- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 28 October 2016 16:13
- Hits: 1364
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วานนี้แกว่งระหว่าง 1,490-1,500 จุด ทั้งนี้เกิดแรงเก็งกำไรหนาแน่นในกลุ่มพลังงานช่วงบ่าย นำโดย BANPU หลังราคาถ่านหิน BJI ทำระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี รวมถึง BJC คาดได้เข้าคำนวณ MSCI Thailand รอบนี้ ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX บวก 6.24 จุด มาอยู่ที่ 1,498.36 จุด มูลค่าการซื้อขาย 52,399 ล้านบาท
ทั้งนี้ต่างชาติคงขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 4 อีก 1,383 ล้านบาท Long สุทธิใน SET50 Index Futures อีกครั้ง 6,356 สัญญา แต่กลับขายสุทธิในตาดตราสารหนี้เป็นวันแรกในรอบ 7 วันทำการ 1,878 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ราคาถ่านหิน BJI อินโดนีเซียปิดบวกเป็นสัปดาห์ที่ 9 เท่ากับ US$102.69/ตัน สูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2555
ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ฟื้นตัวเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ
ค่าการกลั่นที่สิงคโปร์บวกเป็นวันที่ 2 อีก 2.5% dod
ปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า
การประชุมธนาคารกลาง BoJ วันที่ 1 พ.ย. / BoE วันที่ 3 พ.ย. และ เฟด วันที่ 2 พ.ย.
ติดตามการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจไทยเดือนต.ค. วันที่ 31 ต.ค.
การประกาศงบการเงิน 3Q59 เช่น LPN / GPSC
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันที่ 24)
ตลาดหุ้นไทยวันสุดท้ายของสัปดาห์ เรายังคงประเมินแกว่งในกรอบแคบเช่นเดียวกับ 3 วันทำการก่อนหน้า ระหว่าง 1,490-1,510 จุด พร้อมลุ้มปิดยืนเหนือ 1,500 จุดอีกครั้ง ผลักดันด้วยกลุ่มพลังงาน ทั้งจากราคาน้ำมันดิบ NYMEX ที่ฟื้นตัวเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ แม้ว่าจะยังไม่กลับไปยืนเหนือ US$50/barrel ก็ตาม
สำหรับปัจจัยสำคัญในสัปดาห์หน้า นักลงทุนอาจให้น้ำหนักกับการประชุมธนาคารกลางหลักทั้ง 3 แห่ง แต่มุมมองของเรากลับประเมินว่าธนาคารกลางทั้ง 3 จะยังไม่ปรับเปลี่ยนนโยบายในช่วงนี้ เพื่อรอดูผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 8 พ.ย. เพื่อประเมินทิศทางนโยบายด้านเศรษฐกิจ การต่างประเทศ และการคลังของว่าที่ประธานาธิบดีท่านใหม่
เราจึงให้น้ำหนักกับรายงานเศรษฐกิจเดือนต.ค.ของไทย เราเชื่อว่ากำลังซื้อภายในประเทศฟื้นตัวเด่นในช่วงครึ่งหลังของเดือน รวมถึงการรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนที่จะมากขึ้นเป็นลำดับ พร้อมประเมินโอกาสปรับประมาณการกำไรขึ้นมีมากน้อยเพียงใด
กลยุทธ์การลงทุน เราแนะนำให้นักลงทุน “เก็งกำไรหุ้นขนาดกลางและเล็ก” ที่มีประเด็นเชิงบวกเฉพาะตัว หรือเก็งกำไรหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ตามทิศทางราคาสินค้าอ้างอิง
Strategy of the Day
1. เก็งกำไร BJC : ราคาปิด 52.75 บาท เป้าหมายทางเทคนิค 55.00 บาท
a) รายงานกำไรสุทธิ 3Q59 ที่ 1,800 ล้านบาท เติบโต +118% yoy และ +302% qoq จากแรงหนุนของอัตราแลกเปลี่ยน 1,354 ล้านบาท ขณะที่กำไรปกติเติบโต +85% yoy เป็น 717 ล้านบาท เนื่องจากเป็นไตรมาสแรกที่รวมธุรกิจของ BIGC เต็มไตรมาส และดอกเบี้ยจ่ายลดลง 13% qoq จากอานิสงค์ของการ Refinance
b) คาดกำไรปกติ 4Q59 จะเติบโตต่อทั้ง yoy & qoq และเป็นระดับสูงสุดของปี เนื่องจากเป็น High Season ของทั้ง BJC และ BIGC และเป็นไตรมาสแรกที่จะได้ประโยชน์เต็มที่จากดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงแบบเต็มไตรมาส
c) มี Catalyst รออยู่ คือการประกาศดัชนี MSCI ในวันที่ 15 พ.ย. โดยคาดว่า BJC มีโอกาสถูกเพิ่มเข้าสู่การคำนวณดัชนีในรอบนี้ ขณะที่กำไรสุทธิปี 2560 คาดเติบโตสูงถึง 85.6% yoy เป็น 6,589 ล้านบาท เติบโตสูงที่สุดในกลุ่มค้าปลีก
2. สะสม PTTGC : ราคาปิด 60.50 บาท ราคาเหมาะสม 72.00 บาท
a) MBKET คาดว่า PTTGC จะเป็นหุ้นตัวเดียวในกลุ่มโรงกลั่นที่กำไรสุทธิจะเติบโตทั้ง yoy และ qoq เป็น 6,266 ล้านบาท +419% yoy และ +27.3% qoq จากการกลับมาเดินเครื่องตามปกติของโรงกลั่น และโรงงานปิโตรเคมี เทียบกับ 2Q59 ที่มีการปิดซ่อมบำรุง
b) PTTGC ได้ประโยชน์สูงสุดเนื่องจากสายการผลิตปิโตรเคมีเป็น Gas Base จะส่งผลให้ Margin เร่งตัวได้ดีกว่าคู่แข่งขันที่เป็น Naphtha Base ในช่วงที่น้ำมันปรับตัวขึ้น ขณะที่ค่าการกลั่นที่เพิ่มขึ้น +14.5% qoq ใน 4Q59 เป็น US$5.85 จะเป็นอีกปัจจัยช่วยหนุนหุ้นโรงกลั่น
c) คาดกำไรสุทธิปี 2559 เติบโต +15.6% yoy เป็น 2.37 หมื่นล้านบาท และต่อเนื่อง +10.5% yoy เป็น 2.61 หมื่นล้านบาท ในปี 2560 ขณะที่ Valuation ค่อนข้างถูกซื้อขาย PBV2560 เพียง 1.07 เท่า และให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดีราว 4.5% ต่อปี
Strategist Team
Mayuree Chowvikran, CISA
Strategist / Analyst
662-6586300 x 1440
Padon Vannarat
Equity Analyst
662-6586300 x 1450
Krittapol Itthithumsakul
Assistant Analyst
Twitter Channel
http://twitter.com/YipNgenYipTong