- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 13 October 2016 16:44
- Hits: 1506
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
ความกังวลและความระมัดระวัง
คาดหุ้นไทยวันนี้ร่วงต่อจากปัจจัยส่วนใหญ่ที่เป็นลบทั้งต่างและในประเทศ สำหรับต่างประเทศ มุมมองตลาดที่ยังไม่เปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐในเดือน ธ.ค. หลังการเผยแพร่รายงานการประชุม Fed ล่าสุดทำให้ความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงลดลง ภายในประเทศอารมณ์ตลาดโดยรวมยังคงเปราะบางและจากคำเตือนของตำรวจเรื่องมีผู้จะวางระเบิดในกรุงเทพน่าจะทำให้นักลงทุนระมัดระวัง
หุ้นเด่นวันนี้ : KBANK (ราคาปิด 182.00 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมายปี 60 ของ AWS 228.00 บาท)
บริษัท ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เป็นหุ้นแนะนำในวันนี้จากพื้นฐานของหุ้นที่แข็งแกร่งและรูปแบบการฟื้นตัวกลับแรงของราคาหุ้น โดยที่เราคาดการณ์กำไรของ KBANK ในไตรมาส 3/59 และ 4/59 จะเติบโต 7.6% และ 88.2% YoY ตามลำดับ ซึ่งการเติบโตดังกล่าวมาจากระดับการตั้งสำรองที่ลดลง หนุนโดยการตั้งสำรองอย่างอนุรักษ์นิยมของธนาคารในช่วงครึ่งปีแรก นอกจากนี้ ธนาคารเชื่อมั่นว่าจะยังสามารถบรรลุเป้าอัตราการขยายตัวของสินเชื่อในปีนี้ที่ 6-7% ได้ หนุนโดยสินเชื่อในหลายๆ กลุ่ม ซึ่งรวมถึง สินเชื่อองค์กรขนาดใหญ่ สินเชื่อธุรกิจเอสเอ็มอี และสินเชื่อรายย่อย อีกทั้ง เรามองว่า KBANK น่าจะได้รับประโยชน์จากช่วง high season ของการจับจ่ายในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี อิงจากการที่ธนาคารมีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับหนึ่งของทั้งยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตและการบริการร้านค้าในการรับบัตรเครดิต นอกจากนั้นแล้ว อัตราส่วนเงินสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (coverage ratio) ณ ไตรมาส 2/59 อยู่ที่ระดับ 136.2% สูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่ 129.8% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงคุณภาพสินทรัพย์ที่ยังแข็งแกร่งอยู่และสามารถรองรับความผันผวนของเศรษฐกิจได้ ถึงแม้เราคาดการณ์กำไรในปีนี้จะโตเพียง 2.0% แต่กำไรของ KBANK น่าจะกลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 16.6% ในปี 60 หนุนโดยการตั้งสำรองที่ลดลงและความต้องการสินเชื่อที่ปรับตัวดีขึ้น เป็นไปตามมุมมองเชิงบวกทางเศรษฐกิจของเราในปีหน้า Price Pattern ของ KBANK แม้ว่าจะยังอยู่ในภาวะการอ่อนตัวจากการเกิดทั้ง Daily & Weekly Sell Signal อยู่ แต่ยังคงมีแนวโน้มหลักที่ยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นจากการเกิด Monthly Buy Signal ทั้งนี้เมื่อพิจารณา Candlestick ของ KBANK ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ถือเป็น Reversal Pattern บ่งบอกถึงโอกาสที่จะได้เห็นการฟื้นตัวของ KBNAK ได้ในระยะสั้น โดยมีเป้าหมายเบื้องต้นที่น่าจะไปปิด Falling Gap ที่ได้เปิดไว้ในวันจันทร์ที่ผ่านมาที่ 191.00 บาทนั่นเอง (Resistance: 187.00, 192.00, 200.00; Support: 178.00, 173.00, 164.00)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
พ.ร.บ.ภาษีที่ดินฯ กำลังอยู่ในกระบวนการให้สนช. พิจารณา รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ร่างพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งได้ผ่านการตีความจากคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว ขณะนี้กำลังอยู่ในกระบวนการส่งมอบให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาในเร็วๆ นี้ ในรายละเอียดของการจัดเก็บภาษีบ้านหลังแรกและที่ดินทางเกษตรกรรมที่มีมูลค่าสูงกว่า 50 ล้านบาทขึ้นไป ขณะที่บ้านหลังที่สอง จะจัดเก็บตามอัตราแบบขั้นบันได โดยจัดเก็บตั้งแต่บาทแรกในอัตรา 0.03-0.30% ทั้งนี้กระทรวงฯ คาดว่าจะสามารถมีผลบังคับใช้ได้ภายในปี 2560 (Bangkok Post)
เลื่อนพร้อมเพย์เป็นไตรมาส 1Q60 ธนาคารแห่งประเทศไทยไฟเขียวเลื่อนใช้พร้อมเพย์ระหว่างบุคคลออกไปเป็นไตรมาส 1Q60 หลังจากการหารือร่วมกับสมาคมธนาคารไทยเพื่อติดตามความคืบหน้าของการทดสอบระบบ ซึ่งมีความเห็นร่วมกันว่าควรทดสอบระบบให้รอบด้านและมีความพร้อมทุกธนาคารก่อนเปิดใช้บริการเนื่องจากความปลอดภัย ความถูกต้อง และความน่าเชื่อถือของการทำธุรกรรมทางการเงิน (Bangkok Post)
ต่างประเทศ
กรรมการเฟดหลายรายลงความเห็นว่าควรจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ หากเศรษฐกิจสหรัฐยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่อง จากรายงานการประชุมประจำเดือนก.ย. ของเฟดที่เผยแพร่เมื่อวันพุธช่วงบ่าย กรรมการ 3 ใน 10 รายไม่เห็นด้วยที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทันที ซึ่งเป็นครั้งแรกหลังจากปี 2011 ที่คณะกรรมการส่วนมากมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันในการประชุม นอกจากนี้ นางเจเน็ท เยลเลน ประธานเฟดมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในวันศุกร์นี้ที่เมืองบอสตัน ซึ่งอาจให้ข้อมูลเชิงลึกมากขึ้นเกี่ยวกับแนวคิดของเฟดครั้งล่าสุด (Reuters)
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวขึ้นเมื่อวันพุธ โดยตลาดพันธบัตรได้รับแรงกดดันจากปริมาณพันธบัตรที่เข้ามามากขึ้นและความคาดหวังที่มากขึ้นว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 1.80% เป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือนขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปีแตะระดับสูงสุดนับแต่วันที่ 23 มิ.ย. ซึ่งเป็นวันที่มีการโหวต Brexit อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นอื่น ๆ เช่น พันธบัตรอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับแต่ช่วงต้นเดือนมิ.ย. (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐยืนใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือนเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ เมื่อวันพุธ หลังรายงานการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดหนุนความคาดหวังเพิ่มขึ้นว่าเฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. นี้ ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นจากความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจของอังกฤษได้ลดลง ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ในตอนแรกปรับตัวลงหลังการเปิดเผยรายงานการประชุมคณะกรรมการเฟดแต่กลับมาดีดตัวขึ้นและปิดเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อวันพุธ จากความคาดหวังเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยยังคงไม่เปลี่ยนแปลงหลังการเปิดเผยรายงานการประชุมเฟดและนักลงทุนรอรายงานผลประกอบการของบริษัทต่าง ๆ (Reuters)
ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานในสหรัฐในเดือนส.ค. ลดลงต่ำสุดในรอบ 8 เดือน และการจ้างงานเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เป็นการชี้ว่าสภาวะตลาดแรงงานได้ผ่อนคลายลงท่ามกลางเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของพนักงาน (JOLTS) รายเดือนยังคงชี้ว่าตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่งเนื่องจากมีจำนวนพนักงานที่ลาออกโดยสมัครใจเพิ่มขึ้นและมีจำนวนพนักงานที่ถูกเลิกจ้างลดลง การเปิดรับสมัครงานซึ่งเป็นมาตรวัดความต้องการแรงงานลดลง 388,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 5.4 ล้านตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับแต่เดือนธ.ค. หลังจากพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนก.ค. ส่งผลให้อัตราการเปิดรับสมัครงานลดลง 3/10 อยู่ที่ 3.6% ซึ่งเป็นตัวเลขต่ำสุดนับแต่เดือนธ.ค. ปีก่อน (Reuters)
ยุโรป :
ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันอังคารอ่อนตัวลงเล็กน้อย กดดันจากหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตามหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยปรับตัวสูงขึ้นหลังจากมีข้อมูลในเชิงบวกออกมาจากบริษัท LVMH ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจสินค้าฟุ่มเฟือยรายใหญ่สัญชาติฝรั่งเศส (Reuters)
เอเชีย :
JBIC: ระมัดระวังการให้กู้ยืมเงินในภาคทรัพยากร: ธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JBIC) กล่าวว่าจะต้องระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อให้แก่ภาคทรัพยากรทั้งที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวดีขึ้นมากในปีนี้ โดยราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นประมาณ 40% ในปี 2559 และถ่านหินเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% ขณะที่หลายคนยืนยันว่าความตกต่ำในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ผ่านพ้นไปแล้ว อย่างไรก็ตาม JBIC กล่าวว่าจะไม่รีบขยายการให้กู้ยืมเงินกับการซื้อขายบ้านในญี่ปุ่น และบริษัทในภาคทรัพยากร เนื่องจากลูกค้าทั่วไปของ JBIC ขาดทุนจากการด้อยค่าหนักในการลงทุนด้านพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ในช่วงสองปีที่ผ่านมา(Reuters)
มุ่งประเด็นรายงานข้อมูลการค้าของจีนในวันนี้ นักเศรษฐศาสตร์จะเฝ้าจับตาข้อมูลสัดส่วนการค้าอย่างระมัดระวังเพื่อดูว่าเงินหยวนที่อ่อนตัวเมื่อเร็ว ๆ นี้ ส่งผลกระทบที่เป็นประโยชน์หรือไม่ (Reuters)
หุ้นจีนปรับตัวลงในวันพุธที่ผ่านมา นำโดยหุ้นกลุ่มทรัพยากรจากความกังวลต่อการอ่อนค่าของเงินหยวนกระทบความเชื่อมั่นของนักลงทุนและลดความน่าสนใจในสินทรัพย์ของจีน (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
น้ำมันปิดลบ 1% วันพุธ หลัง OPEC รายงานตัวเลขการผลิต ก.ย. แตะจุดสูงสุดรอบ 8 ปี หักล้างผลบวกจากการให้คำมั่นของกลุ่มว่าจะคุมปริมาณน้ำมันของโลก Brent ลบ 60 เซนต์ (1.15%) ปิดที่ 51.81 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล น้ำมันดิบสหรัฐร่วง 61 เซนต์ (-1.2%) ปิดที่ 50.18 ดอลลาร์ (Reuters)
ทองคำบวกเล็กน้อยวันพุธ หลังจากรายงานประชุมประจะเดือน ก.ย. ของ Fed ชี้ว่าการลงมติของผู้ดำเนินนโยบายตัดสินว่าการขึ้นดอกเบี้ยคงมีในไม่ช้าถ้าเศรษฐกิจสหรัฐดีขึ้นต่อ ทองคำตลาดจรบวก 0.2% ปิดที่ 1,255.42 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ลอยตัวเหนือจุดต่ำสุดรอบสี่เดือนในสัปดาห์ที่แล้วที่ 1,241.20 ดอลลาร์สหรัฐ (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
Mrs. Vajiralux Sanglerdsillapachai (No. 17385) Tel: 02 680 5077
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun, CFA, FRM (No.49234) Tel: 02 680 5094
