- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 03 November 2016 16:06
- Hits: 2278
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ “ต่างประเทศกดดัน”
ตลาดหุ้นไทยวานนี้กลับมามีแรงขายออกมาในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยคาดว่าเกิดจากความกังวลเกียวกับการเลือกตั้งสหรัฐฯที่ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันพลิกกลับมามีคะแนนนำหลังโพลล่าสุด รวมถึงการขายเพื่อรอดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐเกี่ยวกับประเด็นการปรับขึ้นดอกเบี้ย แม้ว่าจะมีปัจจัยบวกจากราคาถ่านหินที่ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นก็ตาม โดยแรงขายที่ออกมากระจายไปทุกกลุ่มนำโดยกลุ่มวัสดุก่อสร้าง (-1.5%) กลุ่มบันเทิง (-1%) อสังหาริมทรัพ์ (-0.6%) ส่วนกลุ่มที่ปรับตัวขึ้นได้คือ กลุ่มท่องเที่ยว (+0.6%) กลุ่มปิโตรเคมี (+0.4%) ปิดตลาดดัชนีตัวลดลง 5.87 จุด (-0.4%) ปิดที่ 1,498.65 จุด ด้วยปริมาณซื้อขาย 49,339.22 ล้านบาท
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(-) นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยวานนี้ไปอีก 847 ลบ. โดยขายติดต่อกันเป็นวันที่ 8 รวม 9.3 พันลบ.
(-) ตลาดหุ้น DJIA สหรัฐฯปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นวันที่ 6 ซึ่งล่าสุดหลุดระดับ 18000 จุด จากความกังวลเรื่องผลการเลือกตั้งปธน.สหรัฐ หลังโพลหลายสำนักออกมาบอกว่าคะแนนนิยม ทรัมป์ สูงกว่า ฮิลลารี่ คลินตัน
(-) รายงานตัวเลข Stock น้ำมันดิบสหรัฐประจำสัปดาห์ล่าสุด เพิ่มขึ้นสูงถึง 14.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งสูงกว่าคาดว่าจะบวกเพียง 1 ล้านบาร์เรล จึงกดดันให้ราคาน้ำมันดิบ WTI อ่อนตัวลง 2.9%Day มาปิดที่ 45.34 US/Barrel
(-) ตัวลขการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐเดือน ต.ค. เพิ่มขึ้น 1.47 แสนตำแหน่ง ต่ำกว่าที่ นวค. คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 1.65 แสนตำแหน่ง
(+) 4 พ.ย. เตรียมประชุมบอร์ดไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ คาดระดมทุนแสนลบ. ได้ภายในปีนี้
(+/-) สัญญาทองคำ COMEX พุ่งขึ้น 20.2 US (+1.57%Day) มาปิดที่ 1308.2 US/ออนซ์ จากความกังวลว่าทรัมป์จะชนะเลือกตั้งปธน. สหรัฐ
(+/-) ประชุม FED ล่าสดุในเดือน พ.ย. ยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.25-0.5% หากแต่มีมมุมมองว่าตัวเลขการจ้างงานแข็งแกร่ง และตัวเลขเศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้น สร้างการคาดหมายว่าน่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในอนาคต
(+/-) ราคาถ่านหิน(Newcastle) ยังแข็งแกร่ง แม้วานนี้จะอ่อนตัวลงมาปิดที่ 112.35 US/Tons (-2%จากวันก่อนหน้า) แต่ +17%WoW,+122%YTD
(+/-) ประกาศผลประกอบการล่าสุด ได้แก่ MACO (-52%YoY), VGI (-24%YoY), IRPC (+47%YoY), SPVI (+46%YoY), TNP (+81%YoY), Q-CON 3Q59 พลิกเป็นขาดทุน 32 ลบ.
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
การทยอยประกาศงบ 3Q59 ของบริษัทจดทะเบียน
จับตาการเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 8 พ.ย. 59
การประชุม OPEC ในช่วง 30 พ.ย. ณ.กรุงเวียนนา ออสเตรีย
ตัวเลขสำคัญสัปดาห์นี้ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร เดือน ต.ค. และอัตราการว่างงานของสหรัฐ (4 พ.ย.), อัตราการว่างงานยูโรโซน เดือน ก.ย. (3 พ.ย.), IPM นอกภาคการผลิตสหรัฐ (3 พ.ย.)
กลยุทธ์การลงทุน “ลดพอร์ตถือเงินสดมากขึ้น”
ประเมินดัชนีวันนี้จะซึมตัวลง จากความกังวลในผลโพลของการเลือกตั้งสหรัฐ และความกังวลต่อคาดการณ์ว่า FED เตรียมเพิ่มดอกเบี้ยรอบเดือน ธ.ค. ยังคงแนะนำขายลดพอร์ตต่อเนื่องจากวานนี้ โดยคาดว่าปัจจัยภายในประเทศยังจำกัด แนะนำเก็งกำไรสั้น ในกลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวเด่น เช่นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
AAV เก็งกำไร
ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงสร้าง Sentiment บวกต่อกลุ่มสายการบิน
รายงานจำนวนผู้โดยสารช่วง 3Q59 ที่ 4.3 ล้านคน เพิ่มขึ้น 4% QoQ และ 21%YoY, Load Factor อยู่ที่ 84% เพิ่มขึ้นจาก 81% ในปี58
ตลาดคาดผลประกอบการเติบโตเด่นต่อเนื่องใน 2H59 จากจำนวนผุ้โดยสารที่เพิ่มมากขึ้นจากปีก่อนและต้นทุนน้ำมันในระดับต่ำ
ICHI เก็งกำไร
คาดกำไรเติบโต YoY ในช่วง 2H59 อานิสงค์จากการปรับราคาสินค้าเย็นขนาด 10 บาท ช่วยหนุนอัตรากำไรขั้นต้น
เตรียมออกสินค้าใหม่ๆ เพิ่มความหลากหลายของสินค้า เช่น เย็นเย็นโกลด์ สินค้าแบรนด์ไบเล่ ชาเขียวผสมวุ้นมะพร่าว ชิว ชิว
ราคาเป้าหมายปี 59 ที่ 13.50 บาท/หุ้น อิง PER 25 เท่า
ทีมวิเคราะห์