- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 28 October 2016 16:37
- Hits: 2001
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market View : ผันผวนในกรอบ
Stock of the town : NCL TCMC
Analyst Meeting : THANI
หุ้นมีข่าว : PTTEP SYNEX THANI BPP
SET วานนี้ปรับตัวขึ้นตอบรับตัวเลขการส่งออกของไทยเดือนก.ย.ขยายตัวมากกว่าคาด ประกอบกับแรงซื้อดักผลประกอบการ Q3/59 ในกลุ่มที่คาดว่าจะมีกำไรเติบโต หนุนให้ SET ปิดที่ 1,498.36 จุด (+6.24 จุด) Vol. 5.2 หมื่นลบ.โดย Foreign Net -1,383 ลบ.,TFEX Net -5,625 สัญญา
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
+/- ตลาดหุ้น DJ อ่อนตัวลง หลังยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐเดือนก.ย. ลดลง 0.1% รวมถึงผลประกอบการ Q3/59 บริษัทฯบางแห่งอ่อนแอ
+ ราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นล่าสุด 49.7 US/Barrel หลังซาอุฯแสดงความตั้งใจที่จะปรับลดกำลังการผลิตลง 4% รวมถึงสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง553,000 บาร์เรลและสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 2 ล้านบาร์เรล
- Bond Yield 10 ปีของสหรัฐฯพุ่งสูงสุดในรอบ 5 เดือนสู่ระดับ 1.87% สะท้อนถึงความกังวล FED ปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.
- แนวโน้มเงินบาทอ่อนค่าลงล่าสุด 35.1 Bath/USD รวมทั้ง Foreign เป็น Net Sell 3 วันต่อเนื่องราว 3.5 พันลบ. และตั้งแต่ต้นเดือนต.ค. เป็น Net Sell 1.4 หมื่นลบ.
+/- 28 – 29 ต.ค. ติดตามการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และนอกกลุ่มโอเปกที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย
+/- รมว.คลัง คาดใช้ T+2 ไม่ทันกลางปีหน้า แต่ยังมั่นใจพร้อมเพย์เปิดเต็มรูปแบบ Q1/60
** 1- 2 พ.ย. การประชุมนโยบาการเงิน BOJ และ FOMC
** 8 พ.ย. การเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ โพลล์ล่าสุดนางฮิลลารี คลินตัน ยังมีคะแนนนำ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ 46% ต่อ 37%
ภาวะตลาดหุ้นไทยมีปัจจัยบวก/ลบที่คละเคล้า โดยปัจจัยลบจากแนวโน้มเงินบาทอ่อนค่าลงซึ่งเป็นลบต่อ Fund Flow ต่างชาติซึ่งยังคงเป็น Net Sell ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น รวมถึงแรงซื้อดักงบ Q3/59 ที่กำลังทยอยประกาศเป็นแรงหนุนดัชนี ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,490 - 1,510 จุด
กลยุทธ์การลงทุน Selective Buy ในกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน
- หุ้นที่คาดว่างบ Q3/59 จะเติบโตขึ้น KCE CPALL SPALI ANAN BEAUTY GFPT FSMART TPCH WICE ACAP PTTGC
- BANPU ราคาถ่านหินขึ้นทำ High ในรอบ 4 ปี ล่าสุด 103.7 US/Ton
- GENCO SUPER CWT WHA GLOW BWG PSTC กกพ.ประกาศผลไฟฟ้าขยะอุตฯ 50 MW 28 ต.ค.
- FSMART AJD รับผลบวก 7-Eleven หยุดขายบัตรเติมเงินวันทูคอล AIS
Analyst Meeting
THANI ราคาปิด 5.10 บาท ราคา consensus เฉลี่ย 5.75 บาท
ต้นทุนทางการเงินมีแนวโน้มต่ำลงในปี 60 หลังทริสปรับเพิ่มอันดับเครดิต เป็น “A-” จากเดิม “BBB+” เมื่อ 19 ต.ค. 59 ในปี 60 มีหุ้นกู้ 2 ตัววงเงินกว่า 5 พันล้านบาททำให้คาดว่าจะรักษา spread ที่ 4% เท่ากับปี 59 ได้แม้ว่าภาวะการแข่งขันสูงจะทำให้ yield ลดลงก็ตาม
Q3/59 กำไร 218 ลบ.+2% 9M59 กำไร 644 ลบ. +11% ผลประกอบ การโดยรวมดีกว่าคาด ทำให้บริษัทตั้งสำรองส่วนเพิ่มทำให้ยอดสำรองรวม ณ ปลาย Q3/59 อยู่ที่ราว 150 ลบ.สูงกว่าเป้า 80 ลบ.เมื่อต้นปี คาดทั้งปีจะตั้งสำรองราว 200 ลบ. เพื่อเตรียมตัวในการปรับมาใช้มาตรฐานบัญชี IFRS 9 ในปี 62 ที่จะส่งผลให้สถาบันการเงินต้องตั้งสำรองฯเพิ่มขึ้น โดยมีผลสำรวจธนาคารในตปท.ว่าตั้งสำรองฯเพิ่มราว 30-50% จากระดับเดิม
แนวโน้มผลประกอบการ Q4 แม้สถานการณ์การปล่อยสินเชื่อซบเซา มีการเลื่อนส่งมอบรถใหม่ส่วนใหญ่ไปอยู่ในช่วงกลางเดือนพ.ย. แต่ในช่วง Q3 ปล่อยสินเชื่อสูงกว่าเป้าชดเชยไปแล้ว ทั้งปีไม่น่าพลาดเป้าปล่อยสินเชื่อเพิ่ม 16,800 ลบ.
โอกาสทางธุรกิจคือ สินเชื่อรถบรรทุกที่มีสัดส่วนราว 70% ของพอร์ท เริ่มกลับมาเติบโตตั้งแต่ปลาย Q3 ต่อเนื่อง Q4 และในปีหน้า รถ luxury + Supercar มีโอกาสปล่อยสินเชื่อได้มากขึ้นจากพฤติกรรมผู้บริโภคกลุ่มน้อยที่มีกำลังซื้อและบริษัทมีความเชี่ยวชาญในการอนุมัติได้เร็ว สินเชื่อรถแท๊กซี่จะเริ่มกลับมาหลังจากใกล้หมดอายุการใช้งานปลาย Q4 (รัฐขยายเวลาให้ 2 ปีและใกล้ครบแล้ว) อนาคตสนใจปล่อยสินเชื่อเครื่องจักรก่อสร้างรองรับงบประมาณภาครัฐในการลงทุนโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานขนาดใหญ่
หุ้นมีข่าว
ที่มา บล.โกลเบล็ก
PTTEP (ราคาปิด 83 แนะนำ ถือ ราคาเหมาะสม 86 บาท) รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/59 ที่ 5,446 ล้านบาทซึ่งเป็นไปตามที่ฝ่ายวิจัยคาดไว้ โดยกำไร 9M59 คิดเป็น 74%ของประมาณการกำไรปี 59 ที่ 18,559 ล้านบาทเติบโต 159%YoY เป็นผลจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นและทรงตัวในกรอบ 43-52 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการกำไรปี 60 อยู่ที่ราว 24,826 ล้านบาทเติบโต 34%YoY เพราะคาดการณ์ราคาขายปิโตรเลียมเฉลี่ยที่ 42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเพิ่มขึ้น 7%YoY อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยคาดว่าราคาก๊าซธรรมชาติจะยังปรับตัวลงและถึงจุดต่ำสุดในช่วงไตรมาส 2/60 ก่อนที่จะเริ่มปรับตัวปรับขึ้นยังเป็นปัจจัยกดดันต่อผลประกอบการของ PTTEP จึงคงคำแนะนำ “ถือ” ที่ราคาเหมาะสม 86 บาท
SYNEX (ราคาปิด 5.35 ราคาเหมาะสม 6.50) จ่อรับทรัพย์มือถือ "Huawei Mate 9" หนุนออเดอร์พุ่งทะยาน ผู้บริหารชี้หากลุล่วงแววยอดขายมือถือปีนี้แตะ 5 พันล้านบาท พร้อมปักธงปี 2559 รายได้ 2.3 หมื่นล้านบาท แถมผนึกพอร์ตเนอร์จีน อัพพอร์ตรายได้บริการเพิ่ม (ที่มาทันหุ้น)
ประเด็นลบกลุ่มธนาคาร : ธปท.เผยในระบบเอ็นพีแอลเพิ่มขึ้นเกือบ 2 หมื่นล้านบาทช่วง 3 เดือน ล่าสุดยอดคงค้างแตะ 3.94 แสนล้านบาท สัดส่วนขยับเป็น 2.89% "กสิกรไทย" นำโด่ง ส่วนทหารไทยลดมากสุด ธปท.รับเป็นอัตราสูงแต่ไม่น่าห่วง เหตุแบงก์เงินกองทุนและเงินสำรองสูงและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น (ที่มาผู้จัดการรายวัน 360 องศา)
ความเห็น : การที่ NPL สูงขึ้นเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในข่วงก่อนหน้านี้ทำให้สินเชื่อ SME มีปัญหาสภาพคล่องบั่นทอนความสามารถในการชำระคืนหนี้ ขณะที่สินเชื่อรายย่อยมีปัญหาด้านภาระหนี้ครัวเรือนสูงตั้งแต่ปีที่แล้ว สำหรับ KBANK มี NPL เพิ่มขึ้น%NPL เมื่อเทียบกับสินเชื่อรวมเพิ่มขึ้นตามที่ผู้บริหารคาด ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าคุณภาพสินทรัพย์โดยรวมยังไม่น่ากังวลมากนักเนื่องจากแต่ละธนาคารได้เพิ่มระดับการตั้งสำรองหนี้สูญเพื่อรับมือกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น และเชื่อว่าสถานการณ์จะดีขึ้นจากแนวโน้มเศรษฐกิจฟื้นตัวต่อเนื่องในปีหน้า แนะนำให้น้ำหนักการลงทุนเป็นหุ้นกลุ่มธนาคารเป็น NEUTRAL โดยเลือก SCB เป็นหุ้น top pick ราคาเหมาะสม 172 บาท
BPP เริ่มซื้อขายวันที่ 28 ต.ค. ด้วยราคา IPO 21 บาท
- ดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์กำลังการผลิตเฉพาะส่วนที่บริษัทเป็นเจ้าของรวม 1,913 MW แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหิน 1,711.2 MW และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 56.6 MW โดยแบ่งเป็นโรงไฟฟ้าในประเทศไทย 1 แห่ง 717 MW ประเทศลาว 1 แห่ง 751.2 MW ประเทศจีน 5 แห่ง 293 MW และประเทศญี่ปุ่น 2 แห่ง 6.6 MW
- โครงการระหว่างก่อสร้าง 553.2 MW แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหิน 438.5 MW และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 69.2 MW โดยอยู่ในประเทศจีน 3 แห่ง 484 MW ประเทศญี่ปุ่น 6 แห่ง 67.7 MW และประเทศไทย 1 แห่ง 1.5 MW ซึ่งจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ช่วงปี 2017-2020 นอกจากนี้ยังมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ประเทศจีนที่จะได้มาซึ่งหุ้นอีก 90 MW
- ผลประกอบการมีโอกาสเติบโตได้เพิ่มขึ้นตามการขยายกำลังการผลิตในอนาคตหากโครงการระหว่างก่อสร้างแล้วเสร็จโดยจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตอีก 36% จากกำลังการผลิตในปัจจุบัน
- IPO 648.4925 ล้านหุ้นที่ราคา 21 บาทต่อหุ้น คิดเป็น PE 16.01 เท่า วัตถุประสงค์ในการใช้เงินชำระคืนเงินกู้ ลงทุนขยายกิจการ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ที่มาของข้อมูลหนังสือชี้ชวน
PDI คาดโซลาร์ฟาร์มแห่ง 2 ในญี่ปุ่น 10.5 MW เริ่ม COD ใน Q2/60 หลังแห่งแรก COD แล้วต้นต.ค.
ประเด็นบวก LH-CK-NWR-MJD “กรมทางหลวง” จัดสัมมนาประเมินความสนใจของภาคเอกชน (Market Sounding) ที่พักริมทางมอเตอร์เวย์ 2 สาย วงเงินรวมกว่า 2 พันล้านบาท คาดสรุปรายละเอียดส่ง “อาคม” ได้ธ.ค.นี้ ก่อนชงคณะกรรมการ PPP เดินหน้าประมูลให้จบภายในปี 2560 ขณะที่ 4 เอกชน “LH-CK-NWR-MJD” สนใจเข้าร่วมรับฟังข้อมูล ที่มาข่าวหุ้น
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : -29.65 จุด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,169.68 จุด ลดลง 29.65 จุด หรือ -0.16% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,215.97 จุด ลดลง 34.30 จุด หรือ -0.65% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,133.04 จุด ลดลง 6.39 จุด หรือ -0.30% หลังจากบริษัทจดทะเบียนบางแห่งเปิดเผยผลประกอบการที่ย่ำแย่ รวมถึงฟอร์ด มอเตอร์ และทวิตเตอร์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐปรับตัวลดลง ซึ่งสวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ตลาดน้ำมัน NYMEX : +0.54 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 54 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 49.72 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่า ซาอุดิอาระเบียและประเทศพันธมิตรในอ่าวเปอร์เซียได้ออกมาแสดงความตั้งใจที่จะปรับลดกำลังการผลิตลงถึง 4% นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา
Analyst : วิลาสินี บุญมาสูงทรง
ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์
ชัยยศ จิวางกูร