- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 20 October 2016 15:45
- Hits: 2728
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: ขายต่อเนื่องที่แนวต้าน 1500
SET Index: 1494.58 ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทะลุผ่านแนวต้านที่ 1485 จุดขึ้นไปต่อเนื่องในระยะสั้น แต่มูลค่าการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง จึงทำให้การปรับตัวเพิ่มขึ้นยังอยู่ในกรอบจำกัด และยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรที่บริเวณแนวต้านของกรอบแนวโน้มขาลงที่ 1500 จุด โดยมีแนวรับสำคัญในรยะสั้นที่ 1480 จุด ถ้าปรับตัวลดลงต่อเนื่องลงไปเคลื่อนไหวในกรอบแนวโน้มขาลง โครงสร้างในระยะกลางจะมีโอกาสปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1430 จุด โดยมีแนวรับสำคัญ 1410 จุด บริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน
แนวต้าน : 1495 และ 1498
แนวรับ : 1490 และ 1486
KBANK = 175 / 178, BEM = 7.25 / 7.40, PTTEP = 84.00 / 85.00, PTT = 356 / 362, BCPG = 13.80 / 14.20
Samart Corporation (SAMART TB; THB 14.00) – ซื้อ
แนวต้าน : 14.80 และ 15.60 / แนวต้านสำคัญ 16.00
แนวรับ : 14.00 และ 13.80
ราคาหุ้นเคลื่อนไหวออกด้านข้างเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 10 และ 20 วัน หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบจุดต่ำสุดเดิมแล้วสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้ ล่าสุด ราคาหุ้นเริ่มมีสัญญาณทะลุผ่านแนวโน้มขาลงในระยะสั้นขึ้นมาได้แล้ว
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มขึ้น RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 50
แนะนำซื้อ SAMART โดยมีแนวรับที่ 14.00 และ 13.80 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 14.80 และ 15.60 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 13.60 ลงไป
Mono Technology (MONO TB; THB 2.78) – ซื้อ
แนวต้าน : 2.96 และ 3.10
แนวรับ : 2.78 และ 2.72
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังจากฟื้นตัวกลับขึ้นมาเคลื่อนไหวเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ในขณะที่การปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาลงมีปริมาณการซื้อขายที่ค่อนข้างเบาบาง ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสฟื้นตัวต่อเนือ่ง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มขึ้น RSI ฟื้นตัวเข้าใกล้แนวต้านที่ระดับ 50
แนะนำซื้อ MONO โดยมีแนวรับที่ 2.78 และ 2.72 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 2.96 และ 3.10 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 2.68 ลงไป
SET50 Index Futures
S50Z16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้แนวต้านที่ 950 ซึ่งเป็นแนวต้านของกรอบแนวโน้มขาลงหลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างจากแรงขายทำกำไรที่บริเวณ 940 ซึ่งเราแนะนำให้ Open Short ที่บริเวณ 940 เนื่องจากโครงสร้างการเคลื่อนไหวยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 910 และมีแนวต้านสำคัญที่ 950
แนวต้าน : 944 และ 947
แนวรับ : 936 และ 934
คำแนะนำ: เราแนะนำให้เน้นการ Open Short ใน S50Z16 ที่แนวต้าน 940-944 เนื่องจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 950 มีกรอบค่อนข้างจำกัด และมีแนวรับที่ 928
STOP LOSS สถานะ Short ถ้า S50Z16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 950 ขึ้นไป
BEMZ16
ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวโน้มขาลงที่ 7.15 ขึ้นมาได้แล้ว หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับสำคัญของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 7.50 แต่ถ้าปรับตัวลดลงมาปิดต่ำกว่าระดับ 7.10 ลงไป จะเป็นสัญญาณขายทางเทคนิค
แนวต้าน : 7.40 และ 7.50
แนวรับ : 7.20 และ 7.15
คำแนะนำ: เราแนะนำให้รอ Open Short ใน BEMZ16 ถ้าปรับตัวลดลงหลุดระดับ 7.10 ลงไป ในขณะที่การปรับตัวเพิ่มขึ้นในระยะสั้นมีแนวต้านถัดไปที่ 7.50
STOP LOSS สถานะ Short ใน BEMZ16 ออกไปก่อน หลังจากทะลุผ่าน 7.20 ขึ้นไป
IRPCZ16
เคลื่อนไหวในกรอบแคบเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 4.80 ในขณะที่โครงสร้างการกำลังฟอร์มตัวในรูปแบบสามเหลี่ยม โดยมีแนวรับที่ 4.80 และมีแนวต้านที่ 5.15 ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะเป็นสัญญาณในการกลับเข้าไป Open Long หรือ Open Short ถ้าปรับตัวลดลงหลุด 4.74 ลงไป
แนวต้าน : 4.96 และ 5.00
แนวรับ : 4.80 และ 4.74
คำแนะนำ: เราแนะนำให้รอ Open Short ใน IRPCZ16 ที่แนวต้าน 5.00 โดยมีแนวรับที่ 4.80 เป็นจุดขายทำกำไร หรือ Open Short เมื่อหลุด 4.74 ลงไป
STOP LOSS สถานะ Short ถ้า IRPCZ16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 5.15 ขึ้นไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...แกว่งทั้งแดนบวกและลบ
นับตั้งแต่เกิดความผันผวนในวันที่ 13 ถึงปัจจุบัน ดัชนีหุ้น 3 กลุ่มที่ยังถูกกดดันจากแรงขาย คือ ธนาคารพาณิชย์ (จากงบ Q3/16 ที่กำลังทยอยประกาศออกมาต่ำกว่าคาด) 2 ค้าปลีก (ความกังวลการชะลอตัวของกำลังซื้อ) และ 3. โรงแรม (ความกังวลจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงปลายปีจะลดลง) อย่างไรก็ตามดัชนีหุ้นทั้ง 3 กลุ่มยังปรับตัวขึ้นมาอยู่ในแดนบวกแต่น้อยกว่ากลุ่มอื่นๆ ส่วนกลุ่มที่โดดเด่นมากๆ คือหุ้นเล็กในตลาด MAI ไฟแนนซ์ ประกัน อสังหาริมทรัพย์และขนส่ง
ส่วนหุ้นใน SET 50 ที่ยังติดลบมีแค่ 3 บริษัทซึ่งเป็นบริษัทเกรด เอ ทั้งหมด คือ KBANK EGCO TU เรามองว่าแรงขายหุ้นในกลุ่มเหล่านี้ หากยังมีอยู่ก็ใกล้ๆ จะหมด เพียงแต่นักลงทุนอาจยังรอดูการประกาศงบ Q3 ส่วนหุ้นพลังงานที่ยังขึ้นได้น้อยคือ TOP และ IRPC สำหรับแรงขายหุ้นในกลุ่มที่โตจากภายใน อาจจะยังมีต่อ จนกว่างบของกลุ่มเหล่านี้จะออก โดยหุ้นใน SET 50 ที่ขึ้นได้แรงนับตั้งแต่วันที่ 13 ถึงปัจจุบน คือ SAWAD IVL ROBINS และ BANPU
สถานการณ์ในต่างประเทศ ยังดำเนินไปด้วยดี คือ ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐและราคาน้ำมัน ปรับตัวขึ้น โดยดัชนีดาวโจนส์เมื่อคืนนี้ได้รับแรงหนุนจากผลการดำเนินงานของหุ้นกลุ่มธนาคาร โดยหลังจากที่บริษัทต่างๆ เริ่มทยอยประกาศงบ Q3/16 ปรากฏว่าตอนนี้อัตราการทำกำไรของหุ้นใน S&P 500 ใน Q3/16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 0.5% จากก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะติดลบ 0.5% ส่วนราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนจากการรายงานสต๊อกน้ำมันดิบในสหรัฐปรับตัวลงถึง 5.2 ล้านบารเรล์ ส่งผลให้ราคาน้ำมันทรงตัวเหนือ 50 ดอลลาร์/บาร์เรล
ประเด็นในต่างประเทศที่ต้องจับตาดูในวันนี้ คือ 1. การประชุม ECB ที่ตลาดคาดว่าที่ประชุมจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่เดิมและคงการซื้อพันธบัตรอยู่ที่ 80 พันล้านยูโรต่อเดือน และ 2. การดีเบตระหว่างนาย Donald Trump กับนาง Hillary Clinton ครั้งที่ 3 และเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะมีการเลือกตั้งโดยทั้ง 2 ประเด็นนี้ ผลน่าจะอยู่ในความคาดหมายของตลาด
วันนี้คาดทิศทางดัชนี SET น่าจะยังได้รับผลเชิงบวกจากดัชนีตลาดหุ้นในต่างประเทศและราคาน้ำมัน แต่คาดยังคงเผชิญกับแรงขายของนักลงทุนต่างประเทศต่อไปอีก ซึ่งจะส่งผลให้ดัชนี SET กลับมาทรงๆตัวหรือซึมลง จนกว่างบ Q3/16 จะทยอยประกาศออมาอีก โดยมองทิศทางดัชนีในวันนี้จะแกว่งทั้งแดนบวกและลบ จากแรงซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมีและแรงขายหุ้นที่โตจากภายในประเทศ โดยวันนี้มองแนวต้านที่ 1492-1496 จุดและแนวรับที่ 1480-1475 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร TU IRPC TOP และ ESSO
nalysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ 1,494.58 จุด เพิ่มขึ้น 8.30 จุด (+0.56) มูลค่าการซื้อขาย 23,668.43 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้น แต่มีแรงขายทำกำไรใกล้บริเวณ 1500 จุด ตลาดมีแรงหนุนจากตลาดต่างประเทศที่ส่วนใหญ่แกว่งบวก ตามราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นกว่า 2% เมื่อคืน หลัง EIA เผยสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯปรับลงในสัปดาห์ที่แล้ว ส่งผลให้นักลงทุนคลายกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดบ่าย ลดช่วงบวกลง ภาพรวมตลาดขาดปัจจัยหนุนที่มีน้ำหนักมากพอมากำหนดทิศทางหลักของ SET Index โดยมองว่าราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นยังไม่มีน้ำหนักมากพอที่จะผลักดัน SET โดยรวม เรามองว่าเป็นแค่จังหวะเล่นรอบเก็งกำไร โดยปัจจัยที่ต้องติดตามในช่วงนี้คือแรงขายของนักลงทุนต่างชาติที่ขายติดต่อกัน 4 วันทำการ ซึ่งแรงขายดังกล่าวไม่ได้สัมพันธ์กับทิศทางอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงที่ผ่าน คือขายตลอดไม่ว่าบาทอ่อนหรือบาทแข็ง ลักษณะนี้เป็นสัญญาณเตือนว่าต่างชาติอาจจะทยอยลดพอร์ตออกจากตลาดหุ้นไทย ซึ่งหากดูจากแนวโน้มที่เฟดอาจจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค.นี้ ก็เป็นไปได้สูงที่ต่างชาติจะทยอยขายหุ้นไทยตั้งแต่เดือน ต.ค.- พ.ย. กลยุทธ์ระยะสั้นเน้นขายทำกำไรออกในช่วงบริเวณ 1495 - 1500 จุด
Technical Pick (PM) & Cash Balance...
Samart Corporation (SAMART TB; THB 14.00) - ซื้อ
Mono Technology (MONO TB; THB 2.78) - ซื้อ
Cash Balance Preview : คาดหลักทรัพย์ที่มีโอกาสจะติด Cash Balance สัปดาห์หน้า : AJD* , COM7*, EKH*, NETBAY*, YUASA* (* ดูรายละเอียดของเงื่อนไขในบทวิเคราะห์ และกรณีหุ้นแม่ติด ฯ Warrant ทุกตัวของหุ้นนั้นจะติดตามด้วย)
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]