- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 27 October 2016 16:37
- Hits: 1772
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ 'น้ำมันลดก็หมดแรง'
ตลาดหุ้นไทยวานนี้มีแรงขายออกมาค่อนข้างมากจดหลุดระดับ 1,500 จุดโดยมีแรงขายออกมามากในกลุ่มพลังงาน (-1.3%) ที่ถูกกดดันจากราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลงหลังทางอิรักส่งสัญญาณว่าอาจจะไม่ลดกำลังการผลิตตามที่กลุ่ม OPEC เคยออกมาให้สัมภาษณ์ในการประชุมอย่างไม่เป็นทางการในช่วงที่ผ่านมา รวมกับกลุ่มธนาคาร (-1.4%) ที่มีแรงขายทำกำไรออกมา ด้านการซื้อขายรายกลุ่มนักลงทุนวานนี้นักลงทุนสถาบันกับนักลงทุนต่างประเทศมียอดขายสุทธิรวมกันกว่า 2,600 ล้านบาท ปิดตลาดดัชนีปรับตัวลดลง 14.35 จุด (-1%)มาปิดที่ 1,492.12 จุด ด้วยปริมาณการซื้อขายที่ 46,358.16 ล้านบาท
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(-) วานนี้นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิในหุ้นไทยออกไปอีก 1.1 พันลบ. ทำให้ตลอดเดือน ต.ค. 59 (MTD) ขายสุทธิไปแล้ว 1.33 หมื่นลบ.
(-) ราคาน้ำมันดิบ WTI วานนี้ลดลงไปอีก 1.6%Day มาอยู่ที่ 49.18 US/Barrel แม้ว่าจะมีปัจจัยบวกจากรายงาน Stock น้ำมันดิบสหรัฐประจำสัปดาห์ที่ลดลงไป 5.53 แสนบาร์เรล ต่ำกว่าที่นวค.คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรล หากแต่ความกังวลว่า OPEC อาจจะไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการลดกำลังการผลิตน้ำมันลงได้ เป็นแรงกดดันหลักต่อราคาน้ำมัน
(-) รายงานผลประกอบการ SCC 3Q59 อยู่ที่ 1.4 หมื่นลบ. (+57%YoY) ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ อีกทั้งผู้บริหารฯปรับลดคาดการณ์ยอดขายปี 59 เป็น ลดลง 3-5%YoY จากเดิมคาดทรงตัว YoY
(+) ดัชนี PMI เบื้องต้นภาคบริการสหรัฐประจำเดือน ต.ค. อยู่ที่ 54.8 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 52.3
(+) ยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐ ในเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น 3.1%MoM สู่ระดับ 5.93 แสนยูนิต (เทียบกับที่ตลาดฯคาดไว้ว่าจะลดลง 1%MoM)
(+) ราคาถ่านหิน(Newcastle) แข็งแกร่งมาก ล่าสุดปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 2.5% จากวันก่อนหน้ามาปิดที่ 102.6 US/Tons สูงสุดในรอบ 4 ปี (สร้าง Sentimemt บวกต่อ BANPU, LANNA)
(+) World Bank จัดอันดับไทยเป็นประเทศที่สะดวกในการเข้าไปประกอบธุรกิจประจำปี 60 อยู่ในอันดับ 46 จาก 190 ประเทศทั่วโลก และเป็นอันดับ 3 ในอาเซียน เป็นรองสิงค์โปร์และมาเลเซีย (บวกต่อกลุ่มนิคมฯ)
(+) ตัวเลขส่งออกไทยเดือน ก.ย. ขยายตัว 3.4%YoY สูงสุดในรอบ 2 ปี
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
ประกาศงบ 3Q59 ของบริษัทจดทะเบียน (วันนี้มีรายงานงบ PTTEP คาดกำไร 3Q59 อยู่ที่ 5.7 พันลบ.)
จับตาการเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 8 พ.ย. 59
การประชุม OPEC ในช่วง 30 พ.ย. ณ.กรุงเวียนนา ออสเตรีย
การประชุม FED รอบต่อไปในช่วง 1-2 พ.ย. (ทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐ)
ตัวเลขสำคัญสัปดาห์นี้ GDP 3Q59 ของสหรัฐ (28 ต.ค.), GDP 3Q59 อังกฤษ (27 ต.ค.), ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจยูโรโซนเดือน ต.ค. (28 ต.ค.), ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อญี่ปุ่น และเยอรมัน จะรายงานในวันที่ 28 ต.ค.
กลยุทธ์การลงทุน 'Selective หุ้นรายตัว'
ประเมินดัชนีวันนี้มีโอกาสรีบาวด์ หลังจากวานนี้ปรับตัวลงแรง ทั้งจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง และค่าเงินบาทที่กลับมาอ่อนค่าอีกครั้ง เรามองตลาดจะยังรอการประชุม OPEC ในช่วงปลายสัปดาห์ จึงไม่ได้คาดว่าจะมีการปรับตัวลงรุนแรงต่อเนื่องมองเป็นการแกว่งตัว Side Way มากกว่าที่จะเป็นแนวโน้มลง ยังคงแนะนำ Selective หุ้นรายตัวท่มีปัจจัยเฉพาะเด่น เช่น ผู้ที่ได้ประโยชน์จากราคาถ่านหิน Thermal Coal Newcastle ที่ทะลุ 100$/ตัน ในสัญญาเดือน พ.ย.
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
BANPU เก็งกำไร
ราคาถ่านหิน BJI อยู่ที่ระดับ 102.6 $/ton ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากแรงคาดการณ์การตึงตัวของตลาดถ่านหินจีน
หุ้นบ้านปู เพาเวอร์ (BPP) เตรียมเข้าจดทะเบียนใน SET วันที่ 28 ต.ค.
BDMS เก็งกำไร
เข้าซื้อกิจการทั้งหมดของ เมโยโพลีคลินิก 1,395 ล้านบาท ( คิดเป็น PER 33.77 เท่า และ เงินลงทุน 8.61 ล้านบาท/เตียง)
ลงทุนซื้อที่ดินและอาคารของโรงแรม สวิสโฮเต็ล โครงการปาร์คนายเลิศ เพื่อเข้าสู่ธุรกิจ Wellness Center
คาดผุ้ป่วยจากกลุ่มชาติอาหรับจะกลับมาใช้บริการมากขึ้นหลังราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นส่งเสริมเศรษฐกิจของชาติอาหรับ
ทีมวิเคราะห์