- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 13 October 2016 16:46
- Hits: 1777
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ 'รีบาวท้ายตลาด'
ตลาดหุ้นไทยวานนี้มีแรงขายออกมาค่อนข้างมากโดยเฉพาะในช่วงเปิดตลาดภาคบ่ายที่ดัชนีลงไปติดลบมากทีสุดกว่า 90 จุด จากปัจจัยลบในประเทศ รวมถึงความกังวลของการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯในการประชุมครั้งถัดไปช่วงต้นเดือน พ.ย. อย่างไรก็ตามในช่วงท้ายตลาดเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาทำให้ดัชนีสามารถปรับตัวยืนเหนือระดับ 1,400 จะได้) ปิดตลาดดัชนีปรับตัวลดลง 36.03 จุด (-2.5%) มาอยู่ที่ 1,406.18 จุดด้วยปริมาณการซื้อขายสูงทำสถิติใหม่ที่ระดับ 130,152.19 ล้านบาท โดยกลุ่มที่มีแรงขายออกมาค่อนมากได้แก่กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ อาหาร ICT (-5%, -4%, -3% และ -3% ตามลำดับ)
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(-) ความกังวลปัจจัยภายในประเทศ กดดันดัชนีหุ้นไทยวานนี้ผันผวนอย่างหนัก โดยระหว่างวันติดลบไปเกือบ 100 จุด แต่มีปริมาณการซื้อขายสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 1.3 แสนบาท
(-) วานนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ที่ 411 ลบ.
(-) รายงานตัวเลขปริมาณการผลิตน้ำมันทั่วโลกในเดือน ก.ย. สูงขึ้นจากเดือนก่อนหน้าถึง 6 แสนบาร์เรล ทำให้ตลาดไม่เชื่อมั่นในแผนการลดกำลังการผลิดของกลุ่ม OPEC จึงกดดันราคาน้ำมันดิบ WTI วานนี้อ่อนตัวลงอีก 1.2% Day มาปิดที่ 50.18 US/Barrel
(-) Nielsen รายงานตัวเลขการใช้งบโฆษณาเดือน ก.ย. ลดลง 0.4%YoY และ 9 เดือนแรกของปี 59 ADEX ชะลอตัวลงถึง 5.4%YoY นำโดยการลดลงของสื่อหลัก analog TV, Cab/SAT, หนังสือพิมพ์ และนิตยสาร
(+) ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานใหม่ของสหรัฐในเดือน ส.ค. เหลือเพียง 5.4 ล้านตำแหน่ง (ลดลง 8.5%MoM) และต่ำสุดในรอบ 8 เดือน ถือเป็นปัจจัยบวกต่อการคาดการณ์ว่า FED จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
(+) Loan Growth ของธนาคารญี่ปุ่น เดือน ก.ย. โตขึ้น 2.2%YoY สูงสุดในรอบ 4 เดือน แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในธุรกิจและการลงทุนของญี่ปุ่น
(+) ราคาถ่านหิน (Newcastle Coal) ล่าสุดเพิ่มขึ้นอีก 1.9%Day มาอยู่ที่ 86 US/Ton สูงสุดในรอบกว่า 2 ปี 9 เดือน
(+) ค่าเงินบาทเทียบ US ยังอ่อนค่าลงอย่างมาก โดยระหว่างวันอ่อนตัวเกือบ 36 บาท/US แต่ปิดตลาดอ่อนตัวลง 0.6%Day มาอยู่ที่ 35.66 บาท/US (บาทอ่อนส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่มส่งออก, อิเล็กทรอนิกส์, อาหาร)
(+/-) ธปท. ประกาศเลื่อนการเปิดใช้งานบริการพร้อมเพย์ออกไปเป็นต้นปี60
(+/-) พรบ.ภาษีที่ดินฯใหม่ อยู่ระหว่างการปรับปรุง คาดว่าจะเสนอให้ สนช. พิจารณาต่อไปในเดือน ต.ค.59 และคาดมีผลบังคับใช้จริงภายในปี 60
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
การประชุม OPEC ในช่วง 30 พ.ย. ณ.กรุงเวียนนา ออสเตรีย ต้องติดตามเรื่องข้อตกลงในการลดกำลังการผลิตน้ำมัน
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่สำคัญในสัปดาห์นี้ ยอดค้าปลีกประจำเดือน ก.ย. (14 ต.ค.), ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ต.ค. (14 ต.ค.)
การประชุม FED รอบต่อไปในช่วงต้นเดือน พ.ย. และการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 8 พ.ย.
กลยุทธ์การลงทุน 'เน้นรายตัว'
ประเมินดัชนีวันนี้มีแนวโน้มปรับตัวลดลง เรามองปัจจัยภายในประเทศยังกดดันทั้งจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าแรง และความกังวลต่อกรณีคาร์บอม ยังรบกวนการลงทุน แนะนำสะสะมหุ้นที่มีปัจจัยเด่นเฉพาะ เช่นกลุ่มที่ได้ปัจจัยบวกจากราคาถ่านหินที่ยังปรับขึ้นต่อเนื่อง เราแนะนำลดน้ำหนักกลุ่มบันเทิง และสลับมาเก็งกำไรในกลุ่มทีคาดว่าจะมีผลประกอบการที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่า เช่น กลุ่มส่งออกอาหาร และ อิเล็กทรอนิกส์
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
BANPU เก็งกำไร
ราคาถ่านหิน Newcastle ทรงตัวที่ระดับราว 85.30 USD/ton
หุ้นบ้านปู เพาเวอร์ (BPP) เตรียมเข้าจดทะเบียนใน SET ราว 4Q59
ปลายเดือน ต.ค. จะเข้าใกล้การทำราคาขายถ่านหินปีหน้า ซึ่งราคาถ่านหินที่แข็งแกร่งในปัจจุบันจะเป็นบวกต่อผลประกอบการในปี 60
CPF เก็งกำไร
คาด 3Q59 ผลประกอบการยังขยายตัวต่อเนื่องทั้งเป็นช่วง High Season และราคาเนื้อไก่ทะลุ 40 บาท/กก.
ธุรกิจต่างประเทศเริ่มดูดี หลังมีการปรับโครงสร้างใหม่ รวมถึงราคาเนื้อสัตว์ที่ฟื้นตัว
ประเมินกำไรสุทธิปี 59 โต 33% มาอยู่ที่ 14,724 ล้านบาท
ทีมวิเคราะห์