- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 02 November 2016 16:02
- Hits: 1368
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
โอกาสชนะของ Trump ป่วนตลาด
คาดหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบแนวโน้มเป็นบวก จากหุ้นสหรัฐที่ร่วงแรงเมื่อวานและตลาดในภูมิภาคที่เปิดในแดนลบจากการที่คะแนนสำรวจความเห็นการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเริ่มเห็น Trump ไล่จี้ติด Clinton ทาให้ราคาสินทรัพย์เสี่ยงทั้งหลายปรับตัวลงการสำรวจความเห็นอย่างน้อย 2 เจ้าใหญ่ให้ Trump นำเป็นครั้งแรกด้วยซ้ำ โอกาสขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐยิ่งสูงขึ้นเมื่อดัชนี PMI ของทั้ง Markit และ ISM บ่งชี้ว่าภาคอุตสาหกรรมสหรัฐขยายตัวแข็งแกร่งในเดือน ต.ค. ปัจจัยภายในประเทศวันนี้เป็นบวกถ้วนหน้า ครม.อนุมัติมาตรการพยุงราคาข้าวแต่เพิ่มเพดานราคารับซื้อขึ้นเป็น 13,000 บาทต่อตัน ดัชนีราคาผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกันในเดือน ต.ค. บ่งชี้ว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคและเศรษฐกิจโดยรวมฟื้นตัวดีขึ้น ครม.ยืดอายุอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ออกไปอีก 1 ปี
หุ้นเด่นวันนี้ : KCE (112.50 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมาย 128.00 บาท)
บมจ.เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ เป็นผู้ผลิตแผ่นพิมพ์วงจรอิเล็กทรอนิกส์ (PCB) ชั้นนาของโลกซึ่งมีจุดแข็งด้านยานยนต์ จึงน่าจะได้รับประโยชน์อย่างมากจากอุปสงค์ต่อผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ชั้นสูงในอุตสาหกรรมยานยนต์ จากการมาของเทคโนโลยีรถยนต์ไฮบริด รถยนต์ไฟฟ้าและรถขับเคลื่อนอัตโนมัติ ในตลาดอิเล็กทรอนิกส์สำหรับรถยนต์นี้มีกำแพงกั้นคู่แข่งในระดับสูงโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์มีความต่างชั้น ต้องใช้เทคโนโลยีระดับสูงและเฉพาะตัวในการผลิตและผ่านการทดสอบเป็นเวลาหลายปี ซึ่งยากที่ผู้เล่นรายใหม่จะเจาะเข้ามาได้ KCE ใช้เวลาหลายปีจนลูกค้ายอมรับ ทำให้ KCE ได้อัตรากำไรระดับสูง ฐานะอันโดดเด่นในตลาด PCB โลกและประสิทธิภาพที่เพิ่มมากขึ้นรวมถึงกำลังการผลิตที่มากขึ้น จากโรงงานใหม่น่าจะช่วยหนุนรายได้ของบริษัท ลดต้นทุนและอัตราของเสีย บริษัทยังลงทุน 250 ลบ. เพื่อเปลี่ยนเครื่องจักรสำหรับโรงงาน เคซีอีเทคโนโลยีในอยุธยา อัตราภาษีของ KCE ยังอยู่ต่ำกว่า 20% มากเพราะได้สิทธิพิเศษจากบีโอไอ
การเปลี่ยนข้อตกลงด้านการส่งมอบสินค้าสำหรับสองลูกค้าหลักจากขนส่งทางอากาศเป็นทางเรือกระทบการรับรู้รายได้ของ KCE ให้ช้าลงในระยะสั้น แต่จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายทั้งสำหรับลูกค้าและ KCE เองในระยะยาว การอ่อนค่าของเงินบาทเทียบดอลลาร์ก็จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยบวกแก่บริษัทเพราะธนาคารกลางสหรัฐน่าจะขึ้นดอกเบี้ยในช่วงสิ้นปีนี้ เราคาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตแข็งแกร่งที่ 34% ปี 59 และ 19% ในปี 60 ตามลำดับ Price Pattern ของ KCE มีความแข็งแกร่งอย่างมากในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิดทั้ง Daily, Weekly, & Monthly Buy Signal คาดว่าจะได้เห็นการทำ New All Time High ได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายถัดไปของการทำ New High อยู่ที่ 123.50 บาท จุด Stop Loss ระยะสั้นรอบนี้อยู่ที่ 108.50 บาท (แนวต้าน: 113.50, 114.50, 115.50; แนวรับ: 112.00, 111.00, 110.00)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
ดัชนีราคาผู้บริโภคปรับขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบเจ็ดเดือน ก.พาณิชย์รายงานว่าดัชนีราคาผู้บริโภค ต.ค. อิงสินค้าและบริการ 450 รายการ ปรับเพิ่มขึ้น 0.34% เทียบปีก่อนและ 0.16% เทียบเดือนก่อน หนุนโดยราคาปลีกเชื้อเพลิงสูงขึ้นและเทศกาลกินเจทำให้อุปสงค์ต่อผักสดเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันเงินเฟ้อพื้นฐานก็เพิ่มขึ้น 0.74% เทียบปีก่อนและ 0.04% เทียบเดือนก่อน (Bangkok Post)
ความเห็น : การเพิ่มขึ้นอย่างคงที่ของเงินเฟ้อผู้บริโภคสะท้อนว่าผู้บริโภคมีความมั่นใจมากขึ้นเกี่ยวกับการฟื้นตัวเศรษฐกิจ
ครม.ไฟเขียวรางคู่ มูลค่า 5.5 หมื่น ลบ. ระยะทาง 403 กม. ประกอบด้วยเส้นนครปฐม-หัวหินระยะ 165 กม. มูลค่า 2.05 หมื่น ลบ. เส้นหัวหินประจวบระยะ 90 กม. มูลค่า 1.02 หมื่น ลบ. เส้นลพบุรี-ปากน้ำโพ (นครสวรรค์) ระยะ 148 กม. มูลค่า 2.47 หมื่น ลบ. (Bangkok Post)
ครม. อนุมัตินโยบายราคาข้าวด้วยการอุดหนุนที่มากขึ้น คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวที่จะช่วยเหลือเกษตรและรักษาเสถียรภาพราคาข้าว โดยก่อนหน้าที่จะยื่นเสนอให้ที่ประชุมครม. ได้มีการปรับเพิ่มเงินสนับสนุนราคาขายข้าวของเกษตรกรเป็น 13,000 บาทต่อตัน จากเดิมที่ 11,525 บาทต่อตันสำหรับผู้ที่จะกักเก็บข้าวเพื่อชะลอการขายออกไปอีก 3-6 เดือนซึ่งเป็นช่วงฤดูเก็บเกี่ยว (The Nation)
คง VAT 7% ไปอีกหนึ่งปี ซึ่งจะมีผลย้อนหลังนับตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา ผ่านการประกาศของราชกิจจานุเบกษา ภายใต้การบังคับใช้โดยมาตรา 44 หลังจากเห็นว่าเศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอน (Bangkok Post)
ครม.ไฟเขียวกิจกรรมบันเทิง-ทีวีออนแอร์ตามผังปกติ เริ่มตั้งแต่ 14 พ.ย.59 (ไทยรัฐออนไลน์)
ความเห็น : คาดว่ากิจกรรมส่งเสริมการขายและการตลาด จะเริ่มเข้าสู่ปกติในช่วงครึ่งหลังไตรมาส 4/59 สะท้อน Sentiment ที่ดีขึ้นให้แก่กลุ่มสื่อ กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค และอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งทำให้ช่วงสิ้นปียอดใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคของไทยจะฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศสำคัญ ๆ ในโลกที่เริ่มฟื้น ทั้ง สหรัฐฯ จีน และญี่ปุ่นที่แย่น้อยลงกว่าที่ตลาดคาดไว้ ยังคงเหลือยุโรปที่อ่อนแอจากผลกระทบเงินไหลออกกรณี Brexit มาอย่างต่อเนื่อง แนะนำเป็นโอกาสทยอยเข้าซื้อ กลุ่ม Domestic Play
ต่างประเทศ
ราคาพันธบัตรสหรัฐปิดเพิ่มขึ้นเมื่อวันอังคาร หลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. และมีความต้องการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้นเนื่องจากความไม่แน่นอนต่อผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่จะจัดขึ้นในสัปดาห์กดดันนักลงทุน ราคาพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ปิดเพิ่มขึ้น 4/32 อยู่ที่ระดับ 1.83% (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์เทียบกับเงินยูโรเมื่อวันอังคาร จากความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐ ส่วนค่าเงินเปโซแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 สัปดาห์จากความกังวลว่านายโดนัลด์ ทรัมป์อาจชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวลง 0.8% สู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ที่ 97.640 ดัชนีดังกล่าวได้ปรับตัวขึ้น 3.1% ในเดือนต.ค. สูงสุดในรอบปี (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงเมื่อวันอังคาร ท่ามกลางความกังวลที่มากขึ้นเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐและแนวโน้มที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย การแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีระหว่างนางฮิลลารี คลินตันจากพรรคเดโมแครตและนายโดนัลด์ ทรัมป์จากพรรครีพับลิกันดูเหมือนจะทวีความรุนแรงขึ้นหลังจากที่มีข่าวว่า FBl กำลังตรวจสอบอีเมล์เพิ่มขึ้นในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของการสอบสวนการใช้เซิร์ฟเวอร์อีเมล์ส่วนตัวของนางฮิลลารี คลินตัน (Reuters)
ทรัมป์มีคะแนนนำเหนือฮิลลารีเป็นครั้งแรกนับแต่เดือนพ.ค. ในโพลสำรวจอย่างน้อย 2 ราย ผลสำรวจของ ABC News ระบุว่าทรัมป์มีคะแนนนำฮิลลารี 1 จุด และผลสำรวจของ Los Angeles Times ระบุว่าทรัมป์มีคะแนนนำกว่า 2 จุด (Reuters)
ดัชนี PMI ภาคการผลิตสหรัฐของมาร์กิตแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีในเดือนต.ค. ดัชนี PMl ภาคการผลิตสหรัฐของมาร์กิตอยู่ที่ระดับ 53.4 ในเดือนต.ค. ดีขึ้นเล็กน้อยกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ 53.2 โดยเพิ่มขึ้นจากที่ระดับ 51.5 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นตัวเลขดีที่สุดในรอบ 1 ปี ภาวะการทำงานดีขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดช่วง 7 ปีที่ผ่านมา โดยดัชนี PMl ในเดือนต.ค. ถูกบันทึกเป็นตัวเลขสูงสุดในรอบ 12 เดือน (lHS Markit)
ISM : ภาคการผลิตสหรัฐขยายตัวในเดือนต.ค. ดัชนีภาคการผลิตสหรัฐจัดทำโดย lSM อยู่ที่ 51.9 ในเดือนต.ค. เพิ่มขึ้นจากเดือนก.ย. ที่ 51.5 และสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 51.7 ผลสำรวจแสดงให้เห็นว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาคการผลิตสหรัฐมีการขยายตัวในเดือนต.ค. และเศรษฐกิจโดยรวมขยายตัวติดต่อกัน 89 เดือน (lSM)
การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างในสหรัฐฯ ร่วงลงผิดคาดในเดือนก.ย. โดยลดลง 0.4% เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากลดลง 0.5% ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นตัวเลขที่ปรับปรุงใหม่ดีขึ้นจากเดิมที่หดตัวลง 0.7% เมื่อเทียบรายปีพบว่าลดลง 0.2% นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างจะเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนก.ย. (Reuters)
ยุโรป :
ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันจันทร์ปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 7 ติดต่อกัน นำโดยการปรับตัวลดลงของหุ้นกลุ่มการเงินท่ามกลางความกังวลในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สัปดาห์หน้า นอกจากนี้ตลาดโดยรวมยังได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลง รวมไปถึงสถานการณ์ความไม่แน่นอนในการออกเสียงประชามติในรัฐธรรมนูญของอิตาลีในวันที่ 4 ธ.ค. (Reuters)
อิตาลีจะมีการออกเสียงประชามติในการปฏิรูปรัฐธรรมนูญในวันที่ 4 ธ.ค. นี้ ซึ่งถูกผลักดันโดยนายกรัฐมนตรี Matteo Renzi ที่ได้กล่าวไว้ว่าจะลงจากตำแหน่งหากตนพ่ายแพ้ (Reuters)
เอเชีย :
BOJ เลื่อนการขยายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเมื่อวานนี้ แม้ว่าจะชะลอช่วงเวลาที่จะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% ออกไป ธนาคารกลางส่งสัญญาณว่าไม่ทำให้นโยบายเปลี่ยนแปลง เว้นแต่ตลาดเกิดการช็อครุนแรงต่อการฟื้นตัวที่เปราะบาง BOJ คงอัตราดอกเบี้ยที่ลบ 0.1% สำหรับเงินสำรองส่วนเกินที่สถาบันการเงินฝากไว้กับธนาคารกลาง นอกจากนี้ยังไม่เปลี่ยนแปลง อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีที่ศูนย์เปอร์เซ็นต์ด้วย (Reuters)
มาเลเซียได้ให้คำมั่นสัญญากับจีนในการจัดการข้อพิพาททะเลจีนใต้ทั้งสองฝั่ง และตกลงที่จะซื้อเรือรบสี่ลำของจีน ซึ่งได้รับการเปิดเผยอย่างเป็นทางการของจีนในวันอังคารที่ผ่านมา ถือเป็นกรณีล่าสุดของการท้าทายอำนาจของจีนต่อสหรัฐอเมริกาในภูมิภาค (Reuters)
เหล็กของจีน ถ่านโค้กและฟิวเจอร์สของถ่านหิน Coking ปรับตัวสูงขึ้นในวันอังคารที่ผ่านมา หลังจากที่ภาคการผลิตขยายตัวในเดือน ต.ค. ในอัตราเร็วที่สุดในรอบกว่าสองปี ขณะที่ราคาวัตถุดิบเหล็กยังคงแข็งแกร่งท่ามกลางอุปทานที่ตึงตัว ฟิวเจอร์เหล็กเส้นที่แอ็คทีฟที่สุดในตลาดเซี่ยงไฮ้ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.6% มาอยู่ที่ 2,622 หยวนต่อตัน ฟิวเจอร์สินแร่เหล็กใน Dalian Commodity Exchange ปรับขึ้น 1% ไปที่ 499.5 หยวนต่อตัน ฟิวเจอร์สโค้กปรับขึ้น 1.2% มาอยู่ที่ 1,780 หยวนต่อตัน และถ่านหิน coking ขยับขึ้น 0.4% มาอยู่ที่ 1,294 หยวนต่อตัน เป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 50% ตั้งแต่ปลายเดือน ส.ค.(Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
น้ำมันร่วงวันอังคาร หลังแตะจุดต่ำสุดรอบ 1 เดือน ก่อนที่จะมีตัวเลขสต็อกน้ำมันออกมา ซึ่งน่าจะออกมาเพิ่มขึ้น รวมทั้งข้อกังขาว่า OPEC จะลดกำลังการผลิตน้ำมันได้หรือไม่ น้ำมัน Brent ลง 47 เซนต์ (-1.0%) ปิดที่ 48.14 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลงไปต่ำสุดที่ 47.72 ดอลลาร์ ต่ำสุดตั้งแต่ 28 ก.ย. น้ำมันดิบสหรัฐล่วงหน้าลบ 19 เซนต์ (-0.4%) ปิดที่ 46.67 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หลังร่วงไปแตะ 46.20 ดอลลาร์ (Reuters)
ทองคำแตะจุดสูงสุดรอบ 1 เดือนในวันอังคาร เพราะมีความกังวลเกี่ยวกับอนาคตการเลือกตั้งสหรัฐที่ทำให้หุ้นและดอลลาร์ร่วง นักลงทุนจึงย้ายมาสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองเพื่อเลี่ยงความเสี่ยง ราคาทองคำตลาดจรขึ้นไปสูงสุดที่ 1,289.53 ดอลลาร์ก่อนจะปิดลบ 0.8% ไปอยู่ที่ 1,287.40 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ราคาทองคำสหรัฐล่วงหน้าส่งมอบ ธ.ค. บวก 15.30 ดอลลาร์ ไปอยู่ที่ 1,288.40 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) TeI: 02 680 5041
Mr. Krit SuwanpibuI (No.17968) TeI: 02 680 5090
Mrs. VajiraIux SangIerdsiIIapachai (No. 17385) TeI: 02 680 5077
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) TeI: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) TeI: 02 680 5094