- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 09 November 2016 16:39
- Hits: 1421
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Today’s Report : ADVANC, KCE, MTLS, PDG, SAWAD
Our Portfolio Nov 2016 : BEM, EKH, KTC, PDG, ROBINS
SET เริ่มขึ้นจริงจัง คาดมีลุ้นขึ้นต่อตามคาด ดังนั้นซื้อแล้วเน้นถือต่อ
ตลาดหุ้นวานนี้ : หลังตลาดหุ้นต่างประเทศส่วนใหญ่ขยับบวก เพื่อรอลุ้นผลเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐ โดยนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคาดว่านางฮิลลารี คลินตัน จะสามารถเอาชนะในสนามเลือกตั้งได้ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกก็เริ่มฟื้นตัวขึ้นได้บ้าง ส่งผลให้ SET ยังสามารถขยับบวกต่อเนื่องจากวันก่อนหน้าได้อีก แม้ว่ากรอบบวกจะยังค่อนข้างแคบ และมีจังหวะผันผวนในระหว่างวันพอควร เนื่องจากยังไม่ได้มีความชัดเจน แต่ก็ถือว่าแรงซื้อในตลาดหุ้นไทยยังแข็งแกร่งพอควร
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เช้านี้บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศยังถือว่าค่อนข้างสดใสต่อเนื่อง หลังเริ่มมีการนับคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐไปบางส่วน ซึ่งผลยังค่อนข้างไปในทางที่นักลงทุนส่วนใหญ่คาดหวังรวมทั้งราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเมื่อวานนี้ยังฟื้นตัวต่อได้อีกเล็กน้อย จากการที่กลุ่มประเทศโอเปกปรับเพิ่มคาดการณ์ความต้องการน้ำมันทั่วโลกในปี2560 ขึ้น อย่างไรก็ตามกว่าที่ผลเลือกตั้งจะชัดเจนมากขึ้นก็น่าจะเป็นช่วงครึ่งวัน ทำให้คาดว่า SET มีโอกาสที่จะแกว่งตัวผันผวนอยู่พอควร หลังตลาดขึ้นมารอรับข่าวไปพอควรในช่วง 2 วันที่ผ่านมา แต่ FSS คาดว่ากรอบอ่อนตัวของSET ยังมีจำกัด และยังมีแนวโน้มที่จะขยับขึ้นต่อมากกว่าตามคาดเดิมอยู่
กลยุทธ์ : FSS คาดว่า SET กำลังอยู่ระหว่างแกว่งไต่ระดับขึ้นหาระดับดัชนีตามพื้นฐานที่เราประเมิณไว้แถว 1550 จุดได้ในเร็วๆ นี้ ดังนั้นซื้อแล้วยังแนะนำให้เน้นถือต่อเนื่องไว้ก่อน เพื่อรอขายสูงดีกว่า
แนวรับ 1508-1505 , 1502-1498 จุด
แนวต้าน 1514-1518 , 1522-1527 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : PTG , CSS , DTAC(buy back)
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาคแต่เบาบางลงเหลือUS$55ล้าน เงินทุนส่วนใหญ่ไหลออกจากเกาหลีใต้ US$106 ล้าน และไทยUS$3.7ล้าน ขณะที่ไหลเข้าไต้หวัน US$37ล้าน และอินโดนีเซีย US$11.1ล้าน โดยเป็นการไหลเข้าตลาดกลุ่ม TIP เป็นวันแรกในรอบ 11 วันทำการแนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางกลับมาไหลเข้าภูมิภาค ตลาดคาด ฮิลลารีคลินตัน น่าจะได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
• (0) รู้ผลอย่างไม่เป็นทางการสายๆของวันนี้ การนับคะแนนระหว่าง Clinton กับTrump จะทำให้บรรยากาศตลาดหุ้นเคลื่อนไหวผันผวนเช้านี้ หาก Clinton ชนะเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 45 ราคาทองคำจะปรับลง หุ้นปรับขึ้นโดยเฉพาะ Bigcap. แต่หาก Trump ชนะ ทิศทางจะตรงกันข้าม อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจะเป็นระยะสั้นหลังจากนี้ตลาดจะกลับมากังวลกับการขึ้นดอกเบี้ยเฟดเดือนหน้า สำหรับตลาดหุ้นไทยได้รับผลกระทบทางอ้อมและชั่วคราว ปัจจัยสำคัญยังอยู่ที่ Earnings season และเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัวได้ดีในปีหน้า
• (0) คาดกนง.คงดอกเบี้ยที่ 1.5% เพื่อรอนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่และผลประชุม Fed 14-15 ธ.ค. และอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันเหมาะสมกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศที่เป็นไปอย่างช้าๆ
• (+) MTLS กำไรดีกว่าเราและตลาดคาดมาก ทำได้ถึง 401 ล้านบาท +34% Q-Q,+81% Y-Y จากสินเชื่อที่โตมากกว่าคาดและสูงเป็นประวัติการณ์ 1.8 หมื่นล้านบาท และการปรับ product mix ซึ่งนอกจากจะทำให้รายได้ดอกเบี้ยเพิ่มสูงแล้ว Loan yield ยังเพิ่มเป็น 22.9% จาก 22.6% ในไตรมาสก่อน ส่วน NPL ratio ต่ำมากเพียง 0.95% ขณะที่Coverage ratio สูงถึง 287% เราปรับราคาพื้นฐานปีหน้าขึ้นเป็น 28.80 บาท แนะนำซื้อ
• (-) ADVANC กำไรต่ำกว่าเราและตลาดคาดมาก กำไรสุทธิทำได้เพียง 6.56 พันล้านบาท กำไรปกติต่ำกว่านั้น 6.46 ล้านบาท -31% Q-Q, -25% Y-Y จากค่าใช้จ่ายทางการตลาดทั้งการโฆษณาและการแจกมือถือแก่ลูกค้า 2G ที่เร่งตัวขึ้นมาก และมีแนวโน้มมากต่อไปจากการแข่งขันที่รุนแรงทำให้กำไร 4Q16 ถึง 1H17 ไม่ดีนัก เราปรับกำไรปกติปี 2016-17 ลงเป็น -21% ในปีนี้และ -2% ปีหน้า ลดราคาพื้นฐานปีหน้าเหลือ 175 บาทจาก 190 บาท (DCF) ยังคงแนะนำเพียงถือ รับปันผลที่คาด yield 3% (4.56 บาท/หุ้น)
• (0) KCE กำไรปกติ 3Q16 +1.3% Q-Q, +29.2% Y-Y ตามคาด กำไรที่เติบโตต่ำ Q-Qเพราะถูกกระทบจากเงินบาทแข็งค่าและลูกค้ารายใหญ่เปลี่ยนรูปแบบการขนส่งจากทางอากาศเป็นทางน้ำ ทำให้รับรู้รายได้ช้าออกไป แต่สิ่งที่ยังน่าประทับใจคืออัตรากำไรขั้นต้นที่ทำ new high ได้ต่อ เราปรับกำไรปีนี้ลงเล็กน้อยแต่คงประมาณการปี 2017 และคงราคาพื้นฐานปีหน้า 117 บาท คงคำแนะนำถือ เพราะ upside ที่เหลือเพียง 5%
• (0) GFPT กำไรสุทธิ 3Q16 ใกล้เคียงคาด +30% Q-Q, +52% Y-Y โตดีสอดคล้องกับฤดูกาล High season ของส่งออก ทำให้กำไรงวด 9M16 +55% Y-Y คิดเป็น 86% ของประมาณการทั้งปี คงราคาเป้าหมายปีหน้า 17.70 บาท แม้คำแนะนำเป็นซื้อ แต่ราคาหุ้นในระยะสั้นขาด catalyst เพราะกำไร 4Q16 จะแผ่วลงตาม Low season และราคาไก่ลดลงมาก แนะนำเก็งกำไร CPF แทนเพราะงบ 3Q16 น่าจะออกมาดีเช่นเดียวกันประกาศ 11 พ.ย. นี้
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
9 พ.ย. - ไทย: กนง.ประชุม (ตลาดคาดคงดอกเบี้ยที่ 1.5%)
10 พ.ย. - ฟิลิปปินส์: ธนาคารกลาง (BSP) ประชุม
11 พ.ย. - ไทย: COMAN เข้าเทรด (ราคา IPO 7.80 บาท)
- ฮ่องกง: 3Q16 GDP
- เกาหลีใต้: ธนาคารกลาง (BoK) ประชุม
- สหรัฐ: ตลาดหุ้นปิดทำการเนื่องในวัน Veterans Day
14 พ.ย. - จีน: Industrial Production, Retail sales, Fixed assets (ต.ค.)
- ญี่ปุ่น: 3Q16 GDP
15 พ.ย. - MSCI Semi-annual Index Review (ใช้ราคาปิด 1 ธ.ค. 2016)
- สหรัฐ: ยอดค้าปลีก (ต.ค.)
- ยูโรโซน: 3Q16 GDP, ZEW Survey Expectations (พ.ย.)
17 พ.ย. - ฟิลิปปินส์: 3Q16 GDP
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (ต.ค.)
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมายังปิดในแดนบวกได้จากกระแสคาดการณ์ที่ว่านางคลินตันจะเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามกรอบการบวกยังจำกัดเนื่องจากนักลงทุนจับตาดูผลอย่างใกล้ชิดซึ่งจะทราบหลังตลาดปิดทำการ
(+) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมายังปิดในแดนบวกได้เช่นกันโดยนักลงทุนจับตาดูผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯที่จะทราบในวันนี้
(+) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดในแดนบวกได้ต่อเนื่องตามตลาดหุ้นภูมิภาคอื่น ซึ่งจากโพลล่าสุดระบุว่าค่อนข้างสู่สี
(0) ค่าเงินบาทแกว่งทรงตัว ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 34.90-35.05บาท/ดอลลาร์
(0) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ขยับขึ้น 0.09ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 44.98 ดอลลาร์/บาร์เรล ก่อนที่จะเริ่มขยับลงเช้าวันนี้จากรายงานสต๊อกน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้น อย่างไรก็ตามตลาดให้น้ำหนักกับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯที่จะทราบในวันนี้
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ลดลง 4.90 ดอลลาร์/ออนซ์มาอยู่ที่ 1,274.50 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยนักลงทุนจับตาดูผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯซึ่งค่อนข้างคู่คี่สูสี
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265 Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research, IG: fss_research