- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 10 November 2016 17:07
- Hits: 2702
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Today’s Report : AP, BCP, BKD, ERW, ICHI, SYMC, THCOM, TVO
Our Portfolio Nov 2016 : BEM, EKH, KTC, PDG, ROBINS
แม้ SET ยังผันผวนบ้าง แต่ก็ฟื้นตัวไว ดังนั้นซื้อแล้วยังเน้นถือต่อดีกว่า
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET ปรับตัวลงค่อนข้างแรงในช่วงเช้า ตามภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศทั่วโลกที่ปรับตัวลงรุนแรง จากการผิดคาดเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งปธน.สหรัฐ แต่หลังจากตลาดหุ้นทั่วโลกตอบรับข่าวในเชิงลบไปมากพอควรแล้ว ก็เริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาในหลายตลาด โดยเฉพาะ SET สามารถพลิกกลับขึ้นมาจนกระทั่งเกือบปิดสิ้นวันเป็นบวกได้ แสดงถึงแรงซื้อในตลาดที่ยังมีมากพอตามคาด
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เช้านี้ตลาดหุ้นต่างประเทศพลิกกลับมาเคลื่อนไหวสดใสมากขึ้น หลังตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้สามารถพลิกกลับมาปิดเป็นบวกได้กว่า 1% โดยมีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มธนาคาร ธุรกิจสุขภาพและกลุ่มอุตสาหกรรมอย่างคึกคัก จากความหวังที่ว่านโยบายของ ปธน.สหรัฐคนใหม่จะเอื้อประโยชน์ต่อภาคธุรกิจ และหนุนให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ส่งผลให้ตลาดหุ้นในเอเชียเช้านี้เปิดบวกกลับจากการปรับตัวลงแรงเมื่อวานนี้ด้วยเช่นกัน ทำให้ FSS ยังคาดว่าหลังจาก SET ปรับตัวลงและฟื้นตัวได้เร็วเมื่อวานนี้แล้ว ถัดจากนี้น่าจะยังลุ้นโอกาสแกว่งไต่ระดับขึ้นต่อเนื่องได้ตามคาด จากการเก็งกำ ไรผลประกอบการของ บจ.ต่างๆ และแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศที่เราคาดว่ามีโอกาสฟื้นตัวได้ดีขึ้นในปีหน้า
กลยุทธ์ : แม้ SET ยังผันผวนบ้าง แต่ FSS คาดว่าตลาดกำลังอยู่ระหว่างแกว่งไต่ระดับขึ้นหาระดับดัชนีตามพื้นฐานที่เราประเมิณไว้แถว 1550 จุดในเร็วๆ นี้ดังนั้นซื้อแล้วยังแนะนำให้เน้นถือต่อเนื่องไว้ก่อน เพื่อรอขายสูงเช่นเดิม
แนวรับ 1508-1505 , 1502-1498 จุด
แนวต้าน 1514-1518 , 1522-1527 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : IVL , TPBI , GL(buy back)
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาคหนาแน่น US$723ล้านเงินไหลออกจากทุกประเทศนำโดยไต้หวัน US$460ล้าน เกาหลีใต้ US$185ล้าน และไทย US$75ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออก หลังจากโดนัล ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งมีนโยบายเป็นบวกต่อเศรษฐกิจในประเทศซึ่งอาจหนุนค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในระยะถัดไป ตลาดกลับมาให้ความสนใจต่อการประชุม FOMC ในเดือนหน้า
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
• (+) Fed อาจเลื่อนขึ้นดอกเบี้ย นอกจาก Trump จะชนะเลือกตั้งเป็นปธน. พรรครีพลับลิกันยังครองเสียงข้างมากทั้งในสภาล่างและสภาสูง การดำเนินนโยบายหลายอย่างน่าจะทำได้ตามที่หาเสียงไว้ (ยกเว้นเรื่องลดภาษี) รวมถึงการค้าระหว่างประเทศที่ไม่เป็นมิตรกับเอเชีย แต่ไทยพึ่งพาตลาดสหรัฐ 10% น้อยกว่าจีน+อาเซียนที่มีสัดส่วน 25% (สินค้าไทยที่ส่งออกไปสหรัฐมี ไก่ อาหารทะเล ยางพารา ไม้) ส่วน TPP ที่น่าจะยกเลิก แม้ไทยจะยังไม่ได้เป็นสมาชิกแต่ก็ดีต่อไทย การเจรจา FTA ไทย-สหรัฐ ที่หยุดชะงักไป ถือเป็นโอกาสให้ไทยเจรจาใหม่ ที่สำคัญคือการประชุม FOMC 14-15 ธ.ค. มีโอกาสยังไม่ขึ้นดอกเบี้ย แต่รอนโยบายของปธน.คนใหม่ (รับตำแหน่ง 20 ม.ค. 2017) ก่อนจะประชุมอีกครั้ง 2 ก.พ. 2017 ถ้าเช่นนี้ จะดีต่อราคาทองคำและตลาดหุ้น
• (+) ERW กำไรที่คาดว่าดีแล้วยังดีกว่าคาดอีก ทำได้ 56 ล้านบาท โตก้าวกระโดดจาก 1ล้านบาทใน 2Q16 และพลิกจากขาดทุน 20 ล้านบาทใน 3Q15 แนวโน้มใน 4Q16 อาจถูกกระทบจากการไว้ทุกข์ทำให้งาน Event (15-20% ของรายได้) เลื่อนออกไป แต่เรามองกระทบชั่วคราว ยังคงแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐานปีหน้า 6 บาท และชอบที่สุดในกลุ่มโรงแรม
• (0) TVO กำไร 3Q16 ทำจุดสูงสุดใหม่ตามคาด +32% Q-Q, +60% Y-Y ดีทั้งจากการขายกากถั่วเหลืองและน้ำมันถั่วเหลือง กำไรงวด 9M16 +36% Y-Y แต่แนวโน้ม 4Q16ชะลอเพราะเป็น low season เราคงประมาณการกำไรปีนี้ +44% Y-Y ปีหน้าน่าจะทำได้เพียงทรงตัว คงราคาพื้นฐานปีหน้า 40 บาท ระวัง sell on fact อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นที่ปรับฐานยังเป็นโอกาสซื้อ เพราะเราคาดเงินปันผล 2H16 ที่สูงถึง 1.60 บาท/หุ้น
• (-) THCOM กำไรอ่อนแอตามคาด หากตัดรายการพิเศษออก กำไรปกติ -41% Q-Q, -46% Y-Y จากลูกค้า (CTH, GMMB) ที่ยกเลิกการใช้งาน และ NBN ที่ใช้งานน้อยลง (หันไปใช้ดาวเทียมของตัวเอง) แนวโน้มธุรกิจดาวเทียมยังน่าเป็นห่วง ยังคงแนะนำขาย ราคาพื้นฐานปีหน้า 19 บาท
• (-) กำไรกลุ่มที่อยู่อาศัยแย่กว่าคาด กำไรของบริษัทที่รายงานแล้ว (AP, LPN, PS,QH) -41% Q-Q, -38% Y-Y โดยเฉพาะ PS ที่สร้าง negative surprise มากที่สุด (กำไร-50% Q-Q, -43% Y-Y) หลักๆมาจากรายได้โอนที่ไม่มาตามเป้า -30% Q-Q, -26% Y-Yซึ่งน่าจะมาจาก Demand ที่ยังอ่อนแอ ในขณะที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มจากการเปิดโครงการใหม่และค่าโอนและค่าจดจำนองเพิ่มขึ้นหลังหมดมาตรการภาครัฐ (ต.ค. 2015-เม.ย. 2016)เราอยู่ระหว่างปรับลดกำไรและราคาเป้าหมายของ PS และยังไม่ชอบกลุ่มนี้ ยกเว้น ORIที่คาดกำไรจะโตโดดเด่น +89% Q-Q, +337% Y-Y ประกาศงบ 14 พ.ย.
• (+) BCP กำไรดีกว่าเราและตลาด -51% Q-Q, +178% Y-Y แนวโน้ม 4Q16 จะดีขึ้นจากค่าการกลั่นที่ฟื้นตามฤดูกาล ราคาหุ้น BCP laggard กว่ากลุ่มพลังงานมาก ทำให้มี2017PE ต่ำเพียง 8.6 เท่า เรายังคงราคาพื้นฐานปีหน้า 38 บาท แนะนำซื้อ ในกลุ่มโรงกลั่น เราแนะนำ BCP และ IRPC ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตที่น่าสนใจและ valuation ถูก
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
10 พ.ย. - ฟิลิปปินส์: ธนาคารกลาง (BSP) ประชุม
11 พ.ย. - ไทย: COMAN เข้าเทรด (ราคา IPO 7.80 บาท)
- ฮ่องกง: 3Q16 GDP
- เกาหลีใต้: ธนาคารกลาง (BoK) ประชุม
- สหรัฐ: ตลาดหุ้นปิดทำการเนื่องในวัน Veterans Day
14 พ.ย. - จีน: Industrial Production, Retail sales, Fixed assets (ต.ค.)
- ญี่ปุ่น: 3Q16 GDP
15 พ.ย. - MSCI Semi-annual Index Review (ใช้ราคาปิด 1 ธ.ค. 2016)
- สหรัฐ: ยอดค้าปลีก (ต.ค.)
- ยูโรโซน: 3Q16 GDP, ZEW Survey Expectations (พ.ย.)
17 พ.ย. - ฟิลิปปินส์: 3Q16 GDP
- อินโดนีเซีย: ธนาคารกลาง (BI) ประชุม
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (ต.ค.)
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดแดนบวกได้ค่อนข้างแรงหลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี แม้ในช่วงแรงจะเกิดความกังวลและทำให้ Dow Jones Future ร่วงแรง
(+) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดบวกได้ค่อนข้างแรงเช่นกันตอบรับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลังจากที่เปิดตลาดในช่วงแรกในแดนลบ
(+) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ดีดตัวขึ้นแรงตามตลาดหุ้นภูมิภาคอื่นหลังจากที่ปิดลบอย่างหนักวานนี้จากความกังวลในช่วงแรงที่โดนัลด์ทรัมป์มีแนวโน้มชนะการเลือกตั้ง
(0) ค่าเงินบาทยังแกว่งทรงตัวออกข้าง ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ34.90-35.10 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ขยับขึ้น 0.29ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 45.27 ดอลลาร์/บาร์เรล ตามตลาดการเงินของสหรัฐฯที่ดีดตัวกลับได้แรงในทิศทางเดียวกับที่เกิดขึ้นกรณี Brexitหลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ลดลง 1.00 ดอลลาร์/ออนซ์มาอยู่ที่ 1,273.50 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยราคาทองคำดีดตัวขึ้นแรงในช่วงแรกจากความกังวลว่าโดนัล ทรัมป์จะชนะการเลือกตั้ง แต่ราคาทองคำพลิกย้อนลบลงมาหลังจากตลาดหุ้นสามารถพลิกกลับมาปิดบวกได้
Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: fss_research