WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

RHB OSK บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) : Market Comment

 

ขาดปัจจัยหนุนใหม่ ๆ
  ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบ จากความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทำให้ DOW JONES, NASDAQ, S&P500 ปิด -0.10%, -0.02%, -0.01%
   ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ จากการร่วงลงของราคาน้ำมันดิบ ทำให้มีแรงขายหุ้นในกลุ่มพลังงานออกมา ทำให้ DAX, FTSE, CAC40, FTMIB ปิด -0.29%, -0.60%, -0.86%, -1.15%
   สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.84 ดอลลาร์ ปิดที่ 46.86 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.41 ดอลลาร์ ปิดที่ 48.30 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังยังตกลงกันไม่ได้ในเรื่องการคงหรือจำกัดเพดานการผลิตน้ำมัน

   ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นลงในกรอบแคบ ๆ คล้ายกับทิศทางตลาดหุ้นในภูมิภาค ซึ่งมีทั้งบวกและลบ ซึ่งเราคาดว่าตลาดหุ้นส่วนใหญ่น่าจะปรับตัวในลักษณะเช่นนี้ไปจนถึงกลางสัปดาห์ เพื่อรอดูผลประชุมเฟดในช่วงกลางสัปดาห์ และความเห็นในทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปีหน้า รวมถึงแนวโน้มดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ว่าจะมีแนวโน้มปรับขึ้น 1 ครั้งในปีนี้หรือไม่ โดยการประชุมเฟดในสัปดาห์นี้เราคาดว่าเฟดน่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม อ้างอิงจาก CME Group Fedwatch ที่ระบุว่า มีโอกาสเพียง 6% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 1-2 พ.ย. นี้ แต่สำหรับการประชุมเดือนธ.ค. แนวโน้มมีโอกาสปรับขึ้น โดยนักลงทุนคาดว่ามีโอกาส 73% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนธ.ค. ซึ่งสอดคล้องกับ Fed fund futures เดือนธ.ค. ที่ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 69.2% นอกจากนี้ความไม่แน่นอนของการเมืองสหรัฐฯ เริ่มกลับมารบกวนตลาดอีกครั้ง หลัง FBI สหรัฐฯ อาจรื้อฟื้นคดีการใช้เซิร์ฟเวอร์อีเมล์ส่วนตัวของนางฮิลลารีขึ้นมาใหม่ ซึ่งผลสำรวจที่จัดทำโดยสำนักข่าวเอบีซี/วอชิงตันโพสต์ระบุว่า คะแนนนิยมของนางฮิลลารีอยู่ที่ 46% ขณะที่คะแนนนิยมนายทรัมป์อยู่ที่ 45%

      แต่การออกมาให้ข่าวของเอฟบีไอ ส่งผลให้หลายกลุ่มที่จะลงคะแนนให้ฮิลลารี ทางด้านซิตี้กรุ๊ปออกรายงานว่า การรื้อคดีการใช้เซิร์ฟเวอร์อีเมล์ส่วนตัวของนางฮิลลารีนั้น อาจส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 8 พ.ย. ทำให้ตลาดปรับลดคาดการณ์ชัยชนะของนางฮิลลารีเหลือเพียง 75% จาก 81%

      นอกจากนี้การที่กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันยังไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องการคงหรือจำกัดการผลิตน้ำมันที่ระดับ 32.5-33 ล้านบาร์เรล/วันในการประชุมสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้มีแรงขายน้ำมันดิบออกมาในการซื้อขายเมื่อคืนนี้ กดดันให้มีแรงขายหุ้นในกลุ่มพลังงานในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ออกมาเช่นเดียวกัน ทางด้านเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3/2559 ธปท. คาดว่าน่าจะใกล้เคียงกับไตรมาส 2 หรืออาจจะแผ่วลงเล็กน้อย จากการขยายตัวของภาครัฐ การบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวได้ต่อเนื่องตามความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ดีขึ้นจากไตรมาสก่อน และรายได้ภาคเกษตรที่ปรับตัวดีขึ้นหลังภัยแล้งเริ่มคลี่คลาย รวมทั้งภาคการส่งออกที่ดีขึ้น โดยภาวะเศรษฐกิจในเดือนก.ย. ปรับตัวดีขึ้น จากการส่งออกที่ดีขึ้นสามารถขยายตัวเป็นบวกได้ใน 2 เดือนที่ผ่านมา

        ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4/2559 ธปท. คาดว่ายังมีทิศทางที่ดีและขยายตัวต่อไปได้ แม้ว่าบางกิจกรรมทางเศรษฐกิจจะแผ่วลงไปบ้าง โดยมีสัญญาณบวกจากการส่งออกที่ดีขึ้น แต่มีสัญญาณลบจากการท่องเที่ยว และสัญญาณการบริโภคภาคเอกชน หรือการใช้จ่ายภายในประเทศที่อาจจะแผ่วลงบ้าง ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่า น่าจะแกว่งในกรอบแคบ ๆ แต่อาจมีแรงขายในกลุ่มพลังงาน

กลยุทธ์การลงทุน
  Trading : ไม่ต่ำกว่าแนวรับแถว ๆ 1,480 จุด แนะนำ ซื้อเก็งกำไรได้

Saravut Tachochavalit, Analyst
TEL : +66 (2) 862-9754 Ext. 9754
EMAIL : [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!