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ชินโซ อะเบะจะพบกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ในนิวยอร์กสัปดาห์หน้า เพื่อคุยเรื่องการลงทุนและปัญหาด้านความปลอดภัย ญี่ปุ่นที่มีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจสหรัฐฯ เพราะมีการจ้างงานคนอเมริกันมากถึง800,000 คน และมียอดส่งออกไปสหรัฐฯ 78 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2557 (Reuters)
จีนจะแสวงหาการสนับสนุนจากประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ในเรื่องเขตการค้าเสรีในการประชุมสุดยอดความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก (เอเปค) ในเปรูจาก 19-20 พฤศจิกายนนี้ หลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งสหรัฐฯ ซึ่งแสดงท่าทางกีดกันในประเด็นเกี่ยวกับการค้าและ Trans-Pacific Partnership (TPP) ที่นำมาโดยประธานาธิบดีบารัก โอบา ถูกมองว่าเป็น "ภัยพิบัติ" ต่อประเทศจีน และจีนได้เสนอเขตการค้าเสรีของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (FTAAP) และครอบคลุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาค (Reuters)

สินค้าโภคภัณฑ์ :
น้ำมันร่วงวันพฤหัส เพราะตลาดดีดกลับจากที่เคยตกใจข่าว Donald Trump ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ และหันมามองเรื่องอุปทานล้นเกินและไม่รู้ว่า OPEC จะตัดสินใจลดกำลังการผลิตในช่วงปลายเดือนนี้หรือไม่ Brent ลบ 29 เซนต์ ปิดที่ 46.07 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล น้ำมันดิบสหรัฐล่วงหน้าลบ 34 เซนต์ ปิดที่ 44.93 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)
ทองคำร่วง 1% วันพฤหัส หลังจากค่าเงินดอลลาร์พุ่งสูงสุดรอบสามเดือนครึ่งเมื่อเทียบเยน เพราะตลาดให้น้ำหนักข่าว Donald Trump ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐและนโยบายที่จะส่งผลต่อการเติบโตเศรษฐกิจ ซึ่งหนุนดอลลาร์แข็ง ราคาทองคำตลาดจรปิดลบ 0.85% ไปอยู่ที่ 1,266.99 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หลังจากลงไปแตะ 1,262.96 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จุดต่ำสุดนับจาก 28 ต.ค. ราคาทองคำสหรัฐล่วงหน้าส่งมอบ ธ.ค. ได้ลบไป 0.5% ปิด 1,267.00 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ (Reuters)

Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) TeI: 02 680 5041
Mr. Krit SuwanpibuI (No.17968) TeI: 02 680 5090
Mrs. VajiraIux SangIerdsiIIapachai (No. 17385) TeI: 02 680 5077
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) TeI: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) TeI: 02 680 5094

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!