- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 01 November 2016 15:58
- Hits: 3411
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ 'ซึมๆ'
ตลาดหุ้นไทยวานนี้แกว่งตัวในกรอบแคบๆตลอดทั้งวัน ท่ามกลางปัจจัยที่มีทั้งบวกทั้งลบ กลุ่มที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้แก่กลุ่มเหล็ก (+1.5%) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่เป็นวันที่มีการยื่นเอกสารประกวดราคาในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (+1.2%) ส่วนกลุ่มที่กดดันตลาดได้แก่ กลุ่มท่องเที่ยว (-0.7%) ปิดตลาดดัชนีเพิ่มขึ้น 1.28 จุด (+0.1%) ปิดที่ 1,495.72 จุด ด้วยปริมาณซื้อขาย 40,894 ล้านบาท
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(-) วานนี้นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิในหุ้นไทยออกไปอีก 2.5 พันลบ. ทำให้ตลอดเดือน ต.ค. 59 ขายสุทธิไปแล้ว 1.8 หมื่นลบ.
(-) ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงอีก 3.8%Day มาปิดที่ 46.86 US/Barrel หลังการประชุม OPEC+Non OPEC เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมายังไม่มีบทสรุป ทำให้ต้องรอการประชุมที่จะเกิดขึ้นในช่วง 30 พ.ย. นี้แทน
(-) จับตาการประชุม FED ในวันที่ 1-2 พ.ย. เรื่องทิศทางการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯ ซึ่งคาดการณ์จาก Bloomberg ระบุ 71.4% มีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. 59 และ 16.1% มีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยเดือน พ.ย.
(-) USD แข็งค่า +Bond yield 10 ปี สหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้นมาอยู่ที่ 1.83% (+ 2.2% Day) สะท้อนการคาดว่า FED อาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ย
(-) ข่าวที FBI จะรื้อคดี Email ของนางฮิลลารี่กลับมาอีกครั้ง ทำให้คะแนนนิยมของนางฮิลลารี่ เหลือนำนายทรัมป์ เพียงเล็กน้อย 46%:45% (ผลสำรวจ ABC/Washington Post)
(+) PMI ภาคการผลิตจีน เดือน ต.ค. อยู่ที่ 51.2 (ตลาดคาดไว้ที่ 50.4)
(+) ราคาถ่านหิน(Newcastle) แข็งแกร่งมาก ล่าสุดปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 4.7% จากวันก่อนหน้ามาปิดที่ 108.6 US/Tons สูงสุดในรอบ 4 ปี (สร้าง Sentimemt บวกต่อ BANPU, LANNA)
(+) GDP 3Q59 ของยูโรโซน +0.3%QoQ และ +1.6%YoY ดีกว่าคาด
(+) การใช้จ่ายผู้บริโภคสหรัฐ เดือน ก.ย. +0.5% ถือว่าดีกว่าเดือนก่อนหน้าที่ -0.1% และถือเป็นการปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 3 เดือน
(+) คาดวันนี้จะมีการนำโครงการลงทุนรถไฟรางคู่ เฟส 2 มูลค่า 5.51 หมื่นลบ. เข้าที่ประชุมครม. และสัปดาห์หน้านำโครงการขนาดใหญ่ 2 แสนลบ. เข้าที่ประชุม ครม.อีกครั้ง (บวกต่อกลุ่มรับเหมาใหญ่ CK, STEC, ITD)
(+/-) ประกาศผลประกอบการ บมจ. ที่ออกมาล่าสุด ได้แก่ ZMICO กำไร 3Q59 โต 199%YoY, ASP กำไร+169%YoY และDCC กำไร +15%YoY
(+/-) กลต.แจ้งให้ JTS ชี้แจงเรื่องการประกาศจ่ายเงินปันผลในช่วง Tender
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
การทยอยประกาศงบ 3Q59 ของบริษัทจดทะเบียน
จับตาการเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 8 พ.ย. 59
การประชุม OPEC ในช่วง 30 พ.ย. ณ.กรุงเวียนนา ออสเตรีย
การประชุม FED รอบต่อไปในช่วง 1-2 พ.ย. (ทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐ)
ตัวเลขสำคัญสัปดาห์นี้ BOJ จะตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ยญี่ปุ่น (1 พ.ย. ตลาดคาดคงไว้ที่ -0.1%), ตัวเลข PMI ภาคการผลิตสหรัฐ, การ จ้างงาน ต.ค. ของสหรัฐ (1-3 พ.ย.), ประชุม ECB (2 พ.ย.)
กลยุทธ์การลงทุน' เน้น Selective Buy'
ประเมินดัชนีวันนี้จะซึมตัวลง จากความกังวลในตลาดที่เพิ่มมากขึ้น โดยตลาดให้น้ำหนักไปที่การเลือกตั้งสหรัฐในอาทิตย์หน้า เราคาดว่าระยะสั้นหุ้นจะแกว่งตัวในกรอบแคบรอปัจจัยใหม่ๆ คงแนะนำเก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยเด่นเฉพาะ เช่น กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากราคาถ่านหินที่ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และกลุ่มที่คาดว่าจะรายงานผลประกอบการโดดเด่น เช่น กลุ่มสายการบิน และ โรงพยาบาล สำหรับการลงทุนระยะยาว แนะนำทยอยสะสมกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
BANPU เก็งกำไร
ราคาถ่านหิน BJI อยู่ที่ระดับ 108.60 $/ton ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากแรงคาดการณ์การตึงตัวของตลาดถ่านหินจีน
คาดได้ประโยชน์จากราคาถ่านหินที่ปรับเพิ่มขึ้นในผลประกอบการปี 60
ผู้บริหารคาดปริมาณการขายถ่านหินในปี 60 จะใกล้เคียงกับปี 59
เตรียมสรุปการลงทุนใน Shale Oil& gas ในสหรัฐในช่วง 1H60
AAV เก็งกำไร
รายงานจำนวนผู้โดยสารช่วง 3Q59 ที่ 4.3 ล้านคน เพิ่มขึ้น 4% QoQ และ 21%YoY, Load Factor อยู่ที่ 84% เพิ่มขึ้นจาก 81% ในปี58
ราคาหุ้น Laggard กลุ่มสายการบิน NOK +27% THAI +36% ขณะที่ AAV +16% จากจุดต่ำสุดในเดือน ตุลาคม
ได้โมเมนตัมบวกจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลง
ทีมวิเคราะห์