WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Asiawealthบล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook

 

เวลาที่ปัจจัยพื้นฐานกำหนดทิศทางตลาดมาแล้ว ?

          คาดหุ้นไทยเดินหน้าวันนี้จากหุ้นสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นหลังจากรายงานผลประกอบการแข็งแกร่งจากหลายบริษัท ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะนำพาให้ผลประกอบการไตรมาส 3/16 พ้นจากภาวะกำไรถดถอยเป็นครั้งแรก ซึ่งสำคัญมากต่อมูลค่าหุ้นสหรัฐซึ่งขึ้นไปล่วงหน้าก่อนแล้ว จุดสนใจหลักวันนี้คือ การประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 3/16 ของจีน ที่ตลาดคาดไว้ที่ 6.7% ผลักดันโดยมาตรการกระตุ้นของรัฐบาล และราคาอสังหาริมทรัพย์ที่สูงขึ้นตลาดจะผิดหวังถ้าตัวเลข ออกมาต่ำกว่าที่คาด ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงาน ปัจจัยภายในประเทศวันนี้ไม่ค่อยสำคัญเท่าใด

หุ้นเด่นวันนี้ : TPIPL (ราคาปิด 2.20 บาท; NR; ราคาเป้าหมาย Bloomberg 2.83 บาท)

          แนวโน้มผลการดำเนินงานของบมจ.ทีพีไอ โพลีนคาดว่าจะสดใสอย่างมากที่จะเริ่มเห็นได้ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป หลักๆ มาจากแรงขับเคลื่อนของธุรกิจโรงไฟฟ้าผ่านบริษัทย่อย TPl Polene Power (TPlPP) ที่มีกำหนดเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในช่วงปลายปีนี้เพื่อระดมทุนขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าของกลุ่ม TPlPL เพิ่มขึ้นอีก 290 เมกะวัตต์ จากระดับปัจจุบันที่ 150 เมกะวัตต์ (ผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แล้ว 60 เมกะวัตต์ + มีกำหนดผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ในช่วงต้นปีหน้า 90 เมกะวัตต์) ซึ่งจะขับเคลื่อนกำไรของ TPlPL ในระยะยาวตามกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น โดยกำไรสุทธิปีนี้แม้คาดว่าจะทำได้เพียงทรงตัว YoY ที่ 343 ลบ. (อิง Bloomberg consensus) แต่จะปรับตัวสูงขึ้นโดดเด่นในปีหน้าถึง 419% YoY มาอยู่ที่ 1.78 พันลบ. จากการเริ่มผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ของโครงการโรงไฟฟ้าขยะ 90 เมกะวัตต์ที่มีกำหนดในช่วง 1Q60 ก่อนที่จะปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องอีก 64% YoY ในปี 2561 มาอยู่ที่ 2.92 พันลบ. จากการทยอยผลิตไฟฟ้าของโครงการในมือที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ขณะที่เรามองการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานของธุรกิจปูนซีเมนต์ว่าเป็น Upside ที่สำคัญต่อแนวโน้มกำไรสุทธิของ TPlPL เพิ่มเติมไปจากผลการดำเนินงานของธุรกิจโรงไฟฟ้า ในส่วนของ Price Pattern ของ TPlPL แม้ว่าในระยะสั้นยังคงเกิด Daily Sell Signal ก็ตาม แต่ในระยะสั้น Price Pattern ของ TPlPL ที่ผ่านมานั้นมีเพียงการเปิด Falling Gap อยู่ที่ 2.44 บาท และไม่มีการเปิด Rising Gap แต่อย่างใด โดยการแกว่งตัวของ TPlPL ที่ผ่านมาได้ทำให้จุด Daily Buy Signal ครั้งใหม่เกิดการขยับตัวลงมาอยู่ที่ 2.30 บาท ดังนั้นหาก Price Pattern ของ TPlPL สามารถเกิดการ Rebound และปิดตลาดเหนือ 2.30 บาทได้ ก็จะทำให้กลับมาเกิด Daily Buy Signal ครั้งใหม่ และจะทำให้การเปิด Falling Gap ที่ผ่านมานั้นกลายเป็นเรื่องผิดปกติที่จะต้องได้รับการปิดในที่สุด ดังนั้นจึงแนะนำเก็บ TPlPL โดยมีเป้าหมายระยะสั้นเพื่อไปปิด Falling Gap อยู่ที่ 2.44 บาท (แนวต้าน: 2.22, 2.26, 2.30; แนวรับ: 2.18, 2.16, 2.12)

 

ปัจจัยสำคัญ

ประเด็นในประเทศ :

      สรุปชัดเวลาการสืบราชสันตติวงศ์ นายกฯ ประยุทธ์กล่าวว่าหลังประชุม ครม.วานนี้ รัฐบาลจะเดินเรื่องการสืบราชสันตติวงศ์ว่าจะเกิดขึ้นภายหลังผ่านพิธีบำเพ็ญพระราชกุศล 15 วันแรกของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช หรือหลัง 27 ต.ค. นายกฯ ย้ำเรื่องการสืบสันตติวงศ์จะเป็นไปตามรัฐธรรมนูญและกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พ.ศ. 2467 (Bangkok Post)

      ครม.เห็นชอบแก้ไขประมวลรัษฎากร กำหนดให้ใช้ฐานคำนวณภาษีเงินได้จากการโอนอสังหาริมทรัพย์ใหม่ โดยเก็บภาษีเงินได้จากฐานราคาซื้อขายจริง หรือราคาประเมิน ราคาไหนสูงกว่ากันก็ใช้ราคานั้น หลังพบคนซื้อคนขายเลี่ยภาษีกันมาก (ข่าวหุ้น) ความเห็น: อาจส่งผลกระทบต่อต้นทุนค่าที่ดินของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์บ้างแต่ไม่มีนัยยะสำคัญ

       มาตรการช่วยราคาหัวมันสำปะหลัง รัฐบาลออกมาตรการใหม่เพื่อตั้งราคาขั้นต่ำสำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังเพื่อผลักดันราคาสำหรับปีฤดูกาล 59-60 เริ่ม พ.ย.นี้ ราคาส่งออก FOB แป้งมันสำปะหลังจะตั้งขั้นต่ำไว้ที่ 320 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน มันสำปะหลังเส้นจะตั้งขั้นต่ำที่ 180 ดอลลาร์ต่อตัน โดยมาตรการนี้จะเริ่มใช้ตั้งแต่ พ.ย.นี้ถึง เม.ย. 60 (Bangkok Post)

 

ต่างประเทศ

       อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวลงเมื่อวันอังคาร เนื่องจากมีโอกาสที่รัฐสภาอังกฤษอาจต้องรับรองการออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ ซึ่งลดความคาดหวังว่าอังกฤษจะสูญเสียการเข้าถึงตลาดรวมภายในอียู (Single Market) ราคาพันธบัตรอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 4/32 อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ระดับ 1.750% ลดลง 1.6 bps และไม่ห่างจากระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนที่ 1.841% เมื่อวันจันทร์ (Reuters)

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเล็กน้อยเมื่อวันอังคาร ติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เนื่องจากนักลงทุนได้เทขายทำกำไรบางส่วนจากการแข็งค่าของดอลลาร์ในช่วงที่ผ่านมาและกำลังประเมินว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้หรือไม่ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ล่าสุดไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ที่ระดับ 97.890 ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าขึ้น 0.92% เทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2294 ดอลลาร์สหรัฐ (Reuters)

 

สหรัฐ :

       ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกเมื่อวันอังคาร ได้แรงหนุนจากรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของกลุ่มธุรกิจดูแลสุขภาพและธนาคารขนาดใหญ่บางแห่งซึ่งน่าจะทำให้กำไรรวมของบริษัทต่าง ๆ ดีขึ้นหลังจากที่ลดลง 4 ไตรมาส ราคาหุ้น ปรับตัวขึ้นโดยหุ้นในกลุ่มหลัก ๆ ที่ใช้ในการคำนวณดัชนี S&P500 ทั้ง 11 กลุ่มต่างอยู่ในแดนบวก นำโดยกลุ่มธุรกิจสุขภาพที่ปรับตัวขึ้น 1.1% (Reuters)

กำไรสุทธิของบริษัทที่อยู่ในการคำนวณดัชนี S&P500 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากบริษัทจำนวน 52 บริษัทที่ได้รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/59 มี 81% ที่มีกำไรสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ จากข้อมูลของ Thomson Reuters l/B/E/S   ขณะนี้มีการคาดว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 3 จะเติบโต 0.2% ซึ่งแสดงถึงการสิ้นสุดของยุคการตกต่ำของกำไรของบริษัทในสหรัฐซึ่งเริ่มขึ้นในไตรมาส 3/58 หากกำไรในไตรมาสนี้เป็นไปตามคาด จะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ไตรมาส 4/57 ซึ่งทั้งกำไรและรายได้ของบริษัทที่ใช้ในการคำนวณดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น (Reuters)

         ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ครอบคลุมมากที่สุดปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนก.ย. สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPl) ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน ขยับขึ้น 0.1% MoM ในเดือนก.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% จากฐานคิดเป็นรายปี Headline CPl ปรับตัวขึ้น 1.5% YoY และ Core CPl เพิ่มขึ้น 2.2% YoY ในเดือนก.ย. เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 1.5% และ 2.3% ตามลำดับ (Reuters)

     ความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านลดลงในเดือนต.ค. สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) รายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านลดลงอยู่ที่ระดับ 63 ในเดือนต.ค. จากที่ระดับ 65 ในเดือนก.ย. เป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าดัชนีดังกล่าวจะอยู่ที่ระดับ 63 (NAHB)

 

ยุโรป :

        หุ้นยุโรปดีดกลับวันอังคาร นำโดยหุ้นเหมืองแร่และธนาคาร ขณะที่ Burberry ร่วงเพราะกำไรที่ประกาศออกมา หุ้นน้ำมันและก๊าซบวกเพราะความเห็นจากนักวิเคราะห์บางรายว่าตลาดไม่น่าจะมีอุปทานล้นเกินมากเท่าที่คิดกัน . Bank of America-Merrill Lynch ปรับอันดับธนาคารในภูมิภาคขึ้นเป็น "น้ำหนักมากกว่าตลาด" เพราะเริ่มกลับมาเห็นแสงสว่าง โดยมีความคืบหน้าในการปรับปรุงโครงสร้างของอิตาลีและการปรับตัวของผลตอบแทนพันธบัตรทั่วโลก (Reuters)

เอเชีย :

มูดี้ส์เห็นว่าธนาคารญี่ปุ่นได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยจากนโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ (NIRP) ผลกระทบมากที่สุดต่อความสามารถในการทำกำไรจาก NlRP คือส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของธนาคารญี่ปุ่นในภูมิภาคนี้  (Reuters)

การเจริญเติบโตของ GDP ประเทศจีนในไตรมาส 3/59 ยังมั่นคง: สาเหตุมาจากการใช้จ่ายของรัฐบาลและความตื่นตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์  การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนมีแนวโน้มทรงตัวที่ 6.7% ในไตรมาส 3/59 แต่การลงทุนภาคเอกชนปรับลง ภาระหนี้เพิ่มขึ้น และความเสี่ยงการฟุบลงของอสังหาริมทรัพย์ ทำให้รัฐบาลและนักลงทุนทั่วโลกวิตกกังวล   ข้อมูลในวันนี้คาดว่าจะทำให้เห็นภาพของเศรษฐกิจจีนมีเสถียรภาพแต่โตช้าลง ซึ่งจะขึ้นอยู่กับการเติบโตของการใช้จ่ายของรัฐบาลและความเฟื่องฟูของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์  ในขณะที่การส่งออกยังคงอ่อนแอ (Reuters)

สินค้าโภคภัณฑ์ :

โอเปกควรจะสามารถบรรลุข้อตกลงในเดือนถัดไปในการจำกัดผลผลิตน้ำมัน โดยไม่ต้องมีข้อยกเว้นมากเกินไปสำหรับแต่ละประเทศและไม่มีความขัดแย้งมากเกินไปสำหรับระดับผลผลิต  Mohammed Barkindo เลขาธิการของกลุ่มผู้ผลิตโอเปกกล่าวในวันอังคารที่ผ่านมา(Reuters)

น้ำมันปรับตัวสูงขึ้นในวันอังคาร ตามความคาดหวังของโอเปกจากการตัดผลผลิตลง ทำให้ราคาสูงขึ้น ทั้งที่ข้อมูลแสดงถึงคาดการณ์ว่ามีการเพิ่มสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ เป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน น้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวขึ้น 16 เซนต์ (+0.3%) มาอยู่ที่ 51.68 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น 35 เซนต์ (+ 0.7%) ปิดที่ 50.29 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล (Reuters)

ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในวันอังคาร โดยได้แรงหนุนจากความอ่อนแอของ US dollar index แม้คลายความกังวลผลของการเลือกตั้งสหรัฐฯ ไปบ้าง และยังกังวลกับความคาดหวังเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในเดือน ธ.ค.อาจทำให้ราคาทองคำอ่อนแอลง ราคาสปอตเพิ่มขึ้น 0.6% อยู่ที่ 1,262.84 เหรียญสหรัฐฯ ต่อออนซ์ โกลด์ฟิวเจอร์สหรัฐฯ ปรับขึ้น 0.50% อยู่ที่  1,262.90 เหรียญสหรัฐฯ ต่อออนซ์ (Reuters)

Thailand Research Department

          Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923)              TeI: 02 680 5041

          Mr. Krit SuwanpibuI (No.17968)                  TeI: 02 680 5090

          Mrs. VajiraIux SangIerdsiIIapachai (No. 17385)  TeI: 02 680 5077

          Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737)               TeI: 02 680 5056

          Mr. Napat Siworapongpun (No.49234)              TeI: 02 680 5094

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!