- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 19 October 2016 22:07
- Hits: 5712
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาด
ยังมีความผันผวน? ภายใต้น้ำหนักจาก Fund Flow ที่คาดอาจเริ่มถูกดดันมากขึ้น หลังมีแรงขายสุทธิต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา และล่าสุดสูงกว่า 2,300 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตาม YTD ยอดซื้อสุทธิสะสมยังอยู่ในระดับสูงกว่า 122,000 ล้านบาท ขณะที่ยังแนะติดตามค่าเงินบาทซึ่งมีความผันผวนเช่นกัน ล่าสุดเช้านี้เคลื่อนไหวบริเวณ 34.91 - 34.93 บาท จากวันก่อนหน้าที่ 35.01 บาท แข็งค่าขึ้น โดยเป็นไปในทิศทางเดียวกับภูมิภาคส่วนใหญ่
ส่วนทางด้านปัจจัยต่างประเทศ Sentiment เป็นบวก จากตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐฯ ที่คาดมีความแข็งแกร่งเพียงพอต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด อย่างไรก็ตามคาดยังมีความไม่แน่นอน และคาดสร้างความผันผวนให้ภาพรวมตลาดฯ (1) การพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งจากรายงานการประชุมของเฟด สะท้อนว่ามีโอกาสสูงที่จะขึ้นดอกเบี้ยใน ธ.ค. และ (2) ราคาน้ำมัน ที่คาดมีความผันผวน ภายใต้ความไม่มั่นใจว่ากลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ จะสามารถลดปริมาณผลิตลง เพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมัน ซึ่งตัวเลขการผลิตของกลุ่ม OPEC ล่าสุดเมื่อเดือน ก.ย. ยังอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 8 ปี
ขณะที่คาดอาจได้รับปัจจัยหนุนเข้ามาบ้างจากประเด็นในประเทศ (1) อยู่ในช่วงของการประกาศผลการดำเนินงาน – 3Q/59 ที่คาดมีแรงเก็งกำไรต่อเนื่องถึงกลาง พ.ย. และ (2) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากภาครัฐ คาดเน้นภาคบริการ เช่น กลุ่มโรงแรม รวมถึงกระตุ้นการลงทุนจากภาคเอกชน
นอกจากนี้แนะติดตามหุ้นในกลุ่มค้าปลีก รวมถึงหุ้นในกลุ่มวัสดุก่อสร้างที่เน้นลูกค้าระดับล่าง – กลาง เช่น DCC และ DRT เป็นต้น ที่คาดได้รับประโยชน์จากการที่มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่มีรายได้น้อย โดยลดรายจ่าย และเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกร ที่คาดช่วยกระตุ้นการบริโภคในประเทศ
และยังแนะจับตา
(1) กลุ่มปิโตรเคมี ได้รับประโยชน์จากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น เช่น IVL
(2) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น เช่น EPG และ SCC
(3) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มีปัจจัยบวกจากยอดโอนในช่วงที่เหลือของปี 59 ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี เช่น ANAN, AP และ SPALI
(4) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่ได้รับประโยชน์จากงานภาครัฐ เช่น CK, SYNTEC
(5) กลุ่มพลังงาน ในขณะที่หุ้นหลักอย่างเช่น PTT ได้รับประโยชน์จากธุรกิจก๊าซที่แนวโน้มกำไรเติบโตดี ในขณะที่ TOP และ SPRC แนวโน้มผลการดำเนินงานดี ค่าการกลั่นปรับตัวสูงขึ้น
SET SET50 SET100
1,477.54 +0.20 937.67 -2.09 2,100.78 -3.66
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(+) ตลาดต่างประเทศ DJIA +75.54, NASDAQ +44.01, S&P +13.10, FTSE +52.51, CAC +58.68 และ DAX +127.98
ภายใต้ปัจจัยบวก (1) ผลประกอบการที่แข็งแกร่งและดีกว่าคาด เช่น โกลด์แมน แซคส์ รวมถึง แบล็คร็อค ซึ่งเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ใหญ่สุดในโลก และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตสินค้าเกี่ยวกับการรักษาสุขภาพใหญ่สุดในโลก (2) ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับขึ้นไปเหนือระดับ 50 USD/บาร์เรล และ (3) มุมมองที่เป็นบวกว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดแข็งแกร่ง เช่น ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) - ก.ย. เพิ่มขึ้น 0.3% MoM หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อส.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้าน – ต.ค. อยู่ที่ระดับ 63 สอดคล้องกับคาดการณ์
ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน พ.ย. +US$0.35 อยู่ที่ US$50.29
ต่อบาร์เรล หลังเลขาธิการกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ให้คำมั่นว่าจะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันในการประชุมเดือนพ.ย. (30/11/59) โดยการประชุมโอเปกนอกรอบเมื่อ 28/9/59 มีมติปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลง
สู่ระดับ 32.5-33.0 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากปัจจุบันที่ระดับ 33.24 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่จะมีการกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับโควตาของแต่ละประเทศอีกครั้งในการประชุมโอเปกในวันที่ 30 พ.ย.
P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
21.69 1.89 3.2
ที่มา: www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย หน่วย(ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 57,714.29
สถาบัน -395.06
บัญชีหลักทรัพย์ 448.92
ต่างประเทศ -2,366.21
ในประเทศ 2,312.35
ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. +US$6.3 อยู่ที่ US$1,262.9 ต่อออนซ์ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากเงินสหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง และตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ข้างต้น สอดคล้องกับการคาดการณ์
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -2,366 ล้านบาท สะสม YTD +122,742 ล้านบาท (ปี’57 และ 58 ยอดขายสุทธิสะสม 36,173 ล้านบาท และ 154,346 ล้านบาท ตามลำดับ)
ประเด็นที่ต้องติดตาม 19 - 21 ต.ค. 2559
19/10/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.ย.
สต็อกน้ำมัน
20/10/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
ผลสำรวจดัชนีกิจกรรมการผลิตเขตมิด-แอตแลนติกเดือนต.ค.
ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ย.
ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนก.ย.
ประชุม ECB
21/10/59 : ไม่มีเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ
(6) กลุ่มค้าปลีก เช่น CPALL, HMPRO, KAMART และ ROBINS ที่คาดได้รับประโยชน์หลังรัฐบาลอัดฉีดกำลังซื้อรากหญ้าอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งจากโครงการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเกษตรกร 3 โครงการวงเงิน 93,000 ล้านบาท
(7) กลุ่มท่องเที่ยว เช่น โรงแรม (MINT) ที่คาดได้รับประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี’59 ที่คาด อยู่ที่ 33 ล้านคน เพิ่มจากประมาณการเดิมที่ 32.5 ล้านคน และคาดรายได้จากการท่องเที่ยว 1.69 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.6% ในขณะที่ประเด็นทัวร์ศูนย์เหรียญคาดว่าจะเป็นเพียงผลกระทบระยะสั้น
(8) กลุ่มขนส่ง ในส่วนของธุรกิจการบินและสนามบิน เช่น AAV, AOT และ BAผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.02 อยู่ที่ 1.75% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54)
ดัชนีความเสี่ยง (VIX) -0.93 อยู่ที่ 15.28
หุ้นแนะนำ : CK
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ โทร .02-684-8788