- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 04 November 2016 15:41
- Hits: 4498
บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) : Market Comment
ผันผวนก่อนการเลือกตั้งสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้า
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดลบจากความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา ทำให้ DOW JONES, NASDAQ, S&P500 ปิด -0.16%, -0.92%, -0.44%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ จากความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทำให้ DAX, FTSE, CAC40, FTMIB ปิด -0.43%, -0.80%, -0.07%, -0.33%
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 0.68 ดอลลาร์ ปิดที่ 44.46 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 0.51 ดอลลาร์ ปิดที่ 46.35 ดอลลาร์/บาร์เรล ปรับตัวลดลงติดต่อกัน 5 วันทำการ เนื่องจากขาดปัจจัยหนุนใหม่ ๆ
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นลงในกรอบแคบ ๆ สวนทางกับตลาดหุ้นในภูมิภาคที่ส่วนใหญ่อยู่ในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนกำลังรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค. ที่จะประกาศในวันศุกร์นี้ ตลอดจนผลสำรวจคะแนนนิยมของผู้สมัครประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในโค้งสุดท้าย ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งจริงในวันที่ 8 พ.ย. นี้ ซึ่งผลสำรวจในปัจจุบันสื่อในสหรัฐฯ หลาย ๆ สำนักยังคาดหมายว่านางฮิลลารีจะชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้ ซึ่งล่าสุดประธานาธิบดีบารัค โอบามาเตรียมลงพื้นที่หาเสียงสนับสนุนในรัฐที่ยังไม่มีความแน่นอนว่าประชาชนส่วนใหญ่จะเทคะแนนให้ฝั่งใด โดยการลงพื้นที่หาเสียงครั้งนี้มีเป้าหมายคือกลุ่มชนผิวสีที่เป็นฐานเสียงหลักของนายโอบามา ซึ่งประเด็นที่จะชูการหาเสียงในครั้งนี้จะอยู่ที่นางฮิลลารีที่จะเป็นตัวแทนและต่อสู้เพื่อประชาชนผิวสีในสหรัฐฯ
เพราะฉะนั้นเราเชื่อว่าการเลือกตั้งในครั้งนี้น่าจะสูสีคู่คี่ และคาดการณ์ได้ยากว่าใครจะเป็นผู้นำ ซึ่งตลาดหุ้นโลกน่าจะผันผวนในกรอบแคบ ๆ ไปจนกระทั่งทราบผลการเลือกตั้ง ยกเว้นผลสำรวจถ้ามีการชี้ชัดว่านายทรัมป์มีคะแนนนำนางฮิลลารีเกินกว่า 5 จุดขึ้นไป ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบในเชิงลบต่อตลาดหุ้นโลกในวงกว้างเนื่องจากสื่อต่างประเทศได้วิเคราะห์ว่า ถ้านายทรัมป์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็จะสร้างความปั่นป่วนต่อเศรษฐกิจ และการค้าระดับโลก จากนโยบายต่อต้านการค้าเสรีของเขา ในส่วนของตลาดหุ้นไทยมีแรงซื้อเก็งกำไรในหุ้นขนาดกลางและเล็กเป็นรายตัวในช่วงครึ่งเช้า เนื่องจากคาดหวังผลประกอบการของงบการเงินในไตรมาส 3/2559 ที่จะออกมาดี แต่อย่างไรก็ตามในช่วงท้ายตลาดมีแรงขายในหุ้นกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ กดให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงไปติดลบในช่วงท้ายตลาด
ทางด้านการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงเล็กน้อยจากความกังวลประเด็นการเมืองสหรัฐฯ และข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐฯ ตัวเลขการขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 7,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 265,000 ราย สูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. รวมถึงดัชนีภาคบริการของ ISM ที่ชะลอตัวลงสู่ระดับ 54.8 ในเดือนต.ค. ลดลงจากระดับ 57.1 ในเดือนก.ย. ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ที่ระดับ 56.0 ทั้งนี้เมื่อพิจารณาในส่วนของ VIX Index ที่เป็นเครื่องชี้วัดความผันผวนของตลาดหุ้น S&P500 โดยอ้างอิงจาก Options ที่ปรับตัวขึ้นมาสู่ระดับ 22.08 จุดแล้ว ถือว่าเป็นสัญญาณเตือนความผันผวนในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งเมื่อเทียบกับช่วงที่เกิด Brexit ที่ปรับตัวขึ้นไปที่ระดับสูงสุดที่ 26.72 จุด ซึ่งความผันผวนของในครั้งนั้นได้ส่งผลให้เฟดเลื่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาแล้ว เพราะฉะนั้นถ้านายทรัมป์เป็นฝ่ายชนะอาจมีผลให้เฟดอาจชะลอการปรับขึ้นออกไป เพื่อประเมินผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในระยะใกล้ ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่า น่าจะแกว่งตัวผันผวนต่อเนื่องจากวานนี้
กลยุทธ์การลงทุน
Trading : ต่ำกว่าแนวรับแถว ๆ 1,488 จุด แนะนำ ขายลดความเสี่ยง
Saravut Tachochavalit, Analyst
TEL : +66 (2) 862-9754 Ext. 9754
EMAIL : [email protected]