- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 27 October 2016 16:41
- Hits: 1811
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาด
ผันผวน? ตามตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่เช้านี้ที่เคลื่อนไหวไร้ทิศทาง มีทั้ง + / - แม้จะได้รับปัจจัยบวกจากตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐฯ แต่คาดการซื้อขายเป็นไปอย่างระมัดระวัง คาดอยู่ระหว่างรอการประชุมเฟดในวันที่ 1 – 2/11/59 ซึ่งคาดยังมีความไม่แน่นอนว่าจะมีการพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้หรือไม่? แต่อย่างไรก็ตามตลาดส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าเฟดจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งสุดท้ายของปีนี้ (13 – 14-12/59)
ขณะที่ราคาน้ำมัน ยังถูกกดดันจากความไม่เชื่อมั่นว่ากลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่จะสามารถตกลงกันได้ ในการจำกัดการผลิต เพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมัน โดยโอเปกจะประชุมอีกครั้งในวันที่ 30 พ.ย. ที่ประเทศ ออสเตรีย
ส่วนทางด้านประเด็นในประเทศ คาดน้ำหนักต่อประเด็น Fund Flow กดดันเพิ่มขึ้น หลังต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่ค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าอีกครั้ง อย่างไรก็ตามคาดยังมีแรงเก็งกำไรตัวเลขผลประกอบการ Q3/59 ที่จะทยอยประกาศออกมาตลอดเดือนนี้จนถึงกลางเดือนหน้า พร้อมยังแนะติดตามหุ้นในกลุ่มค้าปลีก รวมถึงหุ้นในกลุ่มวัสดุก่อสร้างที่เน้นลูกค้าระดับล่าง – กลาง เช่น DCC และ DRT เป็นต้น ที่คาดได้รับประโยชน์จากการที่มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่มีรายได้น้อย โดยลดรายจ่าย และเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกร ที่คาดช่วยกระตุ้นการบริโภคในประเทศ
และยังแนะจับตา
(1) กลุ่มปิโตรเคมี ได้รับประโยชน์จากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น เช่น IVL
(2) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น เช่น EPG และ SCC
(3) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มีปัจจัยบวกจากยอดโอนในช่วงที่เหลือของปี 59 ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี เช่น ANAN, AP และ SPALI
(4) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่ได้รับประโยชน์จากงานภาครัฐ เช่น CK, SYNTEC
(5) กลุ่มพลังงาน ในขณะที่หุ้นหลักอย่างเช่น PTT ได้รับประโยชน์จากธุรกิจก๊าซที่แนวโน้มกำไรเติบโตดี ในขณะที่ TOP และ SPRC แนวโน้มผลการดำเนินงานดี ค่าการกลั่นปรับตัวสูงขึ้น ในขณะที่ BANPU ยังได้รับประโยชน์จากราคาถ่านหินที่อยู่ในระดับสูง
(6) กลุ่มค้าปลีก เช่น CPALL, HMPRO, KAMART และ ROBINS ที่คาดได้รับประโยชน์หลังรัฐบาลอัดฉีดกำลังซื้อรากหญ้าอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งจากโครงการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเกษตรกร 3 โครงการวงเงิน 93,000 ล้านบาท
SET SET50
1,492.12 -14.35 938.42 -10.74
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(+/-) ตลาดต่างประเทศ DJIA +30.06, NASDAQ -33.13, S&P -3.73,FTSE -59.55, CAC -6.25 และ DAX -47.63
หลังสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดสดใส (1) ยอดขายบ้านใหม่ – ก.ย.เพิ่มขึ้น 3.1%MoM อยู่ที่ 593,000 ยูนิต ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 9 ปี และ (2) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นของภาคบริการ - ต.ค. อยู่ที่ 54.8 เพิ่มขึ้นจาก 52.3 เมื่อก.ย. โดยเป็นการขยายตัวมากที่สุดนับแต่เดือนพ.ย.’58
แต่การซื้อขายป็นไปอย่างผันผวน ตามผลประกอบการ โดยโบอิ้งเปิดเผยกำไร – 3Q/59 เพิ่มขึ้น 34% พร้อมปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการ และยอดการส่งมอบเครื่องบินตลอดปี’59 ขณะที่แอปเปิล อิงค์ เปิดเผยผลการดำเนินงาน – 3Q/59 มีรายได้ 4.69 หมื่นล้านUSD และกำไรสุทธิ 9 พันล้านUSD ลดลงจาก 5.15 หมื่นล้านUSD และ 1.11 หมื่นล้านUSD จาก 3Q/58
ส่วนทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ได้รับปัจจัยกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงาน ตามราคาน้ำมันที่ปรับลดลง
ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. -US$0.78 อยู่ที่ US$49.18 ต่อบาร์เรล ภายใต้ความกังวลว่าสมาชิกโอเปกอาจจะไม่สามารถตกลงกันได้ในประเด็นการปรับลดกำลังการผลิต หลังอิรัก (ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ของโอเปก) ส่งสัญญาณว่าจะไม่มีส่วนร่วมในข้อตกลงการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปก
อย่างไรก็ตามการปรับลดลงเป็นไปอย่างจำกัด หลัง EIA เปิดเผย สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ล่าสุดลดลง 0.55 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรล
P/E (เท่า) P/BV (เท่า)
21.94 1.9
ที่มา: www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย หน่วย(ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 46,358.16
สถาบัน -1,601.63
บัญชีหลักทรัพย์ 16.75
ต่างประเทศ -1,068.32
ในประเทศ 2,653.19
ราคาทองคำ(COMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. -US$7.0 อยู่ที่US$1,266.6 ต่อออนซ์ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดสดใส ส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ขณะที่การซื้อขายเป็นไปอย่างระมัดระวัง โดยรอการประชุมเฟด ในวันที่ 1 -2 /11/59
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ-1,068 ล้านบาทสะสม YTD +119,219 ล้านบาท(ปี’57 และ58 ยอดขายสุทธิสะสม36,173 ล้านบาทและ 154,346 ล้านบาทตามลำดับ)
ประเด็นที่ต้องติดตาม27-28 ต.ค. 2559
27/10/59สหรัฐฯเปิดเผย
ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ย.
ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย(pending home sales) เดือนก.ย.
28/10/59สหรัฐฯเปิดเผย
ประมาณการครั้งแรกGDP –3Q/59
ดัชนีต้นทุนการจ้างงาน–3Q/59
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนต.ค.
(7) กลุ่มขนส่งในส่วนของธุรกิจการบินและสนามบิน เช่น AAV และBA ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ10 ปี+0.03 อยู่ที่1.79% (ระดับสูงสุด3.77% เมื่อกพ.’54) ดัชนีความเสี่ยง(VIX) +0.78 อยู่ที่14.24
หุ้นแนะนำ: TMT
นักวิเคราะห์: จิตรลดาเลขาพันธ์ โทร .02-684-8788