- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 07 November 2016 16:07
- Hits: 1426
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Today’s Report : BIG, GPSC, MTLS
Our Portfolio Nov 2016 : BEM, EKH, KTC, PDG, ROBINS
หลัง SET พักตัวลงมาพอควรแล้ว คาดใกล้ลุ้นดีดขึ้นได้ในเร็วๆ นี้...
ตลาดหุ้นวานนี้ : แม้ SET ยังปรับตัวลงแกว่งด้านลบต่อเนื่องในช่วงครึ่งเช้าวันศุกร์ที่ผ่านมา ตามภาวะตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ ที่ยังกังวลเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 8 พ.ย.นี้ และนักลงทุนบางส่วนยังรอติดตามตัวเลขการจ้างงานฯ ของสหรัฐในช่วงค่ำ เพื่อใช้ประกอบคาดการณ์ว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมกลางเดือนหน้าหรือไม่ แต่ในภาคบ่าย SETเริ่มแกว่งทรงตัวได้ดีขึ้น แสดงถึงแรงซื้อที่ยังมีเข้ามาหนุนตลาดอยู่ต่อเนื่องแนวโน้มตลาดวันนี้ : ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เปิดมาเป็นบวกอีกครั้งถึงแม้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปในช่วงท้ายสัปดาห์ที่แล้วจะปิดลบ จากการที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายหลังมีความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งสหรัฐขณะที่ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ต.ค. ของสหรัฐแม้ว่าจะเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดกันไว้ แต่ก็อยู่ในระดับที่สร้างความกังวลเกี่ยวกับโอกาสในการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในกลางเดือน ธ.ค.ได้ อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นในเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่สามารถเปิดบวก หลังดาวโจนส์ฟิวเจอร์สพลิกกลับมาเคลื่อนไหวด้านบวกถึงเกือบ 200 จุดเช้านี้ จากข่าวที่ผู้อำนวยการ FBI ยืนยันต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐว่า นางฮิลลารี คลินตัน ไม่มีความผิดทางคดีอาญาจากกรณีการใช้อีเมล์ส่วนตัวในช่วงดำรงตำแหน่งฯ
กลยุทธ์ : หลังจากช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา SET ปรับตัวลงมาพอควรแล้ว ทำให้คาดว่าตลาดใกล้จะเข้าสู่รอบบวกในเร็วๆ นี้ตามคาด ดังนั้นซื้อแล้วยังเน้นถือต่อเนื่องไว้ก่อนดีกว่า
แนวรับ 1485-1483 , 1480-1478 จุด
แนวต้าน 1488-1492 , 1495-1497 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : SMT , SPCG , DTAC(short)
Fund Flow วันศุกร์กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$490ล้าน นำโดยเกาหลีใต้ US$188ล้าน ไต้หวัน US$173ล้าน ส่วนไทยมีเงินทุนไหลออกUS$41ล้าน ขณะที่ไหลเข้าเวียดนามประเทศเดียว US$1.5ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลกลับเข้าลงทุนในภูมิภาคเมื่อใกล้วันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐและตลาดคลายกังวลหลังฝั่งรีพับลิกันเริ่มมีคะแนนทิ้งห่างมากขึ้น
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
• (-) ศุกร์ที่ผ่านมาต่างชาติขายทั้ง 3 ตลาด ขายหุ้นต่อเป็นวันที่ 10 อีก 1,477 ล้านบาท และ short Index Futures เพิ่มขึ้นเป็น 3,359 สัญญา และขายพันธบัตรต่อเป็นวันที่2 อีก 1,403 ล้านบาท รวมทั้ง 3 ตลาดเป็นการขายสุทธิ 3,502 ล้านบาท แต่ค่าเงินบาทกลับค่อยๆแข็งค่าเพราะถูกดดันจากดอลลาร์ที่ร่วงจากความกังวลการเลือกตั้งปธน.
• (-) ปัจจัยภายนอกฉุด แม้การจ้างงานสหรัฐจะต่ำกว่าคาดแต่รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงดีขึ้นต่อเนื่องซึ่งเป็นข่าวลบกับตลาด แต่ถูกกลบด้วยข่าวดีที่ FBI ยืนยันว่า Hillary Clinton ไม่มีความผิดหลังจากตรวจสอบแล้ว เป็นข่าวดีต่อหุ้นทั่วโลกวันนี้ เราคาดว่าหาก Clintonชนะ สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกจะฟื้นแค่ชั่วคราวเพราะตลาดจะกังวลต่อการขึ้นดอกเบี้ยเฟดเดือนหน้าต่อ แต่ตลาดหุ้นเอเชียวันนี้ถูกกดดันจากการเมืองในฮ่องกงและเกาหลีใต้ หลังชาวเกาหลีใต้เดินขบวนเรียกร้องให้ปธน.ลาออกเพราะคดีอื้อฉาวที่ให้เพื่อนสนิทเข้ามาแทรกแซงงานบริหาร ส่วนชาวฮ่องกงประท้วงจีนยังกุมอำนาจเลือกตั้งผู้ว่าเกาะฮ่องกง
• (+) รฟม.เปิดรับซองประมูลรถไฟฟ้าสายสีชมพู-สายสีเหลืองวันนี้ หลังจากนี้จะใช้เวลาพิจารณา 3 เดือน คาดประกวดราคาเดือน ธ.ค. นี้ ทั้ง 2 โครงการมีผู้สนใจซื้อซอง 17ราย ITD, BEM, STEC, BTS, BTSC, CNT, RATCH, TRC, PLE, NWR, UNIQ และอีก 6รายต่างประเทศ
• (+) MTLS เราคาดกำไรสุทธิ 3Q16 +17% Q-Q, +60% Y-Y เป็น 350 ล้านบาท สูงสุดเป็นประว้ติการณ์อีกครั้งตามฤดูกาลของสินเชื่อที่ดีขึ้นในครึ่งปีหลัง แนวโน้มกำไร 4Q16จะยิ่งดีและเป็นไตรมาสที่ดีสุดของปี เพราะเป็นช่วงหยุดเทศกาลและการเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตร เรายังคงคาดกำไรปีนี้ +55.6% ปีหน้า +31% คงคำแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐานปีหน้า 28 บาท
• (0) ASK เราคาดกำไร 3Q16 ทรงตัว Q-Q, +3.7% Y-Y ไม่ตื่นเต้นอย่างที่คิด เพราะค่าใช้จ่ายตั้งสำรองหนี้สูญสูงกว่าที่เราคาดและสูงสุดเป็นประวัติการณ์ NPL มีแนวโน้มเพิ่มจาก 1.83% ใน 2Q16 เป็น 1.9-2% เพราะเกิดอุทกภัยในหลายจังหวัดในช่วงหน้าฝน เราปรับกำไรลงเป็น +5.8% ปีนี้และ +5.2% ปีหน้า ปรับไปใช้ราคาพื้นฐานปีหน้าที่ 25 บาทแต่ยังแนะนำซื้อเพราะคาด Dividend yield สูงถึง 6.7%
• (0) BIG กำไรต่ำกว่าคาด -32% Q-Q, +8% Y-Y เพราะยอด Rebate ที่ลดเหลือเพียง100 ล้านบาท จากยอดขายแบรนด์ Sony ที่ไม่ถึงเป้าเพราะสินค้ายังขาดแคลน ซึ่งเป็นเหตุการณ์ชั่วคราว แนวโน้มกำไร 4Q16 จะกลับมาฟื้นตัวแรงทั้งสินค้า Sony ที่กลับเข้าสู่ตลาดแล้วและ Fuji-XA3 เริ่มวางขายเมื่อ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา เราปรับกำไรสุทธิปีนี้ลง 11%แต่คงกำไรปี 2017 ตามเดิม ยังคงแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐานปีหน้า 5.55 บาท
• (-) ICHI แนวโน้มกำไร 3Q16 ยังไม่ดี เราคาด -40% Q-Q, -27% Y-Y เพราะตลาดชาเขียวซบเซาทำให้การใช้กำลังผลิตลดลง การปรับกลยุทธ์ผิดพลาดทำให้ Product mixเปลี่ยนไปในทางที่แย่ลง กำไร 4Q16 ยังน่าห่วงและส่วนแบ่งขาดทุนจากอินโดนีเซียน่าจะสูงขึ้น เรามีแนวโน้มปรับกำไรลงและราคาพื้นฐานปีหน้าลงเหลือ 10 บาทจากเดิม 14 บาทแนะนำขายเช่นเดิม
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
7 พ.ย. - อินโดนีเซีย: 3Q16 GDP
8 พ.ย. - ไทย: ALLA เข้าเทรด (ราคา IPO 2.88 บาท)
- สหรัฐ: การเลือกตั้งประธานาธิบดี
- จีน: ดุลการค้า (ต.ค.)
9 พ.ย. - ไทย: กนง.ประชุม (ตลาดคาดคงดอกเบี้ยที่ 1.5%)
10 พ.ย. - ฟิลิปปินส์: ธนาคารกลาง (BSP) ประชุม
11 พ.ย. - ไทย: COMAN เข้าเทรด (ราคา IPO 7.80 บาท)
- ฮ่องกง: 3Q16 GDP
- เกาหลีใต้: ธนาคารกลาง (BoK) ประชุม
- สหรัฐ: ตลาดหุ้นปิดทำการเนื่องในวัน Veterans Day
14 พ.ย. - จีน: Industrial Production, Retail sales, Fixed assets (ต.ค.)
- ญี่ปุ่น: 3Q16 GDP
15 พ.ย. - MSCI Semi-annual Index Review
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา DJIA และ S&P 500 ยังปิดลบต่อเนื่องเป็นวันที่ 7 และ 9 ตามลำดับ โดยนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในวันพรุ่งนี้
(-) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนวันศุกร์ยังปิดในแดนลบต่อเนื่องเช่นกันจากความกังวลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขณะที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯออกมาต่ำคาด
(+) อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดบวกได้ค่อนข้างดีหลัง FBIสรุปไม่ตั้งข้อหากรณีพบอีเมลชุดใหม่
(0) ค่าเงินบาทอ่อนค่าเล็กน้อยก่อนที่จะเริ่มทรงตัวได้ ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 34.90-35.05 บาท/ดอลลาร์
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ลดลง 0.59 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 44.07 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยยังได้รับแรงกดดันจากอุปทานที่ยังสูง รวมถึงสัญญาณความตึงเครียดระหว่างอิหร่านและซาอุดิอาระเบียที่ผ่อนคลายลง
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.20 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,304.50 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยนักลงทุนยังเข้าถือสินทรัพย์ปลอดภัยอยู่และจับตาดูการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในวันพรุ่งนี้
Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: fss_research