WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

CIMBบล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)

 

SET Index: ขายต่อเนื่องที่แนวต้าน 1500
  SET Index: 1497.72 ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเข้าใกล้แนวต้าสำคัญของกรอบแนวโน้มขาลงที่ 1500 จุด แต่มูลค่าการซื้อขายยังคงลดลงต่อเนื่อง จึงทำให้การปรับตัวเพิ่มขึ้นยังอยู่ในกรอบจำกัด และยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรที่บริเวณแนวต้านของกรอบแนวโน้มขาลงที่ 1500 จุด โดยมีแนวรับสำคัญในรยะสั้นที่ 1480 จุด ถ้าปรับตัวลดลงต่อเนื่องลงไปเคลื่อนไหวในกรอบแนวโน้มขาลง โครงสร้างในระยะกลางจะมีโอกาสปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1430 จุด โดยมีแนวรับสำคัญ 1410 จุด บริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน
  แนวต้าน : 1498 และ 1500
  แนวรับ : 1492 และ 1490

BEM = 7.50 / 7.70, TRUE = 6.80 / 7.00, BCPG = 13.80 / 14.20, KBANK = 177 / 178, PTT = 354 / 357

Better World Green (BWG TB; THB 2.14) – ซื้อ
  แนวต้าน : 2.30 และ 2.36
  แนวรับ : 2.14 และ 2.10
  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ในขณะที่โครงสร้างในระยะสั้นเริ่มทะลุผ่านแนวโน้มขาลงขึ้นมาได้แล้ว
  MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50
  แนะนำซื้อ BWG โดยมีแนวรับที่ 2.14 และ 2.10 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 2.30 และ 2.36 เป็นจุดขายทำกำไร
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 2.04 ลงไป

Gunkul Engineering (GUNKUL TB; THB 4.80) – ซื้อ
  แนวต้าน : 5.00 และ 5.20
  แนวรับ : 4.80 และ 4.74
  ราคาหุ้นเคลื่อนไหวออกด้านข้างต่อเนื่องในระยะสั้น แต่ปริมาณการซื้อขายเริ่มเพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้แนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลง ทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นมีโอกาสทะลุผ่านขึ้นไปได้
  MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มขึ้น RSI ฟื้นตัวเข้าใกล้แนวต้านที่ระดับ 50
  แนะนำซื้อ GUNKUL โดยมีแนวรับที่ 4.80 และ 4.74 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 5.00 และ 5.20 เป็นจุดขายทำกำไร
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 4.70 ลงไป

SET50 Index Futures
  S50Z16 ปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรหลังจากเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 944 ซึ่งเราแนะนำให้ Open Short เอาไว้ที่ 936 และ 940 เพื่อคาดหวังการปรับตัวลดลไงปทดสอบแนวรับที่ 925 และ 920 โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 950 ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 960
  แนวต้าน : 944 และ 947
  แนวรับ : 940 และ 936
  คำแนะนำ: เราแนะนำให้เน้นการ Open Short ใน S50Z16 ที่แนวต้าน 940-944 เนื่องจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 950 มีกรอบค่อนข้างจำกัด และมีแนวรับที่ 930
  STOP LOSS สถานะ Short ถ้า S50Z16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 950 ขึ้นไป

BEMZ16
  ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทะลุผ่านแนวต้านสำคัญที่ 7.50 ขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 7.80 หลังจากเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิคทะลุผ่านแนวต้านของกรอบแนวโน้มขาลงที่ 7.15 ขึ้นมาได้ ในขณะที่การปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 7.80 มีโอกาสถูกขายทำกำไรออกมานะยะสั้น โดยมีแนวรับที่ 7.40


  แนวต้าน : 7.70 และ 7.80
  แนวรับ : 7.50 และ 7.40
  คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Short ใน BEMZ16 เอาไว้ที่แนวต้าน 7.50 และมีแนวต้านถัดไปที่ 7.80 ในขณะที่แนวรับอยู่ที่บริเวณ 7.40
  STOP LOSS สถานะ Short ใน BEMZ16 ที่บริเวณแนวรับ 7.40-7.50 รอการอ่อนตัว

TRUEZ16X
  ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคไปทดสอบแนวต้านที่ 7.00 หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวโน้มขาลงที่ 6.70 ขึ้นมาได้ แต่การปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 7.00 ขึ้นไป น่าจะมีความเสี่ยงในการถูกขายที่บริเวณ 7.30-7.35 บริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ดังนั้น เราแนะนำให้ Open Short ที่บริเวณ 7.00 และ 7.30
  แนวต้าน : 7.00 และ 7.07
  แนวรับ : 6.80 และ 6.70
  คำแนะนำ: เราแนะนำให้รอ Open Short ใน TRUEZ16X ที่แนวต้าน 7.00 โดยมีแนวรับที่ 6.70 เป็นจุดขายทำกำไร และ Open Short อีกครั้งที่แนวต้าน 7.30-7.34
  STOP LOSS สถานะ Short ถ้า TRUEZ16X ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 7.11 ขึ้นไป

Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)

SET...ขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 1500 จุด

  หลังจากที่เมื่อวานนี้ตลาดปิดบวกเพิ่มขึ้นได้อีก +6.45 จุดหรือ +0.43% โดยมีปริมาณการซื้อขาย 51,215 ล้านบาท โดยมีประเด็นสำคัญคือ นักลงทุนต่างประเทศกลับมาซื้อสุทธิเป็นวันแรก 1,224 ล้านบาท หลังจากที่ขายสุทธิมาติดต่อกัน 7 วันทำการรวม 14,549 ล้านบาท (นับจากต้นเดือนขายสุทธิมา 11,073 ล้านบาท แต่รวมทั้งปียังซื้อสุทธิอยู่ 121,407 ล้านบาท) ในขณะที่กองทุนในประเทศยังคงซื้อสุทธิอยู่ 1,208 ล้านบาท เมื่อวานนี้ ส่งผลให้ 7 วันที่ผ่านมาซื้อสุทธิไปสูงถึง 27,364 ล้านบาท แต่รวมทั้งปียังขายสุทธิอยู่ 29,995 ล้านบาท จากผลดังกล่าวทำให้เราเชื่อว่ากองทุนในประเทศยังมีเม็ดเงินเข้าซื้อหนุนตลาดให้ขึ้นไปยืนเหนือ 1500 จุดได้ เมื่อบวกกับแรงขายสุทธิของนักลงทุนต่างประเทศที่เริ่มชะลอตัวลง ทำให้เราคาดว่าตลาดจะขึ้นทดสอบ 1500 จุดและยืนเหนือได้ภายในสัปดาห์หน้า

  เมื่อวานนี้ราคาถ่านหิน (BJI) ประกาศออกมา +10.44 เหรียญ/ตัน หรือ +12% wow ปิดที่ 94.91 เหรียญ/ตัน ซึ่งเป็นจุดสูงสุดในรอบ 4 ปี 5 เดือนนับจากเดือนพ.ค. 2012 และเป็นการปรับเพิ่มขึ้น +88% นับจากต้นปีนี้ จากการที่ตลาดคาดการณ์ว่ามาตรการควบคุมการผลิตถ่านหินของจีนจะทำให้ supply ลดลง การที่ราคาถ่านหินมีการปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องจะส่งผลบวกต่อราคาขาย รายได้และผลกำไรของผู้ประกอบการเหมืองถ่านหินอย่าง BANPU LANNA ซึ่งหากเราย้อนกลับไปดูเมื่อปี 2012 ตอนที่ราคาถ่านหินอยู่ที่ระดับ 95 เหรียญ/ตัน ราคาหุ้นของ BANPU อยู่ที่ประมาณ 35 บาท (แต่ BANPU มีการเพิ่มทุนจดทะเบียน 2 ต่อ 1 ที่ 5 บาทไปเมื่อเดือนเม.ย ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิด dilution ประมาณ 33% หรือคิดกลับมาเป็นราคาได้ประมาณ 23.50 บาท) และ LANNA อยู่ที่ 17 บาท ดังนั้นเราคาดว่าจะเห็นแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามาในกลุ่มถ่านหินต่อในวันนี้

  หลังจากที่กลุ่มธนาคารเริ่มทยอยประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/59 ออกมา เราจะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่งบออกมามีการเติบโตได้ดี yoy แม้จะมีการชะลอลง qoq บ้างก็ตาม โดยธนาคารที่ประกาศงบออกมาดีกว่าตลาดคาดประกอบด้วย TISCO (ดีกว่าคาด 1.5%), KBANK (ดีกว่าคาด 5%), LHBANK (ดีกว่าคาด 22%), KKP (ดีกว่าคาด 31%) และ KTB (ดีกว่าคาด +16%) ในขณะที่ธนาคารที่ประกาศออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดประกอบด้วย TCAP (-7.3%), SCB (-6.9%), TMB (-7.3%), BBL (-0.3%) อย่างไรก็ตามหลังการประกาศผลการดำเนินงานแล้วส่วนใหญ่จะเห็นแรงขายทำกำไรออกมาเนื่องจากว่า NPL ยังปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและยังไม่ถึงจุดสูงสุดในไตรมาส 3/59 อย่างที่มีการคาดหมายกันก่อนหน้านี้ แต่กลับไปคาดว่า NPL จะขึ้นไปสูงสุดในไตรมาส 1/17 แทน ส่งผลให้มีแนวโน้มว่าธนาคารยังมีภาระ credit cost ที่เพิ่มขึ้นในปีหน้าอยู่ บวกกับแนวโน้มรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยก็มีแนวโน้มหดตัวลงและความกังวลธุรกรรมการเงินจาก fintech ที่สูงขึ้นก็ยังเป็นแรงกดดันต่อราคาหุ้นกลุ่มธนาคารในช่วงนี้

  สำหรับ งบนอกกลุ่มธนาคารที่มีการประกาศออกมาเมื่อวานนี้อย่าง DTAC ก็ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ 4.5% ทำให้คาดว่าจะมีแรงซื้อเก็งกำไรระยะสั้นเข้ามาในวันนี้ได้ ส่วนหุ้นนอกกลุ่มธนาคารที่จะทยอยประกาศผลการดำเนินงานต่อไปในเดือนนี้ได้แก่ DELTA SCCC DCC HMPRO SCC PTTEP STANLY GLOW BH JASIF โดยคาดว่า HMPRO SCC จะมีผลการดำเนินงานออกมาดี ในขณะที่ DELTA PTTEP (กำไรจากการดำเนินงานคาดลดลง แต่กำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากในไตรมาส 3/58 มีการตั้งรายการด้อยค่าสินทรัพย์ไปสูงถึง 49,893 ล้านบาท ส่งผลให้รายงานขาดทุนสุทธิ 46,212 ล้านบาท) คาดจะรายงานผลการดำเนินงานปกติออกมาลดลง yoy


  เมื่อวานนี้ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้จัดการประชุมนโยบายการเงินและที่ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ โดย ECB ยังได้คงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.4% นอกจากนั้นยังคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25% ขณะเดียวกัน ECB ได้ประกาศคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 8 หมื่นล้านยูโร/เดือน ไปจนถึงเดือนมี.ค.2560 และจะมีการขยายช่วงเวลาดังกล่าวออกไปหากมีความจำเป็น ในขณะที่นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ก็ได้ส่งสัญญาณว่า ECB ไม่มีแนวโน้มที่จะยกเลิกมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) โดยที่ไม่ได้ปรับลดขนาดของ QE ลงก่อน ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่ ECB จะขยายระยะเวลาของมาตรการ QE ออกไปอีกภายหลังเดือนมี.ค. 2560


  เราคาดว่าตลาดในวันนี้อาจจะเผชิญแรงขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีหลังจากที่ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง 1.17 ดอลลาร์/บาร์เรลหรือ -2.3% เมื่อคืนนี้ ปิดที่ 50.43 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ก็อาจจะได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคารจากการที่ KTB ประกาศผลประกอบการออกมาดี ในขณะที่ราคาหุ้น KBANK BBL KBANK TMB ที่ปรับลดลงมาก่อนหน้าก็เริ่มกลับมามีราคาที่น่าสนใจและมีแรงซื้อหนุนกลับมา ส่วนหุ้นขนาดใหญ่ใน SET50 ที่ราคาหุ้นยังปรับตัวขึ้นช้ากว่าตลาด (RSI 53.48) หรือ Laggard play อย่าง ADVANC (RSI 44.56) CENTEL (49.81) SCC (47.80) TOP (51.14) TU (45.25) ก็น่าจะเห็นแรงซื้อเก็งกำไรกลับเข้ามาด้วยเช่นกัน วันนี้เราคาดว่าดัชนีมีแนวโน้มจะ sideway up ขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1500 จุด แต่ยังไม่น่าที่จะยืนได้ในสัปดาห์นี้ วันนี้เราให้แนวรับที่ 1480-1485 จุดและแนวต้านที่ 1500-1505 จุด หุ้นแนะนำ ซื้อเก็งกำไร ได้แก่ ADVANC BANPU KTB LANNA

Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)

Morning Market Summary…
  SET ช่วงเช้าปิดที่ 1,497.72 จุด เพิ่มขึ้น 4.99 จุด (+0.33%) มูลค่าการซื้อขาย 22,121.09 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้แก่วงแคบ ด้วยวอลุ่มซื้อขายเบาบาง เนื่องจากใกล้วันหยุดยาว (22-24 ต.ค.) ขณะที่มีแรงขายจากกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันปรับลงเมื่อคืนนี้ BAY รายงานผลประกอบการ 3Q16 มีกำไรสุทธิ 5,829 ล้านบาท (EPS 0.79 บาท) เพิ่มขึ้น 20% YoY และ 11% QoQ (มากกว่าที่ตลาดคาดไว้ 6%) 9M16 ธนาคารมีกำไรสุทธิ 16,248 ล้านบาท (EPS 2.21 บาท) เพิ่มขึ้น 20% YoY โดย Bloomberg consensus ให้ราคาเป้าหมาย 37.32 บาท (Buy/Hold/Sell : 3/7/6)

Afternoon Perspective…
  แนวโน้มตลาดบ่าย แกว่งแคบ ภาพรวมตลาดขาดปัจจัยหนุนที่มีน้ำหนักมากพอมากำหนดทิศทางหลักของ SET Index อย่างไรก็ตามเรามองว่าตลาดมีปัจจัยเสี่ยงเรื่องค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น โดยค่าเงินบาทอ่อนค่าทะลุ 35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐอีกครั้ง กลยุทธ์ระยะสั้นเน้นขายทำกำไรออกในช่วงบริเวณ 1495 - 1500 จุด สำหรับหุ้นใหญ่ และกับมาเน้นเก็งกำไรหุ้นขนาดเล็กกลาง เราแนะนำซื้อ NYT (ราคาเหมาะสม 19.20 บาท) เรามองราคาหุ้นน่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยปัจจัยฟื้นฐานเริ่มฟื้นตัว หลังตัวเลขการส่งออกรถยนต์เดือน ก.ย.ปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 1 ปี และน่าจะดีขึ้นต่อเนื่องไปถึงปีหน้า โดยปัจจัยหนุนจากการยกเลิกการผลิตรถยนต์ของ Ford และ TOYOTA ในออสเตรเลีย และมาใช้ฐานการส่งออกจากโรงงานในประเทศไทยแทน

Technical Pick (PM) ...
  Better World Green (BWG TB; THB 2.14) - ซื้อ
  Gunkul Engineering (GUNKUL TB; THB 4.80) - ซื้อ

Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!