- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 25 October 2016 16:24
- Hits: 3356
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ 'ผลักดันมายืนเหนือ 1,500 จุด'
ตลาดหุ้นไทยวันศุกร์ที่ผ่านมาดัชนีมีแรงซื้อเข้ามาในช่วงท้ายตลาดทำให้ดัชนีสามารถปิดตลาดยืนเหนือระดับ 1,500 จุดได้ โดยมี
แรงซื้อเข้ามาในกลุ่มธุรกิจการเกษตร (+2.8%) รับเหมาก่อสร้าง (+1.8%) กลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ (+1.5) ค้าปลีก (+1.3%) ขนส่ง (+1.2%) ตามลำดับ ขณะที่กลุ่มพลังงานมีแรงขายออกมาเล็กน้อย (-0.2%) ซึ่งนักลงทุนที่มียอดซื้อสุทธิที่หนุนให้ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นได้แก่นักลงทุนสถาบันที่มียอดซื้อสุทธิกว่า 1,336 ล้านบาท ปิดตลาดดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.64 จุด (+0.5%)มาปิดที่ 1,500.37 จุด ด้วยปริมาณการซื้อขายที่ 48,511.96 ล้านบาท
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(-) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิในหุ้นไทยออกไป 547 ลบ. ทำให้ตลอดเดือน ต.ค. 59 ขายสุทธิไปแล้ว 1.16 หมื่นลบ.
(-) ประธาน FED สาขาซานฟรานซิสโก ออกมาสนับสนุนให้ FED ทำการปรับขึ้นดอกเบี้ย หลังพิจารณาว่าเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มดีขึ้น อีกทั้งประธาน FED สาขานิวยอร์ก เปิดเผยว่า FED ใกล้บรรลุเป้าหมายนโยบายทางการเงิน ซึ่งจะนำไปสู่การปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้
(-) ค่าเงินหยวนของจีนมีการอ่อนค่าสุดในรอบ 6 ปี มาแตะระดับ 6.769 หยวน/USD หลังคาดการณ์ว่า FED จะขึ้นดอกเบี้ยทำค่าเงิน USD แข็งค่า
(-) ธปท. คาดสินเชื่อปี 59 จะโตต่ำสุดในรอบ 6 ปี หลัง 8M59 โต 2%YoY
(+) สภาพัฒน์คงเป้า GDP ปี 59 ของไทยโต 3.3-3.5% แม้ 3Q คาดจะโตต่ำกว่า 2Q แต่คาด 4Q จะฟื้นตัวดีขึ้นจากการส่งออก และบริโภคในประเทศ
(+) USD Index ล่าสุด 98.8 (+0.06%Day) แสดงว่าค่าเงิน US แข็งค่าขึ้น
(+) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI) ภาพการผลิตและบริการของยูโรโซน เดือน ต.ค. 59 อยู่ที่ 53.7 เพิ่มขึ้นจากเดือนก.ย.ซึ่งอยู่ที่ 52.6 และทำสถิติสูงสุดรอบ 10 เดือน
(+) ดัชนี DJIA วานนี้บวกไป 64 จุด (+0.4%Day) ผลจากผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่แข็งแกร่งทั้ง T-Mobile และ VF Corp รวมทั้งตัวเลข PMI ภาคการผลิต เดือน ต.ค. ซึ่งออกมาที่ 53.2 แข็งแกร่งกว่าที่คาด
(+/-) ราคาน้ำมันดิบ WTI ยังคงผันผวน โดยเป็นไปตามกระแสข่าวที่ว่าประเทศในกลุ่มโอเปกจะร่วมมือ หรือจะไม่ร่วมมือ ในการปรับลดกำลังการผลิต อย่างไรก็ตามล่าสุดราคาน้ำมันดิบ WTI ยังยืนเหนือ 50 US/Barrel แม้มีข่าวอีรักจะไม่ลดกำลังผลิตน้ำมันตามแผนของที่ประชุม OPEC
(+/-) ราคาถ่านหิน(Newcastle) เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา อ่อนตัวลงไปเล็กน้อย 0.6%day มาอยู่ที่ 96.3 US/Ton แต่ยังคงถือว่าเป็นระดับที่สูงกว่ามากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน (โดย+84%YoY)
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
วันนี้นายกรัฐมนตรีไทย จะมอบกรอบนโยบายงบประมาณปี 61
จับตาการเลือกตั้งสหรัฐฯ ในวันที่ 8 พ.ย. 59
การประชุม OPEC ในช่วง 30 พ.ย. ณ.กรุงเวียนนา ออสเตรีย
การประชุม FED รอบต่อไปในช่วงวันที่ 3 พ.ย. (ทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐ)
ตัวเลขสำคัญสัปดาห์นี้ เหลือจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานสหรัฐฯ
กลยุทธ์การลงทุน'เน้นรายตัว'
เรามองว่าตลาดจะแกว่งตัวบวกต่อ หลังจากทะลุแนวต้านสำคัญ 1,500 จุดมาจากอาทิตย์ก่อน โดยมองว่าตลาดในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ เริ่ม Laggard ตลาดที่พัฒนาแล้ว จะส่งผลให้ให้มีเม็ดเงินจากต่างชาติไหลเข้าเก็งกำไรสั้น เราแนะนำเก็งกำไรกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากราคา Soft Commodity เป็นหลัก โดยเรามองว่ากลุ่มที่ได้ประโยชน์จากน้ำตาลขาขึ้นจะเป็นกลุ่มที่จะที่ปรับตัวขึ้นเด่นกว่าตลาดหลังจากที่ราคาน้ำตลาดทรงตัวในระดับสูงกว่า 20 Cent/Pound และราคาหุ้นยัง Laggard ยังคงแนะนำเก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยเฉพาะรายตัวโดยเน้นกลุ่มที่คาดว่าจะมีผลประกอบการ 3Q59 โดดเด่น
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
KSL เก็งกำไร
ราคาน้ำตาลทรงตัวในระดับสูงที่ราว 22.7 Cent/Pound
เตรียมนำบริษัทลูกขอนแก่นแอลกอฮอลล์ KKA เข้าจดทะเบียนในช่วง 1H60
ราคาเหมาะสมปี 60 ที่ 4.30 บาท/หุ้น อิง PER 14 เท่า
BANPU เก็งกำไร
ตลาดคาดผลประกอบการ 3Q59 เติบโต QoQ โดยได้ปัจจัยหนุนจากสัดส่วนของสินค้ามูลค่าสูงเพิ่มขึ้น
เตรียมเริ่มผลิตแผง Solar Farm ในช่วง 4Q59
ได้ประโยชน์จากแนวโน้มค่าเงินบาทที่จะอ่อนค่าเมื่อเทียบ USD ในช่วงปลายปี
ทีมวิเคราะห์