- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 07 November 2016 16:54
- Hits: 11293
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : STEC (จากถือเป็น ซื้อ)
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ตลาดหุ้นไทยเมื่อวันศุกร์ร่วงลงจากแรงขายหุ้น Big Cap ในกลุ่มธนาคาร, พลังงาน, สื่อสาร แม้มีเลือกซื้อหุ้นขนาดกลาง-เล็กแต่ก็ไม่สามารถชดเชยได้ ปิดตลาดดัชนี -7.38 จุดที่ 1485.70 จุด การซื้อขายไม่คึกคักเพราะรอดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐประจำเดือนต.ค.และผลการเลือกตั้งปธน.สหรัฐวันที่ 8 พ.ย.59 นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อ 1.5 พันล้านบาท สถาบันในประเทศขายสุทธิ 830 กว่าล้านบาท ส่วนรายย่อยและพอร์ตบล.ซื้อสุทธิ
ในช่วงต้นสัปดาห์ ยังระมัดระวังการลงทุนก่อนเลือกตั้งปธน.สหรัฐวันที่ 8 พ.ย.นี้ อย่างไรก็ตาม คะแนนนิยมของนางฮิลลารีมีโอกาสตีตื้นขึ้น หลัง FBI ตัดสินว่าเธอไม่มีความผิดอาญาเกี่ยวกับการใช้เซิร์ฟเวอร์อีเมล์ส่วนตัวในขณะที่ดำรงตำแหน่งรมว.ต่างประเทศ และโอกาสชนะของเธอมีมากขึ้นด้วย ด้านตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐเดือนต.ค.ที่เพิ่ม 1.61 แสนตำแหน่ง & ปรับเพิ่มเดือนก.ย. และส.ค.เป็น 1.91 และ 1.76 แสนตำแหน่งทำให้โอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเดือนธ.ค.59 มีมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้ได้สะท้อนอยู่ในตลาดไปบ้างแล้ว จึงคาดว่าตลาดจะไม่ Panic กับเรื่องนี้ กลยุทธ์ : ซื้อเก็งกำไรจังหวะอ่อนตัว & ยังคงถือหุ้นดีที่จ่ายปันผลสม่ำเสมอ และทยอยสะสมหุ้นเติบโตแกร่งช่วงที่ราคาพักฐาน หุ้นเชิงกลยุทธ์แนะนำวันนี้เป็น BA
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ระยะสั้นสัญญาณป็นลบ ซื้อใหม่เน้นตามด้วยค่าบวกของดัชนีและราคาหุ้น ค่าลบดูไม่ดีเพราะมีโอกาสลงไปที่ 1470-1460, 1450 จุดได้ ส่วนแนวต้านระยะสั้นให้ไว้ที่ 1495-1500,1510 จุด ส่วนการ SCAN หุ้นที่มีสัญญาณเทคนิคดี มีโอกาสทำ New High พบว่าที่เข้ามาใหม่เป็น TVO, MCS, MEGA ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List เป็น RCI, BCH, RJH, GPSC, AJ, BCP, ASIMAR, LOXLEY สำหรับหุ้นที่แนะนำไปแล้ว & ให้หาจังหวะ Take Profit ได้แก่ GLOBAL, PYLON, STPI, INET, TU ส่วนหุ้นที่หลุด List คือ THCOM, BJC, TNH
ปัจจัยต่างประเทศ
+ ยูโรโซน : ดัชนี PMI รวมภาคผลิต-บริการเดือนต.ค.เพิ่มเป็น 53.3 มาร์กิต อิโคโนมิคส์ เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการของยูโรโซนเดือนต.ค. อยู่ที่ระดับ 53.3 อ่อนลงจากตัวเลขเบื้องต้นที่ 53.7 แต่ดีขึ้นจากเดือนก.ย.ที่ 52.6 โดยมาร์กิตระบุว่าเศรษฐกิจยูโรโซนขยายตัวเร็วขึ้นในเดือนต.ค.59 ผลผลิตเพิ่มขึ้นรวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.59 ซึ่งเป็นไปตามการจ้างงานที่ดีขึ้น
• อังกฤษ : นายกฯยืนยันเดินหน้ากระบวนการ Brexit
นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ให้คำมั่นว่าจะดำเนินการเพื่อถอนตัวจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปอย่างเต็มรูปแบบ (Brexit) โดยใช้มาตรา 50 แม้ว่าศาลสูงจะมีคำวินิจฉัยออกมาเรื่องการถอนตัวว่าต้องผ่านกระบวนการรัฐสภาก็ตาม โดยเธอจะขออุทธรณ์คำวินิจฉัยของศาลสูง ซึ่งศาลสูงได้กำหนดให้รัฐบาลสามารถยื่นอุทธรณ์คำวินิจฉัยต่อศาลสูงสุดได้ในวันที่ 5-8 ธ.ค.
+ สหรัฐ : FBI ยืนยันฮิลลารีไม่มีความผิดอาญาหลังตรวจสอบรอบใหม่
นายเจมส์ โคมีย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) ยืนยันต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐว่า FBI จะไม่เปลี่ยนแปลงข้อสรุปที่ว่า นางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต ไม่มีความผิดทางคดีอาญา หลังจากที่ทาง FBI ได้ทำการตรวจสอบอีเมล์ส่วนตัวที่นางฮิลลารีได้รับและส่งข้อความในช่วงที่เธอดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ
• สหรัฐ : ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรต่ำกว่าคาดเล็กน้อย
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 161,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค.ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 4.9% นอกจากนี้ยังรายงานด้วยว่าตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน +10 เซนต์ หรือ +0.4%MoM ในเดือนต.ค. และ +2.8%YoY ซึ่งสูงสุดในรอบเกือบ 7 ปีครึ่ง นอกจากนั้นกระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขการจ้างงานในเดือนก.ย. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 191,000 ตำแหน่ง จากที่มีการรายงานก่อนหน้านี้ว่าเพิ่มขึ้น 156,000 ตำแหน่ง และทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขการจ้างงานในเดือนส.ค. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 176,000 ตำแหน่ง จากที่มีการรายงานก่อนหน้านี้ว่าเพิ่มขึ้น 167,000 ตำแหน่ง
•/- ตลาดหุ้นสหรัฐ : แกว่งลงก่อนการเลือกตั้งปธน. 8 พ.ย.นี้
นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐจะมีขึ้นในวันที่ 8 พ.ย.นี้ และกระแสคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.59 หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมาใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ไว้ ทำให้ตลาดแกว่งลงด้วย ปิดตลาดเมื่อคืนวันศุกร์ ดัชนี DJIA ลดลง 42.39 จุด หรือ 0.24% ปิดที่ 17,888.28 จุด ดัชนี S&P500 ลดลง 3.48 จุด หรือ 0.17% ปิดที่ 2,085.18 จุด และดัชนี NASDAQ ลดลง 12.04 จุด หรือ 0.24% ปิดที่ 5,046.37 จุด
- ราคาน้ำมันดิบ : ลดลงต่อ
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 59 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 44.07 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วน BRENT ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 77 เซนต์ หรือ 1.7% ปิดที่ 45.58 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากกังวลอุปทานที่เพิ่มขึ้นขณะที่กลุ่มโอเปกยังไม่มีทีท่าว่าจะตกลงเรื่องการปรับลดปริมาณการผลิตได้เร็วๆนี้ ทั้งนี้บริษัท เบเกอร์ ฮิวจ์ รายงานว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้น 9 แท่น สู่ระดับ 450 แท่น (แต่ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 572 แท่น) ส่วนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐเดือนก.ย.มีจำนวน 509 แท่น เพิ่ม 28 แท่นจากเดือนส.ค.
• ราคาทองคำ : ปิดทรงตัว
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.2 ดอลลาร์ หรือ 0.09% ปิดที่ระดับ 1,304.50 ดอลลาร์/ออนซ์
ปัจจัยในประเทศ & หุ้นเด่น
+ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง : ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนเป็น Overweight
ฝ่ายวิจัยฯ DBSV ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนกลุ่มรับเหมาก่อสร้างเป็น Overweight (เดิม Neutral) สะท้อนความคืบหน้าในโครงการลงทุนภาครัฐที่จะมีความคืบหน้ามากขึ้นในช่วง 1Q60 ซึ่งคาดว่าจะมีการประกาศรายชื่อผู้ชนะประมูลในโครงการต่างๆ มูลค่าราว 1.6-1.7 แสนล้านบาท เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ชมพู และเหลือง รวมถึงโครงการรถไฟทางคู่ 3 เส้นทาง และจะมีการเปิดประมูลโครงการขนาดใหญ่อีกไม่น้อยกว่า 1.7 แสนล้านบาทในปีหน้า สำหรับหุ้น Top Picks ในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างเป็น CK - แนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 40 บาท เนื่องจากมีมูลค่างานในมือแข็งแกร่ง ทำให้การรับรู้รายได้มีความมั่นคง พร้อมทั้งมีเงินลงทุนที่ดีด้วย นอกจากนั้นทาง DBSV ได้ปรับเพิ่มคำแนะนำการลงทุน STEC เป็นซื้อ (เดิมถือ) ราคาพื้นฐาน 31 บาท
+ BA (ราคาปิด 24.30 บาท)) : คาดกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน (Core profit) 3Q59 จะออกมาดีมากประมาณการไว้ที่ +30%YoY และ +76%QoQ โดยเป็นผลจากจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นราว 10%YoY และ 16%QoQ ต้นทุนน้ำมันที่ต่ำลง YoY และไม่มีรายการพิเศษด้านภาษีเหมือนใน 2Q59 ทั้งนี้ 3Q เป็นฤดูกาลท่องเที่ยวของสมุยทำให้ปริมาณผู้โดยสารขยายตัวสูงจากไตรมาสก่อนหน้า แนวโน้มไปได้ดี บริษัทมีการเปิดเส้นทางการบินเพิ่มขึ้น คาดการณ์กำไรปี 59-60 เติบโต 66% และ 29% ตามลำดับ แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 26.80 บาท
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]