- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 14 October 2016 15:32
- Hits: 2777
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
AWS ร่วมส่งเสด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงเป็นที่รักยิ่งสู่สวรรคาลัย
คาดหุ้นไทยวันนี้ซื้อขายด้วยความระวัดระวังหลังจากการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อวาน ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ดูท่าจะกลับมาตั้งตัวได้หลังจากตัวเลขการค้าของจีนที่น่าผิดหวัง กดตลาดหุ้นทั่วโลก เมื่อวานจุดสนใจของนักลงทุนล่าสุดอยู่ที่คำปราศรัยของประธาน Fed เจเน็ท เยลเล็นที่ Boston คืนนี้ และตัวเลขค้าปลีกและดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่จะประกาศคืนนี้เช่นกัน ซึ่งจะเป็นเหตุการณ์สุดท้ายที่จะใช้อนุมานว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ยเดือน ธ.ค. หรือไม่
หุ้นเด่นวันนี้ : TU (Bt20.60; BUY; AWS 17TP Bt25.00)
บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) เป็นผู้ผลิตอาหารทะเลระดับโลกที่ประสบความสำเร็จในด้านการเติบโตในช่วงหลายปีที่ผ่านมาและมีแนวโน้มจะสร้างการเติบโตต่อไปในอนาคตข้างหน้า TU ยังจะได้รับประโยชน์อย่างเห็นได้ชัดจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เทียบกับเงินบาท โดย TU ตั้งเป้ายอดขายไว้ถึง 8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2563 จากปัจจุบันยอดขายอยู่ในระดับราว 4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ถือเป็นการเติบโตที่แข็งแกร่งประมาณ 25% ต่อปี สำหรับกำไรจากการดำเนินงาน หากหักรายการพิเศษช่วงปี 2558 ออกไป เราคาดว่ากำไรปกติของ TU จะเพิ่มขึ้น 34% YoY ในปี 2559 และ 8% YoY ในปี 2560 คาดอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่ 16% และอัตรากำไรสุทธิ (NPM) ราว 4-5% ในปี 2559 โดยในงวด 1H59 นั้น GPM เฉลี่ยอยู่ที่ 15.8% และ NPM อยู่ที่ 4.4% รายได้รวมการส่งออกคิดเป็นสัดส่วน 92% และขายในประเทศ 8% ขณะที่รายได้ในรูปเงินเหรียญสหรัฐฯ คาดว่าสูงถึง 62% และรายได้จากเงินยูโรคิดเป็น 30% ดังนั้น TU จะได้รับประโยชน์จากช่วงเวลาที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินบาท ในขณะที่รายได้และกำไรในรูปเงินบาทน่าจะดีขึ้นในช่วงที่เหลือของปี ส่วนธุรกิจปลาทูน่าและกุ้งของ TU คาดว่ายังคงทรงตัวในช่วงหกเดือนข้างหน้า เราคาดว่าจะมีการเข้าซื้อกิจการใหม่ ๆ ที่น่าสนใจเพิ่มเข้ามาเพื่อให้บรรลุเป้าหมายยอดขาย เราให้ราคาเป้าหมาย TU ที่ 25 บาท สำหรับปี 2560 จากค่า PER เฉลี่ย 3 ปีย้อนหลังที่ 20 เท่า จึงยังมีอัพไซด์อีก 21% Price Pattern ของ TU ยังคงมีความแข็งแกร่งในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิดทั้ง Daily, Weekly, & Monthly Buy Signal ทั้งนี้มีเป้าหมายหลักอยู่ที่ 22 บาท ซึ่ง TU มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 20.50 บาท (Resistance: 20.90, 21.30, 21.90; Support: 20.40, 20.00, 19.40)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จสวรรคต แถลงการณ์สำนักพระราชวัง ประกาศ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จสวรรคต ด้วยพระอาการสงบ ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช เวลา 15 นาฬิกา 52 นาที (Bangkok Post)
เตรียมชงรถไฟทางคู่ 3 เส้นทางเสนอครม.ใน ต.ค. นี้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ภายในเดือน ต.ค.นี้ จะนำเสนอ โครงการรถไฟทางคู่ 3 เส้นทาง ได้แก่ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กม. วงเงิน 2.48 หมื่นลบ. ช่วงนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 165 กม. วงเงิน 2.00 หมื่นลบ. และช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 90 กม. วงเงิน 1.03 หมื่นลบ. เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้ (Bangkok Post)
ต่างประเทศ
นักลงทุนยังมีโอกาสสุดท้ายที่จะประเมินว่าเฟดจะปรับอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ จากการกล่าวสุนทรพจน์ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดที่เมืองบอสตันและข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญอื่น ๆ ที่จะประกาศในวันศุกร์นี้ รวมทั้งยอดค้าปลีกประจำเดือนก.ย. และรายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน (Reuters)
ราคาพันธบัตรปรับตัวขึ้นเมื่อวันพฤหัส ตามความต้องการที่แข็งแกร่งของการประมูลขายพันธบัตรอายุ 30 ปี วงเงิน 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นชุดสุดท้ายของการประมูลพันธบัตรมูลค่า 5.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในสัปดาห์นี้ ราคาพันธบัตรอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้น 13/32 อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ระดับ 1.731% ลดลง 5 bps จากเมื่อวันพุธ ส่วนราคาพันธบัตรอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นเกือบ 1 จุด อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ระดับ 2.465% ลดลงกว่า 4 bps (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงจากระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือนเมื่อวันพฤหัส เนื่องจากความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเริ่มเลวร้ายลงหลังจากข้อมูลการค้าจีนที่ซบเซาทำให้ตลาดวิตกกังวลว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในสิ้นปีนี้ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวลง 0.3% อยู่ที่ระดับ 97.695 หลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือนของการซื้อขายในช่วงก่อนหน้า (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดลบเมื่อวันพฤหัส จากการปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มการเงินและตัวเลขการค้าของจีนที่อ่อนแอ อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันที่ดีดกลับในช่วงท้ายของวันช่วยจำกัดการปรับตัวลงของดัชนี กลุ่มการเงินซึ่งได้รับแรงกดดันจากข่าวลบของดอยซ์แบงก์และเวลส์ ฟาร์โกปรับตัวลงก่อนการประกาศผลประกอบการรายไตรมาสในวันนี้ของ เวลส์ ฟาร์โก เจพีมอร์แกน เชส และซิตี้กรุ๊ป (Reuters)
จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสหรัฐอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 43 ปี ชี้ให้เห็นว่าตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่ง จำนวนผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานทรงตัวอยู่ที่ระดับ 246,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย. 2516 ทั้งนี้ มีการปรับตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการในสัปดาห์ก่อนหน้านั้นว่ามีผู้ยื่นขอสวัสดิการลดลง 3,000 รายจากรายงานฉบับก่อน จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการอยู่ในระดับต่ำกว่า 300,000 รายติดต่อกัน 84 สัปดาห์ ซึ่งแสดงถึงภาวะตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง และยาวนานที่สุดนับแต่ปีพ.ศ. 2513 นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 254,000 ราย ในสัปดาห์ที่แล้ว (Reuters)
ยุโรป :
ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันพฤหัสบดีปรับตัวลดลง กดดันจากข้อมูลทางการค้าของจีนที่สร้างความผิดหวังให้กับตลาด ขณะที่หุ้น Standard Life และ Aegon ปรับตัวลดลงหลังโบรกเกอร์ออกมาให้ความเห็นในเชิงลบ (Reuters)
มีแนวโน้มที่ ECB จะไม่เคลื่อนไหวใดๆ จนถึงเดือน ธ.ค. แม้ว่า ECB มีกำหนดจัดประชุมนโยบายในสัปดาห์หน้าวันที่ 20 ต.ค. ซึ่งอาจหารือถึงการปรับเปลี่ยนโครงการเข้าซื้อพันธบัตร อย่างไรก็ตามการตัดสินใจดังกล่าวอาจชะลอออกไปจนกระทั่งถึงการประชุมรอบถัดไปที่จะมีขึ้นในเดือนธ.ค. เพื่อรอดูการตัดสินใจของ Fed ในการขึ้นดอกเบี้ย (Reuters)
เอเชีย :
ข้อมูลการค้าจีนน่าผิดหวัง: ยอดส่งออกเดือนกันยายนของจีนลดลง 10% YoY แย่กว่าที่คาดมาก ขณะที่การนำเข้าหดตัวลงโดยไม่คาดคิด หลังจากที่พลิกฟื้นขึ้นมาในเดือนสิงหาคม ตัวเลขการค้าที่น่าผิดหวังชี้ไปที่ความต้องการที่ลดลงทั้งในและต่างประเทศ การส่งออกของจีนคาดว่าจะลดลง 3% แย่กว่าเดือนสิงหาคมเล็กน้อย การนำเข้าหดตัวลง 1.9% หักล้างความหวังว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง ในขณะที่เดือนสิงหาคม การนำเข้าเพิ่มขึ้นโดยไม่คาดคิด 1.5% ขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบเกือบสองปี จีนจึงมียอดเกินดุลการค้าเดือนนี้ 41.99 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่ำสุดในรอบหกเดือน ขณะที่ตลาดคาดหวังการเกินดุลไว้สูงถึง 53 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (Reuters)
การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในจีนเพิ่มขึ้น 4.2% YoY เป็น 609.03 พันล้านหยวน (95.09 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ) สำหรับช่วงเก้าเดือนแรกของปีนี้ กระทรวงพาณิชย์กล่าวในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า ในเดือนกันยายน FDI เพิ่มขึ้น 1.2% YoY 60.2 พันล้านหยวน (9.21 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ) (Reuters)
ความคาดหวังเงินเฟ้อภาคครัวเรือนญี่ปุ่นเงินลดลงเป็นไตรมาสที่ห้าติดต่อกัน ลงไปสู่ระดับต่ำสุดในรอบสี่ปีในช่วงไตรมาสที่ 3/59 จากการสำรวจ BOJ แสดงให้เห็นสัญญาณการพิมพ์เงินอย่างหนักล้มเหลวในการกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ซบเซา อัตราส่วนของครัวเรือนที่คาดว่าราคาจะเพิ่มขึ้นในหนึ่งปีจากนี้ยืนอยู่ที่ 65.1% ในเดือนกันยายน ลดลงจาก 72.4% ในเดือนมิถุนายน ต่ำสุดนับตั้งแต่ธันวาคม 2555 (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันคงที่วันพฤหัส เพราะรัฐบาลสหรัฐรายงานตัวเลขถอนใช้ดีเซลและเบนซินช่วยให้ราคาดีดกลับมาได้จากแดนลบที่กระทบโดยการเพิ่มขึ้นของสต็อกน้ำมันดิบเป็นครั้งแรกในหกสัปดาห์มากกว่าคาด น้ำมัน Brent บวก 22 เซนต์ (+0.4%) ปิดที่ 52.03 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล น้ำมันดิบสหรัฐล่วงหน้าบวก 26 เซนต์ (+0.55%) ปิดที่ 50.44 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)
การถอนใช้น้ำมันสำเร็จรูปสู้กับการเพิ่มของน้ำมันดิบ US EIA ระบุว่าสต็อกน้ำมันดิบเพิ่ม 4.9 ล้านบาร์เรลสำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 7 ต.ค. เป็นการเพิ่มขึ้นของสต็อกน้ำมันดิบครั้งแรกนับแต่สิ้น ส.ค. และเหนือกว่าค่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 7 แสนบาร์เรลอยู่มาก อย่างไรก็ดีในรายงานเดียวกันก็ระบุว่าน้ำมันสำเร็จรูปลดลง 3.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งรวมดีเซลและน้ำมันเตา และเบนซินลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล นักวิเคราะห์คาดว่าน้ำมันสำเร็จรูปจะลดลงแค่ 1.6 ล้านบาร์เรลและคาดเบนซินลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล (Reuters)
ราคาทองคำปิดบวกวันพฤหัส เพราะดอลลาร์อ่อนค่าและหุ้นโลกลดจากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจจีนอีกครั้ง ราคาทองคำตลาดจรบวก 0.3% ไปอยู่ที่ 1,257.83 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ราคาทองคำล่วงหน้าลบ 0.4% ไปอยู่ที่ 1,259.10 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
Mrs. Vajiralux Sanglerdsillapachai (No. 17385) Tel: 02 680 5077
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun, CFA, FRM (No.49234) Tel: 02 680 5094