- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 01 November 2016 15:50
- Hits: 3267
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: ทดสอบแนวต้านสำคัญ 1505-1510
SET Index: 1504.02 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวต้านสำคัญของกรอบแนวโน้มขาลงที่ 1500 จุดขึ้นได้แล้ว พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น แต่แนวโน้มในระยะสั้นของ SET Index ยังมีความเสี่ยงในการถูกขายต่อเนื่องที่บริเวณแนวต้าน 1505-1510 จุด เนื่องจากเป็นแนวต้านของกรอบแนวโน้มขาขึ้น โดยมีแนวรับสำคัญที่ 1495 จุด ถ้าหลุดจะมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1480 จุด เราจึงยังคงแนะนำให้เน้นการขายหุ้นต่อเนื่อง
แนวต้าน : 1505 และ 1510
แนวรับ : 1500 และ 1495**
IVL = 30.00 / 31.00, BCPG = 14.20 / 14.50, KBANK = 172 / 174, TOP = 72.00 / 73.00, BEM = 7.50 / 7.60
Yuasa Battery (Thailand) (YUASA TB; THB 19.20) – ซื้อ
แนวต้าน : 20.00 และ 21.50 / แนวต้านสำคัญ 23.20
แนวรับ : 19.20 และ 19.00
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้น ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 60
แนะนำซื้อ YUASA โดยมีแนวรับที่ 19.20 และ 19.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 20.00 และ 21.50 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 18.60 ลงไป
Nava Nakorn (NNCL TB; THB 1.30) – ซื้อ
แนวต้าน : 1.40 และ 1.47 / แนวต้านสำคัญ 1.54
แนวรับ : 1.30 และ 1.28
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐานเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสฟื้นตัวต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50
แนะนำซื้อ NNCL โดยมีแนวรับที่ 1.30 และ 1.28 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1.40 และ 1.47 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 1.25 ลงไป
SET50 Index Futures
S50Z16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญในระยะสั้นที่ 940 หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างจากแรงขายทำกำไรที่บริเวณแนวต้านของกรอบแนวโน้มขาลง ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 910 และมีแนวต้านสำคัญที่ 944 ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะมีแนวต้านถัดไปที่ 955-960
แนวต้าน : 940 และ 942
แนวรับ : 936 และ 934
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Short ใน S50Z16 ที่แนวต้าน 936 และ 940 เอาไว้ เพื่อคาดหวังการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 930
STOP LOSS สถานะ Short ถ้า S50Z16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 944 ขึ้นไป
TRUEZ16X
ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคหลังจากเคลื่อนไหวในกรอบแคบหลังจากปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้นที่บริเวณแนวต้าน 7.00 แต่เครื่องมือทางเทคนิคให้สัญญาณในเชิงบวก จึงทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสฟื้นตัวต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านที่ 7.00 และ 7.30 โดยมีแนวรับสำคัญที่ 6.58
แนวต้าน : 7.00 และ 7.20
แนวรับ : 6.80 และ 6.70
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ใน TRUEZ16X โดยมีแนวรับที่ 6.80 และมีแนวต้านที่ 7.00 และ 7.20 เป็นจังหวะขายทำกำไร
STOP LOSS สถานะ Long ใน TRUEZ16X ถ้าปรับตัวลดลงหลุด 6.58 ลงไป
AAVZ16
ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวต้านของกรอบแนวโน้มขาลงที่ 7.10 ขึ้นไปได้ ซึ่งเราแนะนำให้ Open Short เอาไว้ เนื่องจากการฟื้นตัวน่าจะมีโอกาสปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 6.50 และ 6.30 แต่การปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 7.10 ขึ้นมาได้ ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบ 7.30 และ 7.50
แนวต้าน : 7.20 และ 7.30
แนวรับ : 7.10 และ 7.00
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ STOP LOSS สถานะ Short ใน AAVZ16 ออกไปก่อน หลังจากทะลุผ่านแนวต้านสำคัญที่ 7.15 ขึ้นไป และมีแนวรับในระยะสั้นที่ 7.00
STOP LOSS สถานะ Short หลังจาก AAVZ16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 7.10 ขึ้นไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...Earning revision ratio กำลังลงไปติดลบใหม่
แนวโน้มกำไรของตลาดหุ้นไทยโดยรวมดูผ่าน MSCI Thailand earning revision ratio ปรากฏว่าเริ่มย่อตัวลงมาอยู่ในแดนลบ (ดูรูปด้านซ้าย) หลังดีดตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2013 การปรับตัวลงของค่า Earning revision ratio กำลังบอกว่าแนวโน้มกำไรของตลาดใน Q3 หรือต่อเนื่องไปยัง Q4/16 อาจจะไม่ดีอย่างที่คาดไว้เดิม หลังตลาดกังวลเรื่องกำลังซื้อของคนในประเทศจะชะลอตัวลงในช่วงของการไว้ทุกข์ 1 เดือนรวมทั้งผลจากราคาข้าวตกต่ำ อย่างไรก็ตามคาดภาวะการชะลอตัวของกำลังซื้อน่าจะยังเป็นช่วงสั้นๆ
แนวโน้มกำไรของตลาดที่อาจจะชะลอตัวลง น่าจะเป็นประเด็นหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติชะลอการซื้อหุ้นและค่อยๆ ขายหุ้นออกในบางกลุ่มที่เขาคาดว่าจะได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะหุ้นที่โตจากแรงซื้อในประเทศ ส่วนทิศทางของตลาดหุ้นทั่วโลก ดูผ่านค่า P/E 12 เดือนล่วงหน้าในตอนนี้ถือว่ายังไม่มีอะไรผิดปกติ โดยค่า P/E 12 เดือนล่วงหน้าของตลาดหุ้นไทย (MSCI Thailand) กำลังลงมาเล่นในระดับต่ำกว่า 15 เท่า และอยู่ในระดับค่า P/E กลางๆ เมื่อเทียบกับทั่วโลก
เรามองว่าปัจจัยที่จะขับดันดัชนี SET ในช่วงนี้เหลือเพียง งบ Q3/16 ซึ่งยังต้องติดตามกันต่อรวมทั้งมาตรการการลงทุนก่อสร้างขนาดใหญ่ ส่วนหุ้นพลังงานและปิโตรเคมี จากเดิมที่คาดว่าจะเป็นตัวหนุนดัชนี SET ตอนนี้กลับปรากฏว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกกลับนิ่งๆ จะเหลือก็แค่งบ Q3/16 ของกลุ่มที่อาจจะหนุนหุ้นรายตัว แต่อย่างไรก็ตามหากราคาน้ำมันกลับพุ่งขึ้น ก็น่าจะเป็นตัวหนุนดัชนี SET ดังนั้นปัจจัยขับดันดัชนี SET ในตอนนี้ก็เหลือแค่งบ Q3/16 ของหุ้นในกลุ่มที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน
ประเด็นที่ตลาดให้ความสำคัญและอาจส่งผลทั้งด้านบวกและลบกับตลาดในเดือนนี้คือ การประกาศของ MSCI ในวันที่ 14 พ.ย.ทั้งน้ำหนักโดยรวมของการลงทุนในตลาดหุ้นไทย หุ้นที่จะถูกถอดออกหรือเพิ่มเข้าไปใน Global standard/Small Cap. และน้ำหนักของหุ้นแต่ละตัวที่อยู่ใน MSCI ซึ่งประเด็นดังกล่าวจะมีส่วนอย่างมากกับการขึ้นและลงของดัชนี SET หลังจากนี้
หากเรากลับมาดูงบ Q3/16 ของบริษัทต่างๆที่คาดว่าจะออกมาดี ผ่านค่า Consensus ของ IBES เราจะพบว่าบริษัทที่งบ Q3/16 ออกมาดีกว่าคาดมากๆ ในตอนนี้จะมีที่เห็นคือ พลังงานและปิโตรเคมี อย่าง PTTGC ESSO ส่วนหุ้นในกลุ่มอื่นๆคือ INTUCH CPALL โดยคาดว่างบของบริษัทเหล่านี้จะทยอยประกาศในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน พ.ย.
วันนี้คาดทิศทางดัชนี SET ยังอยู่ในภาวะซึมๆและแกว่งทั้งแดนบวกและลบ จากการขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ รวมทั้งแรงกดจากหุ้นพลังงานและตลาดในภูมิภาค แต่อาจมีแรงซื้อหุ้นรับเหมา สลับเข้ามา หลังเก็งกันว่า ครม. จะอนุมัติงบลงทุน ในไม่ช้านี้ วันนี้มองแนวต้านที่ 1498-1502 จุด ส่วนแนวรับที่ 1489-1485 จุด หุ้นที่แนะนำ ซื้อเก็งกำไร คือ BDMS CK SAWAD และ INTUCH
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(AM)
Investment Strategy
กลยุทธ์: ประเด็นที่ตลาดให้ความสำคัญและอาจส่งผลทั้งด้านบวกและลบกับตลาดในเดือนนี้คือ การประกาศของ MSCI ในวันที่ 14 พ.ย.ทั้งน้ำหนักโดยรวมของการลงทุนในตลาดหุ้นไทย หุ้นที่จะถูกถอดออกหรือเพิ่มเข้าไปใน Global standard/Small Cap. และน้ำหนักของหุ้นแต่ละตัวที่อยู่ใน MSCI ซึ่งประเด็นดังกล่าวจะมีส่วนอย่างมากกับการขึ้นและลงของดัชนี SET หลังจากนี้ หากเรากลับมาดูงบ Q3/16 ของบริษัทต่างๆที่คาดว่าจะออกมาดี ผ่านค่า Consensus ของ IBES เราจะพบว่าบริษัทที่งบ Q3/16 ออกมาดีกว่าคาดมากๆ ในตอนนี้จะมีที่เห็นคือ พลังงานและปิโตรเคมี อย่าง PTTGC ESSO ส่วนหุ้นในกลุ่มอื่นๆคือ INTUCH CPALL โดยคาดว่างบของบริษัทเหล่านี้จะทยอยประกาศในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน พ.ย. วันนี้คาดทิศทางดัชนี SET ยังอยู่ในภาวะซึมๆและแกว่งทั้งแดนบวกและลบ จากการขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ รวมทั้งแรงกดจากหุ้นพลังงานและตลาดในภูมิภาค แต่อาจมีแรงซื้อหุ้นรับเหมา สลับเข้ามา หลังเก็งกันว่า ครม. จะอนุมัติงบลงทุน ในไม่ช้านี้ วันนี้มองแนวต้านที่ 1498-1502 จุด ส่วนแนวรับที่ 1489-1485 จุด หุ้นที่แนะนำ ซื้อเก็งกำไร คือ BDMS CK SAWAD และ INTUCH
Themes play :
AAV BA EPG TASCO : เรายังแนะนำ ซื้อเก็งกำไร หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันอย่าง AAV BA EPG และ TASCO ต่อในวันนี้ หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงอีก 1.84 ดอลลาร์/บาร์เรลหรือ -3.8% ปิดที่ 46.86 ดอลลาร์/บาร์เรลหรือลดลง 4.96 ดอลลาร์/บาร์เรลหรือ -10% ในช่วง 8 วันทำการ จากความผิดหวังผลการประชุมระหว่างกลุ่มโอเปกและผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกในวันที่ 30 ต.ค. ที่ยังไม่สามารถหาข้อยุติเกี่ยวกับการปรับลดกำลังการผลิตลงได้ นอกจากนั้นกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกก็ไม่ได้ให้คำมั่นว่าจะจำกัดเพดานการผลิตน้ำมันอีกด้วย ในขณะที่อิหร่าน อิรัก ไนจีเรีย ลิเบีย เวเนซุเอลาและอินโดนีเซีย ซึ่งเป็น 6 ประเทศใน 14 ประเทศของกลุ่มโอเปกที่ปัจจุบันผลิตน้ำมันรวม 12.95 ล้านบาร์เรล/วันหรือ 38% ของกลุ่มโอเปกรวมที่ 33.75 ล้านบาร์เรล/วัน ก็ยังไม่เห็นด้วยกับการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลง ทำให้ตลาดประเมินโอกาสที่กลุ่มโอเปกจะได้ข้อสรุปการปรับลดกำลังการผลิตในการประชุมประจำปีวันที่ 30 พ.ย. ลดลง โดย Bloomberg consensus ให้ราคาเป้าหมาย AAV ที่ 7.98 บาท (Buy/Hold/Sell : 15/6/0), BA 30.35 บาท (Buy/Hold/Sell : 17/0/0), EPG 17.22 บาท (Buy/Hold/Sell : 6/1/0) และ TASCO 22.63 บาท (Buy/Hold/Sell : 2/1/3)
ประเด็นในสัปดาห์
1 พ.ย. : จีนประกาศตัวเลข Manufacturing PMI เดือนต.ค. โดยตลาดคาด 50.4 จากเดือนก่อนหน้าที่ 50.4
1 พ.ย. : จีนประกาศตัวเลข Caixin China PMI Mfg เดือนต.ค. โดยตลาดคาด 50.1 จากเดือนก่อนหน้าที่ 50.1
1 พ.ย. : สหรัฐประกาศตัวเลข Markit US Manufacturing PMI เดือนต.ค. จากเดือนก่อนหน้าที่ 53.2
Fundamental Stock :
UTILITIES : Sector Note (คำแนะนำ : Overweight)
ADVANC : Company Note(คำแนะนำ : ซื้อ ราคาเป้าหมาย :205 บาท)
TOP : Company Note (คำแนะนำ : ซื้อ ราคาเป้าหมาย : 92.00 บาท)
Technical Pick:
กลยุทธ์ : SET Index มีแนวรับ 1480 จุด แนวต้าน 1500 จุด
Group Lease (GL TB; THB 46.00) - ซื้อ
Precious Shipping (PSL TB; THB 6.05) - ซื้อ
SET Index : Sideways
Retail Research Team