WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

CSG copyบล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

ตลาดหุ้นไทยวานนี้'กองซื้อท้ายตลาด'
  ตลาดหุ้นไทยวานนี้มีความผันผวนค่อนข้างมาก ท่วมกลางแรงกดดันในประเด็นเดิมทั้งปัจจัยภายในประเทศ และปัจจัยต่างประเทศที่เกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ และความกังวลต่อเศรษฐกิจหลังตัวเลขการส่งออกลดลง โดยบางช่วงการซื้อขายดัชนีปรับตัวลดลงไปกว่า 40 จุด ก่อนที่จะมีแรงซื้อกลับเข้ามาแรงในช่วงการซื้อขายภาคบ่ายของกลุ่มนักลงทุนสถาบัน (มียอด Net Buy กว่า 9,700 ล้านบาท) ทำให้ปิดตลาดดัชนีสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นมาได้ 6.64 จุด (+0.5%) มาปิดที่ 1,412.82 จุด ด้วยปริมาณการซื้อขายที่ 103,822 ล้านบาท

ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
  (-) เมื่อวานนี้ ทางสำนักพระราชวังออกแถลงการณ์เรื่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคต ณ.โรงพยาบาลศิริราช เวลา 15.52 น.
  (-) รัฐบาลประกาศเชิญชวน ให้คนไทยแต่งกายเพื่อถวายความอาลัยเป็นเวลา 1 ปี, ราชการลดธงลงครึ่งเสา 30 วัน และเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนงดจัดงานรื่นเริงเป็นเวลา 30 วัน
  (-) รัฐบาลขอความร่วมมือจากสถานีโทรทัศน์ทุกช่องให้งดออกอากาศรายการของช่องตนเองเป็นเวลา 30 วัน และให้ดึงสัญญาณจากโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจเพื่อแสดงความไว้อาลัยเป็นเวลา 30 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค.
  (-) ตัวเลขนำเข้าส่งออกเดือนก.ย. ของจีน อ่อนแอมาก (นำเข้า +2.2%YoY และส่งออก -5.6%YoY) สร้างความกังวลต่อเศรษฐกิจจีนเพิ่มขึ้น
  (+) วานนี้นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิในหุ้นไทยไป 574 ลบ. หากแต่มีการซื้อสุทธิในสัญญา TFEX เข้ามาสูงถึง 1.6 หมื่นสัญญา
  (+) ราคาสินค้า Commodity อย่างน้ำมัน (WTI) ปรับเพิ่มขึ้น 0.5% จากวันก่อนหน้า มาอยู่ที่ 50.44 US/Barrel หลังตัวเลข Stock น้ำมันลดลง 5.1 ล้านบาร์เรล และEIA รายงานปริมาณการผลิตน้ำมันสหรัฐฯ ลดลง 36000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 7.97 ล้านบาร์เรล/วัน ต่ำสุดในรอบ 1 ปี 4 เดือน
  (+) ราคาถ่านหิน (Newcastle Coal) ล่าสุดเพิ่มขึ้นอีก 2.3%Day มาอยู่ที่ 88 US/Ton สร้างสถิติสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี 5 เดือน
  (+/-) ค่าเงินบาทเทียบ US ล่าสุดกลับมาแข็งค่าขึ้น ~0.22 บาท/US (-0.7%) เป็น 35.12 บาท/US
  (+/-) ยอดขอรับสวัสดิการการว่างงงานสหรัฐในสัปดาห์ก่อน เหลือเพียง 2.46 แสนราย (ต่ำสุดในรอบ 43 ปี) แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวของภาคแรงงาน แต่ทำให้ความกังวลถึงโอกาสในการขึ้นดอกเบี้ยของ FED มากขึ้น

ปัจจัยที่ต้องติดตาม
  การประชุม OPEC ในช่วง 30 พ.ย. ณ.กรุงเวียนนา ออสเตรีย ต้องติดตามเรื่องข้อตกลงในการลดกำลังการผลิตน้ำมัน
จีนจะรายงานตัวเลขอัตราเงินเฟ้อ เดือนก.ย. ในวันนี้ (คาด 1.5%)
  ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่สำคัญในสัปดาห์นี้ ยอดค้าปลีกประจำเดือน ก.ย. (14 ต.ค.), ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ต.ค. (14 ต.ค.)
การประชุม FED รอบต่อไปในช่วงต้นเดือน พ.ย. และการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 8 พ.ย.

กลยุทธ์การลงทุน 'ลุ้นรีบาวด์'
  ประเมินดัชนีวันนี้มีแนวโน้มปรับตัวบวก เรามองบวกต่อเม็ดเงินจากกองทุนในประเทศที่เริ่มเป็น Net Buy มองเป็นกลุ่มที่จะช่วยหนุนดัชนีในวันนี้ เน้นเก็งกำไรกลุ่มที่ปรับตัวลงแรง จากการปรับตัวลงในอาทิตย์นี้ โดยเลือกหุ้นกลุ่ม BiG Cap ที่เป็นเป้าหมายของเม็ดเงินจากกลุ่มนักลงทุนสถาบัน เช่นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง กลุ่มโรงพยาบาล

หุ้นเด่นประเด็นร้อน
BDMS เก็งกำไร
  ลงทุนซื้อที่ดินและอาคารของโรงแรม สวิสโฮเต็ล โครงการปาร์คนายเลิศ เพื่อเข้าสู่ธุรกิจ Wellness Center
เข้าสู่ช่วง High Season ของธุรกิจโรงพยาบาลในไตรมาส 3Q
  คาดผุ้ป่วยจากกลุ่มชาติอาหรับจะกลับมาใช้บริการมากขึ้นหลังราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นส่งเสริมเศรษฐกิจของชาติอาหรับ

CK เก็งกำไร
  หลังเซ็นงานเพิ่มโครงการไซยะบุรีแล้วยังเตรียมรับงานต่อจาก BEM ในโครงการเดินรถสายสีน้ำเงิน (มูลค่ามากกว่า 20,000 ล้านบาท)
  พร้อมประมูลงานภาครัฐทุกโครงการโดยเฉพาะงานรถไฟฟ้าทั้ง 3 เส้นทาง (ส้ม ชมพู และเหลือง) และรถไฟทางคู่ที่ใกล้เปิดประมูลในช่วงปลาย-ต้น พ.ย.
  4Q59 คาดบันทึกกำไรพิเศษจากการขายหุ้น CKP 1%

ทีมวิเคราะห์

 

BSP

 

adsoptimal100

paidtoclick copy

 

  

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!