- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 11 November 2016 17:00
- Hits: 1822
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Today’s Report : COMAN (FirstDayTrade), BEC, BEM, BH, BLA, CPALL, GLOBAL, PS, SPRC,TACC, TPCH, TRUE, XO
Our Portfolio Nov 2016 : BEM, EKH, KTC, PDG, ROBINS
คาด SET ยังลุ้นบวกต่อ แต่ต้องระวังผันผวน ดังนั้นเน้นถือ...ซื้อรออ่อน
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET รีบาวด์ขึ้นต่อเนื่องขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบกว่า 2เดือนได้อีกครั้ง หลังตลาดหุ้นต่างประเทศเริ่มพลิกกลับมาตอบรับข่าวผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเชิงบวกแทน โดยคาดหวังว่านโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐอาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญขณะที่การประชุมเฟดครั้งถัดไปในวันที่ 13-14 ธ.ค. ก็มีโอกาสที่จะยังไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ อย่างไรก็ตามเนื่องจากยังไม่ได้มีความชัดเจนใดใดจึงทำให้ SET ยังผันผวนและมีแรงขายทำกำไรกดดันในช่วงบวกอยู่
แนวโน้มตลาดวันนี้ : ตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้ยังขยับขึ้นต่อ หลังนักลงทุนคาดว่านโยบายของ ปธน.สหรัฐคนใหม่จะช่วยผ่อนคลายกฏข้อบังคับของภาคธนาคารและกระตุ้นการใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภค ทำให้ราคาหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มอุตสาหกรรมยังพุ่งขึ้น ประกอบกับตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐก็ลดลงมากกว่าคาดด้วย อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นยุโรปเริ่มมีแรงขายทำกำไรกดดัน ขณะที่ราคาน้ำมันดิบกลับอ่อนตัวลงอีก และถึงแม้ว่าจะมีความหวังมากขึ้นว่าเฟดอาจจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยออกไปอีก แต่นักลงทุนบางส่วนคงต้องการรอดูท่าทีจากเฟดอีกครั้ง ทำให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้หลายแห่งเริ่มผันผวนและมีจังหวะอ่อนตัวบ้าง ส่วนค่าเงินบาทที่อ่อนแอลงก็กดดันตลาดหุ้นไทยอยู่ ดังนั้นแม้ว่า FSS จะคาดหมายว่า SET ยังแกว่งบวกต่อได้ แต่ก็ต้องระวังจังหวะผันผวนด้วย
กลยุทธ์ : เรายังแนะนำเน้นถือต่อเนื่องไว้ก่อนได้ แต่ซื้อใหม่ให้รอช่วงอ่อนตัว
แนวรับ 1513-1510 , 1507-1505 จุด
แนวต้าน 1518-1522 , 1525-1527 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : UTP , CKP , JWD(short)
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาคแต่เบาบางลงมากUS$13ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกกลุ่ม TIP นำโดยไทย US$59ล้านอินโดนีเซีย US$21ล้าน และฟิลิปปินส์ US$10ล้าน ขณะที่ไหลเข้าเกาหลีใต้US$86ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคเข้าดอลลาร์ซึ่งมีทิศทางแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินในภูมิภาคหลังมีการคาดการณ์ว่าTrump น่าจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
• (+) หุ้นไทยขึ้นได้แม้ Flow ไม่เข้า จากนี้จนถึงสิ้นปีมีโอกาสน้อยที่เม็ดเงินต่างชาติจะไหลเข้าตลาดหุ้นไทยรวมถึงสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆอย่างมีนัยสำคัญจาก 3 เหตุการณ์สำคัญคือการรอผลประชุม FOMC (14-15 ธ.ค.) รอนโยบายที่ชัดเจนของ Trump (รับตำแหน่ง20 ม.ค. 2017) และผลประชามติแก้ไขร่างรธน.ของอิตาลี (4 ธ.ค.) ซึ่งจะมีผลต่อตลาดเงินอย่างมากอีกครั้ง แต่เชื่อว่าหุ้นไทยปรับขึ้นได้ตามทิศทางกำไรที่ดีขึ้น
• (+) TPCH กำไรออกมาตรงตามคาด -1% Q-Q, +891% Y-Y ทำให้กำไรงวด 9M16+1,013% Y-Y แนวโน้มกำไร 4Q16 จะดีขึ้นอีกเพราะมีอีก 1 โรงไฟฟ้า (9.2MW) เข้ามาเรายังคงคาดกำไรปี 2016-18 โตเฉลี่ย 135% ต่อปี ยังแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 23 บาท
• (+) BEM กำไรสุทธิที่ -47% Y-Y เป็นเพราะ 3Q15 มีกำไรจากการขาย BMCL 1.24พันล้านบาท แต่กำไรปกติ 3Q16 ถือว่าดีกว่าเราและตลาดคาด +11% Q-Q, +184% YYยังคงแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐานปีหน้า 12 บาท
• (+) CPALL กำไรเป็นไปตามคาด -2% Q-Q, +26% Y-Y เป็น 4.1 พันล้านบาทถือว่าสดใส เป็นความสำเร็จของ Stamp Promotion และมีการเปิดสาขาใหม่ต่อเนื่องรวมเป็น9,411 สาขา แนวโน้มกำไร 4Q16 จะดีต่อ คงคำแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 74 บาท
• (0) BLA กำไรงวด 9M16 ที่ +71% Y-Y เกิดจากการกลับรายการเงินสำรองใน 2Q16ขณะที่กำไรหลักจากธุรกิจประกันภัยถือว่าชะลอตัว เราปรับลดกำไรปี 2016-17 ลงเป็น+4% Y-Y ในปีนี้และ +11% Y-Y ในปีหน้าโดยปรับลดการขยายตัวของเบี้ยประกัน ปรับไปใช้ราคาพื้นฐานปีหน้าที่ 56.50 บาท ปรับคำแนะนำเป็นถือ จากเดิมขาย
• (0) XO กำไร 3Q16 อ่อนแอตามคาด -67% Q-Q, -62% Y-Y เพราะถูกลูกค้าต่อรองราคาหลังจากค่าเงินปอนด์และยูโรอ่อนค่ามาก และมีค่าใช้จ่ายพนักงานในโรงงานใหม่เพิ่ม แนวโน้ม 4Q16 ยังไม่สดใส โรงงานใหม่เริ่มการผลิตบ้างแล้วแต่คำสั่งซื้อยังน้อยมากเพราะเป็น Low season พอดี เราปรับกำไรลงเหลือ +5.8% Y-Y ในปีนี้และ +27.5% YYในปี 2017 ปรับราคาพื้นฐานปีหน้าลงเหลือ 7 บาท ลดคำแนะนำจากซื้อเป็นถือ
• (0) BH กำไรที่ฟื้นใน 3Q16 เป็นการฟื้นจากฐานต่ำหลังจากรายได้หดตัวหลายไตรมาสติดต่อกัน แต่แนวโน้มข้างหน้ายังไม่แข็งแกร่งและไม่กลับไปเติบโตสูงเท่าในอดีตเพราะลูกค้าในตะวันออกกลางชะลอ เราปรับกำไรปี 2016-17 ลงเป็นโตเพียง 5.4% Y-Y ในปีนี้และ 7.7% Y-Y ในปีหน้า โตต่ำสุดในกลุ่ม คงคำแนะนำถือ ราคาพื้นฐานปีหน้า 200 บาท
• (+) COMAN เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายโปรแกรมสำเร็จรูปที่พัฒนาขึ้นเองภายใต้ลิขสิทธิ์Comanche Hotel Software และ Data Base เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมโรงแรม ซึ่งมีศักยภาพเติบโตสูงตามการขยายตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวและโรงแรม/เกสต์เฮาส์ที่เพิ่มขึ้น และจำหน่ายและติดตั้งโปรแกรมในต่างประเทศ และลงทุนในบริษัทอื่นที่เกี่ยวข้อง เราคาดกำไรสุทธิปี 2016-18 เติบโตเฉลี่ย 34% ต่อปีตามการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ที่ราคา IPO 7.80 บาทคิดเป็น 2017PE 20 เท่า เราประเมินมูลค่าเหมาะสม 9.70 บาท (อิง PE 25 เท่า) (FSS เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้น IPO ของ COMAN)
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
11 พ.ย. - ไทย: COMAN เข้าเทรด (ราคา IPO 7.80 บาท)
- ฮ่องกง: 3Q16 GDP
- เกาหลีใต้: ธนาคารกลาง (BoK) ประชุม
- สหรัฐ: ตลาดหุ้นปิดทำการเนื่องในวัน Veterans Day
14 พ.ย. - จีน: Industrial Production, Retail sales, Fixed assets (ต.ค.)
- ญี่ปุ่น: 3Q16 GDP
15 พ.ย. - MSCI Semi-annual Index Review (ใช้ราคาปิด 1 ธ.ค. 2016)
- สหรัฐ: ยอดค้าปลีก (ต.ค.)
- ยูโรโซน: 3Q16 GDP, ZEW Survey Expectations (พ.ย.)
17 พ.ย. - ฟิลิปปินส์: 3Q16 GDP
- อินโดนีเซีย: ธนาคารกลาง (BI) ประชุม
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (ต.ค.)
- สหรัฐ: Housing Starts & Building Permits (ต.ค.)
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมายังปิดผสม แต่ DJIA สามารถพุ่งขึ้นทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้ โดยยังได้รับอานิสงส์จากความชัดเจนของผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี
(-) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาพลิกมาปิดในแดนลบ หลังจากที่ปรับตัวขึ้นในวันก่อนหน้าและช่วงเช้าของวันจากอานิสงส์ของผลการเลือกตั้งของสหรัฐฯ
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวผสมในกรอบกว้างหลังจากที่ดีดตัวรีบาวด์ขึ้นแรงวานนี้ตามตลาดหุ้นภูมิภาคอื่น
(-) ค่าเงินบาทอ่อนค่าแรงวานนี้ ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 34.20-35.40 บาท/ดอลลาร์
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ลดลง 0.61 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 44.66 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง IEA คาดว่าการผลิตน้ำมันของกลุ่ม OPEC ในเดือน พ.ย. จะยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งยังสร้างความกังวลในเรื่องอุปทานที่ล้น
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ลดลง 7.10 ดอลลาร์/ออนซ์มาอยู่ที่ 1,266.40 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยเม็ดเงินยังคงไหลออกจากสินทรัพย์ปลอดภัยหลังจากผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯมีความชัดเจน
Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: fss_research