- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 18 October 2016 18:00
- Hits: 7309
บล.บัวหลวง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
รอบด้านตลาดหุ้น
Sideways up
วันนี้คาด Sideways up กรอบวันนี้ 1,470-1,485/1,490 จุด วันนี้คาดตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ และตัวเลขบ้านชะลอลง คาดหนุน Sentiment ตลาดต่อคาดการณ์ทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯที่ยังทรงตัวในระดับต่ำ
สัปดาห์นี้ : คาดกรอบการเคลื่อนไหวดัชนีฯ 1,470-1,495 จุด จากแรงซื้อกลับคืนของกองทุนในประเทศ 1.36 หมื่นล้านบาทเมื่อวานศุกร์ที่ผ่านมา เราคาดยังคงหนุนดัชนีฯให้ปรับขึ้นต่อในระยะสั้น
ด้านตัวเลขเศรษฐกิจสัปดาห์นี้ คาดมีอิทธิพลเชิงบวกหนุนหุ้นไทย: (1) เงินเฟ้อสหรัฐฯคาด ชะลอต่อเนื่อง +0.2% จาก +0.3% และตัวเลขบ้านยังคงชะลอ หนุนความคิดตลาด-มองดอกเบี้ยสหรัฐฯขึ้นยาก (2) เศรษฐกิจ จีน GDP ยังคงขยายตัวในระดับมีเสถียรภาพ 6.7%, ส่งออกอินโดนีเซียขยายตัว +0.5% จาก -0.7% (3) การประชุมธนาคารกลางยุโรป ECB (พฤหัส) ลุ้นสร้างความประหลาดใจเชิงบวก เพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือ ลดดอกเบี้ย (แต่ Morgan Stanley คาดว่าจะเพิ่มมาตรการกระตุ้นในการประชุมครั้งหน้าเดือน ธค.) ส่วนญี่ปุ่นตลาดจับตาสุนทรพจน์ประธานธนาคารกลางญี่ปุ่น ว่าจะส่งสัญญาณเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่
หุ้นแนะนำวันนี้ : SEAFCO (ราคาเป้าหมาย 13.5 บ.) แนวรับ 9.75 บ. ต้าน 10.30/10.50 บ. รับอานิสงส์งานฐานรากเข้าสู่วัฎจักรขาขึ้นรอบใหม่ / ทยอยเก็บ TFG (ราคาเป้าหมาย 6.50 บ.) TACC (ราคาเป้าหมาย 12.50 บ.) ดักหลุด Cash balance วันศุกร์นี้
รายงานพื้นฐาน BLS วันนี้
(*) Update พอร์ตกลยุทธ์ประจำสัปดาห์ ถอด KBANK ออก / เพิ่ม SEAFCO เข้าไปแทน
(+) SEAFCO เราเริ่มคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมาย 13.50 บาท อิง P/E กรอบบน 19 เท่า +0.5SD (ปัจจุบันหุ้นเทรดเพียง 14 เท่า) ตามวัฏจักรกำไร ที่คาดว่าจะเติบโตสูงถึง 21% ในปี 2017 จากงานรับเหมาภาครัฐฯที่จะเพิ่มขึ้น และงานในมือ (Backlog) ปัจจุบันที่รอส่งมอบ ด้วยงานรากฐานเสาเข็มจะเป็นงานที่ทำก่อน-รับรู้กำไรก่อน-ใช้ระยะเวลาส่งมอบงานสั้น ทำให้เราคาดกำไรของบริษัทจะเติบโตได้ถึง 16% เฉลี่ยในปี 2017-18 เทียบกับกลุ่มที่โตน้อยกว่า 10% และดีกว่าค่าเฉลี่ยกำไรของบริษัทฯเองย้อนไปหลัง 5 ปี คาดปัจจัยหนุนราคาหุ้นระยะสั้นจะมาจาก (1) ปลายปีนี้จะมีข่าวงานรถไฟฟ้า 3 สาย ออกประมูล ซึ่ง SEAFCO มีลุ้นถึง 2 ใน 3 (2) กำไร 2H16 ที่คาดเติบโตสูง จากผ่านจุดต่ำสุดใน 2Q16 (3) ข่าวได้งานรถไฟรางคู่ จิระ-ขอนแก่น เฟส 2 เพิ่มจาก CK
(+) PYLON เราปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 11.50 บาท (อิง P/E 19 เท่า +0.5SD) เรามองว่าได้เวลากลับเข้าสะสมหุ้นเพื่อรอกำไรที่จะเริ่มฟื้นตัวขึ้นใน 2H16 และรับการเติบโตของอุตสาหกรรมรับเหมางานฐานรากในปีหน้า เพราะเราคาดว่างานรถไฟฟ้า 3 สาย ที่จะออกประมูลในเร็วๆนี้ จะหนุนให้มีความต้องการผู้รับเหมาเป็นจำนวนมาก และเพียงพอให้ผู้เล่นในตลาดทุกรายเติบโตไปพร้อมกันด้วยอัตรากำไรที่เหมาะสม นอกจากนี้สำหรับโครงการภาคเอกชน เรามองว่าการเปิดตัวโครงการคอนโดเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้น คาดหนุนให้มีงานอาคารเอกชนเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตอีกด้วย
(+) KKP รายงานกำไรสุทธิในไตรมาส 3/59 ออกมาที่ 1.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 83% YoY และ 30% QoQ ผลกำไรที่ออกมาสูงกว่าเราและ Bloomberg consensus คาด 41% จากกำไรพิเศษจากการขายทรัพย์สินรอการขาย 523 ล้านบาท (เราคาดแค่ 50 ล้านบาท) กำไรก่อนการตั้งสำรองฯ 2.3 พันล้านบาท +14% YoY และ +18% QoQ (มากกว่าคาด 10%) เราคาดกำไรของ KKP จะเติบโตต่อเนื่องในไตรมาส 4/59 จากอัตราการเติบโตของสินเชื่อและรายได้ค่าธรรมเนียมที่ยังแข็งแกร่ง เรามีการปรับประมาณการกำไรปี 2559 ขึ้น 12% ไปที่ 5.15 พันล้านบาท และ ปี 2560 ขึ้น 7% ไปที่ 5.45 พันล้านบาท สะท้อนกำไรพิเศษที่ดีกว่าคาด เราปรับประมาณการราคาเป้าหมายขึ้นไปอยู่ที่ 71 บาท (จาก 60 บาท) และยังคงคำแนะนำ ซื้อ
หุ้นมีข่าว-ประเด็น
(+) TACC TFG, TFG-W1, VTE VTE-W2 จะสิ้นสุดช่วงต่อเวลาขยาย Cash balance ในวันที่ 21 ตค. นี้
(+) ALT ILINK ITEL: นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลัง เป็นประธานประชุมการติดตั้งระบบโครงข่ายคมนาคมของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งท่านนายกฯ ต้องการอยากจะให้มีการบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงพลังงาน สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยทางกระทรวงการคลังได้มอบหมายให้พิจารณาในภาพใหญ่ว่า การวางโครงข่ายไฟเบอร์ออปติคที่กำลังดำเนินในโครงการระบบรางและการติดต่อสื่อสารรองรับการสื่อสัญญาณระหว่างสถานีและพนักงานขับที่จะรองรับระบบรถไฟฟ้าในอนาคตนั้นทับซ้อนกับหน่วยงานอื่นหรือไม่
อย่างไรก็ตาม จากการหารือเบื้องต้นยังไม่พบพื้นที่ใดซ้ำซ้อน โดยจากนี้การรถไฟฯ จะรวบรวมข้อเสนอแนะและนำเสนอสภาพัฒน์ฯ ภายในวันศุกร์นี้หรืออย่างช้าในวันอังคารหน้าเพื่อที่จะนำข้อมูลไปบูรณาการและนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป (ที่มา Bangkokbiznew)
(+) TPBI เริ่มรุกตลาดอุปกรณ์พลาสติกทางการแพทย์ ให้แก่หน่วยงานรัฐฯ เช่น สภากาชาดไทย ปัจจุบันได้งานแล้ว 2.8 แสนใบ (ที่มา นสพ.บ้านเมือง)
(+) THAI AAV BA ผ่านขั้นตอน 3 การออกใบรับรองการเดินอากาศใหม่ เริ่มยั้ตอน 4 31 ตค.นี้ ย้ำกรอบเวลาเดิม มีค.60 ชง ICAO ตรวจปลดล็อกธงแดง (ที่มา ข่าวหุ้น)
(+) SUPER แจ้งตลาด ตั้งบริษัทฯย่อย ในญี่ปุ่น รองรับการขยายโครงการผลิตไฟฟ้า (ที่มา ตลท.)
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(+) อังคาร US Consumer prices (Sep) คาด +0.3% จาก +0.2% m-m US Core CPI กย. คาด +0.2% จาก 0.3% m-m. US Consumer price คาด +0.3% จาก +0.2% m-m. US Housing market index คาด 63 จาก 65, ECB Banking lending survey รายงานการประชุมธนาคารกลางอินเดีย, ออสเตรเลีย (ที่มา Bloomberg)
(+) พุธ US Housing starts (Sep) คาด 1175 K จาก 1142 K, US FED Beige book, จีน รายงาน GDP 3Q16 คาด +6.7% จาก 6.7% จีน Industrial production (Sep) คาด +6.4% จาก 6.3% มาเลเซีย CPI กย.คาด +1.9% จาก +1.5% y-y. (ที่มา Bloomberg)
(-) พฤหัส US existing homes sale (Sep) คาด 5340k จาก 5330, EU summit, ประชุม ECB คาดคงดอกเบี้ย rifi-rate 0%&Depo rate -0.4%, ธนาคารกลางอินโดนีเซีย คาดคงดอกเบี้ย 5%, ฮ่องกง CPI (ที่มา Bloomberg)
(0) ศุกร์ EU Summit, EU area Consumer confidence, สุนทรพจน์ประธานธนาคารกลางญี่ปุ่น งาน Japan Summit (ที่มา Bloomberg)
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค