- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 31 October 2016 17:01
- Hits: 4076
บล.บัวหลวง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
รอบด้านตลาดหุ้น
Sideways
วันนี้คาด Sideways กรอบ 1,485-1,500 จุด
แนวโน้มสัปดาห์นี้ คาดกรอบ 1,490-1,520 จุด กลยุทธ์แนะนำ 1) ซื้อเล่นรอบ/เลือกหุ้นรายตัว เน้นหุ้นที่มีโอกาสจะประกาศงบดีขึ้นหรือ ดีกว่าคาด 2) หุ้น Winner ศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ 3) หุ้นตัวเต็งติด MSCI รอบใหม่ ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด คาด Neutral...ประชุมเฟด คาดคงดอกเบี้ย และอังกฤษ คง QE/ดอกเบี้ย, วิตกรายวัน-เฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเร่งตัวขึ้น เงินเฟ้อเพิ่ม, ISM ภาคผลิตทรงตัวในระดับสูง และการจ้างงานสหรัฐฯที่เพิ่มขึ้น การรอผลเลือกตั้งสหรัฐฯ ฯลฯ
ระยะเดือน-ดัชนีฯรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา (นับจาก Bottom ของวันที่ 12 กย.2016) พบว่า กลุ่มฯที่ถูกซื้อ ขึ้นมาจนให้ผลตอบแทนเกิน 10% ได้แก่ พลังงาน ค้าปลีก ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนที่กลุ่มที่โดนขายมากสุด คือ แบงก์ ขนส่ง และ วัสดุก่อสร้าง
ผลตอบแทนกลุ่มเหล่านี้ซึ่งเป็นตัวแทนดัชนีฯ สะท้อน ทิศทางหุ้นที่ถูกเพิ่มน้ำหนัก และ ลดน้ำหนัก ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเราคาดว่าหุ้นที่ถูกเพิ่มน้ำหนักเข้าไปมาก การจะซื้อต่อเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าดัชนีฯ น่าจะทำได้ยาก ขณะที่หุ้น สถาบันการเงิน (แบงก์ ประกัน และ สินเชื่อบุคคล) เราคาดว่าจะเป็นกลุ่มที่มีโอกาสถูกเพิ่มน้ำหนัก หรือ ซื้อกลับคืน ในรอบถัดไป โดยเชื่อว่าการซื้อหุ้นกลุ่มนี้จากตรงนี้ไป มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าตลาดได้
หุ้นแนะนำวันนี้ BLA เราเชื่อว่ากำไรสุทธิ 3Q16 จะดีกว่าที่ตลาดคาด และจะมี Flows ปรับกำไรขึ้นตามมา เบื้องต้นเราคาดกำไร 3Q16 ราว 1.1 พันล้านบาท พลิกจาก 3Q15 ที่ขาดทุน / KBANK ราคาหุ้นลงแรง สะท้อนผิดหวังกำไร 3Q16 ต่ำคาดไปมากแล้ว คาดว่าข้อมูลจากการประชุมกับผู้บริหารในต้นสัปดาห์หน้า จะช่วยตลาดคลายความวิตกต่อทิศทางกำไรใน 4Q16-2017 ได้ / เก็งกำไรหุ้นตัวเล็กที่คาดกำไรออกมาดีกว่าคาด AJD AQUA TACC TFG
รายงานพื้นฐาน BLS วันนี้
(+) กลุ่มโรงพยาบาล คาดกำไร 3Q16 (July-Sept) จะเติบโตสูงโดดเด่นที่สุดเท่าที่เคยมีมา คาดกำไรรวมของกลุ่ม (BDMS, BH, CHG และ RJH) ที่ 3.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% YoY และ 25% QoQ ในขณะที่มาร์จิ้นคาดปรับตัวสูงขึ้นทั้ง YoY และ QoQ อยู่ที่ 14.1% สำหรับแนวโน้ม 4Q16 เราคาดกำไรของกลุ่มฯจะเติบโตต่อเนื่อง YoY แต่อ่อนตัวลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล สำหรับรายตัวเราคาด...
BDMS (Buy; TP 25 บาท) คาดกำไร 2.1 พันล้านบาท (+14% YoY +32% QoQ)
BH (Buy; TP 250 บาท) คาดกำไร 936 ล้านบาท (+13%YoY +10%QoQ)
CHG (Buy; TP 3.30 บาท) คาดกำไร 150 ล้านบาท (+24%YoY +29%QoQ)
RJH (Buy; TP 30 บาท) คาดกำไร 44 ล้านบาท (+117%YoY +55%QoQ)
(-) KTB เราเข้าร่วมประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ข้อมความจากที่ประชุมที่สื่ออกมายังคงมีมุมมองด้านการเติบโตของสินเชื่อที่น่าจะติดลบราว 3-5% และเติบโตเล็กน้อยสำหรับปี 2017 อีกทั้งยังค่อนข้างระมัดระวังในแง่ของ NPL ช่วง 4Q16-1H17 โดยเชื่อว่า NPL อาจจะไปทำจุดสูงสุดในช่วงต้นปีหน้า ทำให้การตั้งสำรองยังคงสูงต่อเนื่อง เราปรับประมาณการการตั้งสำรอง LLP ปีหน้าขึ้น 14% (ธนาคารตั้งเป้าเพิ่มอัตราส่วน loan loss coverage ไปที่ 130% ปี 2017 จาก 105% ใน 3Q16 อย่างไรก็ตาม NIM มีการปรับตัวดีขึ้น ทำให้เราปรับประมาณการ NIM ปี 2017 ขึ้นไปที่ 3.1% ผลของ NIM ที่เพิ่มขึ้นหักกลบกับ LLP ที่เพิ่มทำให้เราคงประมาณการเดิม และยังคงคำแนะนำ ถือ
(+) STANLY รายงานกำไรสุทธิ 2Q17 (ก.ค. 2016-ก.ย.2016) ที่ 367 ล้านบาท ลดลง 18% YoY แต่เพิ่มขึ้น 51% QoQ ผลประกอบการที่ออกมามากกว่าที่เราและตลาดคาด 27% จากอัตรากำไรขั้นต้นที่ทำได้ดีกว่าคาด (ออกมา 19.6% จากที่เราคาด 16.2%) จากการประหยัดต่อขนาดที่เพิ่มขึ้น และรถยนตร์รุ่นใหม่ที่ออกมา (New Fortuner, Navara, Accord, Pajero และ Triton) เราคาดกำไร 3Q17 จะปรับตัวดีต่อเนื่อง +22% YoY หนุนโดยอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีและการบริหารค่าใช้จ่าย เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 208 บาท
(+) GFPT เราคาดกำไรสุทธิ 3Q16 ที่ 450 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38% YoY และ 18% QoQ การเติบโตที่ค่อนข้างดีหนุนโดยปริมาณการส่งออกที่เพิ่มขึ้น และการปรับตัวของอัตรากำไรขั้นต้น จากราคาวัตถุดิบที่ยังคงต่ำ เราคาดปริมาณการส่งออกใน 3Q16 ที่ 7000 ตัน เพิ่มขึ้น 32% YoY และ 21% QoQ แม้ว่าราคาไก่จะมีการปรับตัวลงมาจากฝนที่ตกหนักและเหตุการณ์น้ำท่วมในบางพื้นที่ เรามองว่าเป็นแค่ผลกระทบในระยะสั้นก่อนที่ราคาจะมีการเด้งกลับในช่วงกลางเดือน พ.ย. โดยภาพระยะกลางเรายังมองว่าราคาจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้หนุนโดยอุปทานที่ยังคงตึงตัวจากปัญหาการนำเข้าปู่ย่าพันธุ์ อีกทั้งอัตรากำไรจะยังคงอยู่ในระดับสูงอิงตามราคากากถั่วเหลืองและข้าวโพดที่ยังต่ำ เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ที่ราคาเป้าหมาย 17 บาท
(-) GLOW รายงานกำไรสุทธิ 3Q16 ที่ 2.23 พันล้านบาท ลดลง 19% QoQ แต่เพิ่มขึ้น 12% YoY หากไม่รวมรายการพิเศษกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 98 ล้านบาท กำไรหลักอยู่ที่ 2.13 พันล้านบาท ลดลง 22% QoQ และ 29% YoY กำไรหลักที่ออกมาต่ำกว่าที่คาด 5% จากกำไรที่ออกมาต่ำกว่าคาด เราปรับประมาณการกำไรปี 2016 ลง 1% ยังคงคำแนะนำ ถือ รับปันผลราว 7.5%
หุ้นมีข่าว-ประเด็น
(+) TTA LANNA EARTH ราคาถ่านหินโลก ดีดตัวขึ้นเร็ว แตะ 102 เหรียญ/ตัน ส่วนหนึ่งเป็นผลจาก พายุที่เข้าฝั่งอินโดนีเซียปีนี้เป็นจำนวนมากกว่าปีก่อน ส่งผลต่อการระบบโลจิสติก ทำให้อินโดนีเซียปีนี้ส่งออกถ่านหินได้น้อยลง หนุนราคาถ่านหินในตลาดโลกพุ่งขึ้น (ที่มา ผู้จัดการรายวัน / BLS Research)
(+) TASCO จากผลกระทบ ฤดูพายุที่รุนแรงกว่าปีก่อน ส่งผลให้ ถนนแถบ จีนตอนใต้, อินโดนีเซีย และ อาเซียน ต้องมีการซ่อมแซมเป็นจำนวนมากขึ้น คาดว่า Demand ยางมะตอยน่าจะกลับมาเพิ่มขึ้นหลังผ่านฤดูพายุไปแล้ว คาดว่า กำไรที่ออกมาลดลงใน 3Q16 จะเริ่มดีขึ้นใน 4Q16 โดยกำไร TASCO ที่แย่กว่าคาดในช่วง 1H16 ส่วนเป็นเพราะ ราคาน้ำมัน (Brent) ครึ่งปีแรกที่พุ่งขึ้น 87% (จาก $28 ขึ้นไปแตะ 52) ซึ่งเรามองว่าราคาน้ำมันในครึ่งปีหลังผันผวนน้อยลงโดย บวกขึ้นจาก bottom ที่ $42 ไปแตะ $54 เพิ่มขึ้น 28% น้อยกว่าครึ่งปีแรก ทำให้คาดว่าแนวโน้มกำไร 4Q16 จะเป็นไตรมาสที่เริ่มฟื้นตัว และ ดีต่อเนื่องไปถึงช่วง 1Q17 จาก demand ซ่อมสร้างถนนที่กลับมา (ที่มา BLS research)
(-) LOXLEY เลื่อนวิ่งรถเมล์ไฟฟ้า 200 คัน ไปเป็นปีหน้า (จากเดิมคาดปลายปีนี้) เหตุผู้ประกอบการในประเทศ คัดค้านการนำเข้าทั้งคัน ระบุในไทยก็ผลิตได้ ไม่จำเป็นต้องนำเข้าทั้งคัน (ที่มา ข่าวสด)
(+) MEGA บีโอไออัดสิทธิประโยชน์อุ้มผู้ผลิตยาไทยแข่งขัน โดยได้ส่งเสริมให้บริษัทผู้ผลิตยาของไทยมีความพร้อมและปรับตัวให้ได้ตามมาตรฐานจีเอ็มพี ตามแนวทางมาตรฐานการผลิตยาที่ดี ซึ่งเป็นมาตรฐานสหภาพยุโรป (อียู) หรือพีไอซี/เอส โดย 5 ปีที่ผ่านมา (55-59) มีอุตสาหกรรมการผลิตยายื่นขอรับส่งเสริมการลงทุน 54 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 19,621 ล้านบาท ซึ่งยังมีจำนวนไม่มากนัก รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงมีนโยบายส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร (เมดิคัล ฮับ) หนึ่งใน 10 อุตฯ เป้าหมายขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาล (ที่มา เดลินิวส์)
(+) TCMC เตรียมรีแบรนด์กลุ่มไทปิง ชงแผนต่อยอดธุรกิจทีซีเอ็มซีบุกทั่วโลก (ที่มา ไทยรัฐฯ) / วันนี้จัดประชุม นักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุน หลังประชุม ผถห.ไปเมื่อสัปดาห์ก่อน
(+) SCC, WHA+GLOW, BWG, PSTC พีจี แอนด์ ซี 5714 จำกัด ปริมาณเสนอขาย 2.5 เมกะวัตต์ กำลังการผลิตติดตั้ง 3 เมกะวัตต์ , บริษัท ชลบุรี คลีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ปริมาณเสนอขาย 6.9 เมกะวัตต์ กำลังการผลิตติดตั้ง 8.630 เมกะวัตต์ , บริษัท ศแบงยั่งยืน พิจิตร จำกัด ปริมาณเสนอขาย 1.88 เมกะวัตต์ กำลังการผลิตติดตั้ง 2 เมกะวัตต์ , บริษัท โปรเกรส อินเตอร์เคม (ประเทศไทย) จำกัด ปริมาณเสนอขาย 4 เมกะวัตต์ กำลังการผลิตติดตั้ง 4.8 เมกะวัตต์ , บริษัท เอวา แกรนด์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ปริมาณเสนอขาย 3 เมกะวัตต์ กำลังการผลิตติดตั้ง 6 เมกะวัตต์ , บริษัท รีคัฟเวอรี่ เฮ้าส์ จำกัด ปริมาณเสนอขาย 5.5 เมกะวัตต์ กำลังการผลิตติดตั้ง 9.4 เมกะวัตต์ และบริษัท อนุรักษ์พลังงานซิเมนต์ไทย จำกัด ปริมาณเสนอขาย 7 เมกะวัตต์ กำลังการผลิตติดตั้ง 8 เมกะวัตต์ ทั้ง 7 โครงการมีปริมาณเสนอขายรวมทั้งสิ้นจำนวน 30.78 เมกะวัตต์ และปริมาณกำลังการผลิตติดตั้งรวมทั้งสิ้นจำนวน 41.83 เมกะวัตต์ (ที่มา กกพ.)
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(-) ตลาดหุ้นจีนเตรียมเปิดซื้อขายหุ้นปลดล็อก 1.306 แสนล้านหยวน (ราว 1.95 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้และเสิ่นเจิ้นในสัปดาห์นี้ โดยหุ้นของบริษัท Guangdong Wen's Foodstuff Group Co. จะถูกปลดล็อกจำนวน 3.07 พันล้านหุ้น มูลค่าเกือบ 1.119 แสนล้านหยวน ซึ่งถือเป็นหุ้นกลุ่มใหญ่ที่สุดที่จะเปิดซื้อขายในตลาดในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ ตามกฎเกณฑ์ของตลาดจีนนั้น ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของหุ้นกลุ่มที่ไม่สามารถซื้อขายได้จะต้องล็อกหุ้นของตนเองไว้เป็นเวลา 1-2 ปี ก่อนที่จะได้รับการอนุมัติให้ซื้อขายในตลาดได้ (ที่มา สำนักข่าวซินหัว)
(+) สศค.เผยภาวะเศรษฐกิจ ก.ย.และไตรมาส 3 ปีนี้ปรับตัวดีขึ้น การบริโภค เบิกจ่ายลงทุนรัฐ ส่งออกท่องเที่ยวหนุน ยืนจีดีพีปีนี้โต 3.3% ปี 60 โต 3.4%/ ส.อ.ท.ชี้ต้นปีหน้าเอกชนทั้งในและนอกประเทศแห่ลงทุนไทย หลังพบเศรษฐกิจโลกและสหรัฐอเมริกาปรับตัวดีขึ้น คลังมั่นใจจีดีพีทั้งปี 2559 โตเกิน 3% แน่นอน (ที่มา สยามรัฐฯ/ไทยโพสต์)
(0/-) จันทร์ US PCE index กย.คาด +0.2% จาก +0.1% m-m. EU area GDP 3Q16 1st คาด +0.2% จาก +0.3% q-q. EU area HICP inflation ตค.คาด +0.5% จาก 0.4% y-y. ญี่ปุ่น Industrial production กย.คาด +0.7% จาก +1.3% ไทย manufacturing production กย. คาด -0.3% จาก +3.1% y-y. (ที่มา Bloomberg)
(+) อังคาร US ISM Manufacturing ตค. คาด +51.5 จาก 51.5, UK PMI manufacturing ตค.คาด 54.2 จาก 55.4, BOJ Outlook report และ BOJ meeting, จีน PMI mfg. ตค. คาด 50.3 จาก 50.4 ไทย CPI เงินเฟ้อ เดือน ตค. คาด +0.4% คงที่, เกาหลีใต้ ส่งออก ตค.คาด -0.3% จาก -5.9% y-y. ธนาคารกลางออสเตรเลีย คาดคงดอกเบี้ย 1.5% (ที่มา Bloomberg)
(0) พุธ FOMC meeting คาดเฟดคงดอกเบี้ย 0.25-0.50%, EU PMI mfg. ตค. คาด 53.3 คงที่, ญี่ปุ่น Consumer confidence index ตค. (ที่มา Bloomberg)
(0/+) พฤหัส US ISM ภาคบริการ คาด 56 จาก 57.1, US Nonfarm productivity คาด +1.6% จาก -0.6%, ECB Economic bulletin และ อัตราว่างงาน EU, ธนาคารกลางอังกฤษ คาด คงดอกเบี้ย 0.25% และคง QE 4.35 แสนล้านปอนด์, ตลาดหุ้นญี่ปุ่นหยุด (ที่มา Bloomberg)
(-) วันศุกร์ US การจ้างงานนอกภาคเกษตร ตค. คาด +1.65 แสน จาก 1.56 แสน, US อัตราว่างงาน ตค. คาด +4.9% จาก 5% EU PMI composite คาด 53.7 คงที่, ฟิลิปปินส์ CPI คาด 2.3% คงที่, มาเลเซีย ส่งออก คาด -2% จาก +1.5% y-y. (ที่มา Bloomberg)
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค