- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 13 October 2016 16:42
- Hits: 1550
บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) : Market Comment
เน้นหุ้นใหญ่ที่ผันผวนสูงในช่วงนี้
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดบวกหลังมีการเปิดเผยรายงานการประชุมเฟดเดือนก.ย.ทำให้ DOW JONES, NASDAQ, S&P500 ปิด 0.09%, -0.15%, 0.11%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบจากแรงเทขายหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีทำให้ DAX, FTSE, CAC40, FTMIB ปิด -0.51%, -0.66%, -0.44%, -0.02%
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 0.61 ดอลลาร์ ปิดที่ 50.18 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 0.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 51.81 ดอลลาร์/บาร์เรล ตลาดไม่ค่อยเชื่อว่าจะตรึงกำลังการผลิตได้
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกันกับภูมิภาค แต่ยังคงความผันผวนแรงที่สุดในภูมิภาค เนื่องจากมีแรงขายออกมาในกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ที่มีผลต่อดัชนีทั้งกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ค้าปลีก พลังงานและขนส่ง ซึ่งเป็นผลมาจากความกังวลปัจจัยภายในและการสับสนกับข่าวลือต่าง ๆ ที่เริ่มเข้ามาตั้งแต่ช่วงใกล้เที่ยง จนกระทั่งเปิดตลาดในช่วงบ่ายมีแรงขายออกมาหนาแน่น ส่งผลให้ SET ปรับตัวลงไปทำจุดต่ำสุด 1,343.13 จุด ลดลง 99.08 จุด หลังจากนั้นก็เริ่มมีแรงซื้อกลับเข้าตลาด ทำให้เมื่อปิดตลาดปรับตัวลงราว 36 จุด หรือปิดแถว ๆ 1,406.18 จุด มูลค่าซื้อขายสูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ไทย แต่ในแง่มูลค่าตลาดหายไปราว 9.55 แสนล้านบาท ในช่วง 3 วันทำการ
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยภายนอกกดดันเรื่องเฟดใกล้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงสิ้นปีนี้ หลังโกลด์แมน แซคส์คาดว่า เฟดมีโอกาสเพิ่มมากขึ้นสู่ระดับ 75% จากเดิมที่ 65% ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. เทียบกับ Fed fund futures ที่ปัจจุบันอยู่ที่ 67.6% ในเดือนเดียวกัน ซึ่งวานนี้จะมีการเปิดเผยรายงานการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟดเดือนก.ย. ซึ่งจะเห็นรายชื่อกรรมการส่วนหนึ่งที่โหวตให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเดือนก.ย. ที่ผ่านมา แม้ว่าผลจะออกมาว่าเฟดยังไม่ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. ที่ผ่านมา นอกจากนี้ค่าเงินบาทยังคงผันผวนต่อเนื่องทั้งแข็งค่าในช่วงเช้าหลังปรับตัวไปทดสอบระดับ 35.46 บาท/ดอลลาร์ แต่ในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยเริ่มมีแรงขายหนาแน่นในช่วงสาย ๆ ของวานนี้ ค่าเงินบาทเริ่มกลับมาอ่อนค่าทำจุดสูงใหม่เมื่อเทียบกับวันอังคารที่ผ่านมา
โดยปรับตัวอ่อนค่าสูงสุดวานนี้ที่ระดับ 35.87 บาท/ดอลลาร์ ส่วนหนึ่งคาดเป็นผลมาจากแรงขายในตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรที่เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 8.79 พันล้านบาท เช้าวันนี้ค่าเงินบาทยังมีการอ่อนค่าเล็กน้อย ต้องดูปฏิกริยาของนักลงทุนต่างประเทศในวันนี้ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมานักลงทุนต่างประเทศแทบจะขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยน้อยมาก ส่วนใหญ่เป็นแรงขายในตลาดพันธบัตร แต่ถ้าพิจารณาปัจจัยที่เกิดขึ้นภายในประเทศในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ไม่ได้มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยตรง เราแนะนำให้ซื้อลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่หลายตัวที่มีความผันผวนค่อนข้างมากในช่วงนี้ หากมีการปรับตัวลดลงมาที่จุดต่ำที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ หรือต่ำกว่าจุดต่ำเดิม ก็น่าจะเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ อาทิเช่น AOT, SCC, PTT, KBANK, BH, KCE, SCB, ADVANC, BBL, SCCC, KKP, CBG, ROBINS รายชื่อหุ้นดังกล่าวเป็นหุ้นที่มีการแกว่งตัวค่อนข้างแรงในวันในช่วงนี้และมีปัจจัยพื้นฐานที่ดี นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้มากสามารถที่จะเข้าไปลงทุนได้ ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่า น่าจะมีความผันผวนเข้ามาต่อเนื่อง
กลยุทธ์การลงทุน
Trading : ปรับตัวลงมาแถว ๆ 1,350-1,300 จุด แนะนำ ทยอยซื้อ
Saravut Tachochavalit, Analyst
TEL : +66 (2) 862-9754 Ext. 9754
EMAIL : [email protected]
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
ทิศทางตลาดหุ้นไทย
ภาพของตลาดหุ้นต่างประเทศ ตลาดหุ้นสหรัฐฯบวกคืนมาเล็กน้อย ขณะที่ยุโรปก็ปรับตัวลง เป็นสัญญาณว่านักลงทุนกำลังรอปัจัยยใหม่ และก็เข้าสู่ช่วงรายงานผลประกอบการ Q3-59 กันแล้ว........ รายงานประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (20-21 ก.ย.) ระบุ Fed พร้อมขึ้นดอกเบี้ย และจะขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆนี้ Fed Fund Rate Implied Probabilities เดือน พ.ย. 17.1% ของเดือน ธ.ค.ขยับขึ้นเป็น 67.6%) ทาง KTBST คาด จะปรับขึ้นดอกเบี้ย ในการประชุม 13-14 ธ.ค.59 เราประเมินในเรื่องนี้ว่า นักลงทุนบางส่วนจะทยอยปรับพอร์ตสินทรัพย์ทางการเงินต่างๆ รับกับทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ และการประชุมธนาคารยุโรป ECB ในสัปดาห์หน้า (20) ที่คาดว่า ECB อาจมีข้อความบางอย่างเกี่ยวกับนโยบาย QE
ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลง การประชุมวานนี้ ผู้ผลิตน้ำมันเพียงแค่รยืนยันว่าจะให้ความร่วมมือ แต่ไม่ระบุปริมาณที่จะลดการผลิต โดยจะหารือกันอีกครั้งช่วง 28-29 ต.ค. นอกจากนี้ ค่าเงินดอลล่าร์ที่ปรับตัวสูงขึ้นด้วย ทั้งสองปัจจัย เป็นลบต่อราคาน้ำมัน และหุ้นกลุ่มน้ำมัน (ผู้ผลิตน้ำมัน+โรงกลั่นน้ำมัน) ในวันนี้
ปัจจัยในประเทศวันนี้ มีเพียงปัจจัยเดียวที่จะมีผลต่อตลาดหุ้นโดยรวม และออกไปในทางลบต่อตลาด ภาพตลาดหุ้นวันนี้ เรายังมองว่าแม้อาจมีการ rebound เกิดขึ้น แต่ทิศทาง ยังคงดูเป็นลบ
ปัจจัยที่ควรตามในระหว่างวัน จะเป็นค่าเงินบาท และค่า Credit Default Swap (CDS Premium) ในระหว่างวัน เพราะจะบ่งชี้ถึงระดับความกังวลของนักลงทุนต่างประเทศ แต่ถ้าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ก็จะกลับมาเป็นบวกต่อตลาด นอกจากนี้จีนจะมีการรายงานตัวเลขการส่งออก ที่คาดว่าจะสูงขึ้น +2.5% YoY (สกุลหยวน) จากเดือนก่อน +5.9%
กลยุทธ์การลงทุน ทิศทางตลาด ประเมินค่อนข้างยาก ว่าจะลงต้องหรือมี rebound เพราะหลายปัจจัยทั้งในแต่ต่างประเทศยังคลุมเครือ ......... กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ เรายังแนะให้ชะลอการลงทุน ........ หุ้นที่เราคาดว่า อาจได้รับความสนใจจากนักลงทุน สำหรับการเก็งกำไรช่วงสั้น โดยควรรอจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลงมา อาทิ KCE , BANPU , BJC
ประเด็นสำคัญ
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (12 ต.ค.) - SET Index ปิดที่ระดับ 1,406.18 จุด ลดลง 36.03 จุด หรือ -2.50% มูลค่าการซื้อขาย 130,152.19 ล้านบาท volume ซื้อขายสูงที่สุดตั้งแต่เคยมีมา หลังนักลงทุนเทขายหุ้นโดยไม่มีแรงรับ ปรับตัวลงถึงกว่า 99 จุดในระหว่างวันและฟื้นตัวมาได้ที่ 1,406.18 จุด ลดลง 36 จุด
ตลาดหุ้นต่างประเทศ - ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,144.20 จุด เพิ่มขึ้น 15.54 จุด หรือ +0.09% หลังรายงานประจำเดือน ก.ย. ของเฟดระบุว่า กรรมการส่วนใหญ่มีมติให้ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป แต่ด้าน Stoxx Europe 600 ลดลง -0.5% ปิดที่ 338.56 จุด
ราคาน้ำมันดิบ WTI - สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 61 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 50.18 ดอลลาร์/บาร์เรล นักลงทุนยังคงไม่มั่นใจต่อข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน และรายงานโอเปกที่ว่าการผลิตน้ำมันที่ระดับสูงสุดในรอบ 8 ปีในเดือน ก.ย.
เศรษฐกิจสหรัฐฯ - เฟด เปิดเผยรายงาน ประจำเดือนก.ย. ระบุว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย มีความวิตกว่าการชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปเป็นเวลานานเกินไป จะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย อย่างไรก็ตามกรรมการส่วนใหญ่มีมติให้ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป
เศรษฐกิจญี่ปุ่น - นายยูทากะ ฮาราดะ สมาชิกคณะกรรมการกำหนดนโยบายธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งมีจุดยืนสนับสนุนการผ่อนคลายนโยบาย เปิดเผยว่า ทางธนาคารกลางควรดำเนินการผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติมหากจำเป็น
กลุ่มมีเดีย - มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ ผู้ให้บริการกลยุทธ์การสื่อสารทางการตลาดและซื้อ-ขายสื่อโฆษณา ระบุว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาในปี 2559 คาดจะมีอัตราการขยายตัวติดลบอยู่ที่ประมาณลบ 10-15% YoY
กลุ่มแบงก์ - ธปท. แถลงว่า มีการเสนอให้เลื่อนการเปิดให้บริการพร้อมเพย์ สำหรับการโอนเงินระหว่างบุคคลไปเป็นไตรมาสแรกปี 2560 จากเดิมที่จะเริ่มเปิดให้บริการภายในสิ้นเดือน ต.ค.นี้
News Release :
ข่าวลือถล่มตลาดหุ้นไทยวอลุ่มเทรดพุ่ง1.3แสนล. 3 วันมาร์เก็ตแคปหาย 1 ล้านล้านบาทหุ้นท็อปพิคพลังงานPTTนำทัพกำไรแกร่ง 9 เดือนพุ่ง 7.4 หมื่นล้าน ได้ดีลูกโตยกแผง
- ปล่อยข่าวลือสนั่นทุบตลาดหุ้นไทยร่วงต่ำสุดในรอบ 5 เดือน วอลุ่มสูงสุด 1.3 แสนล้าน ทุบสถิติรอบ 2 ปี 3 วันทำการมาร์เก็ตปแคปหาย 1 ล้านล้าน "เกศรา" รายงาน "อภิศักดิ์" ด่วน ไก่อูเตือนนักลงทุนอย่าหลงเชื่อข่าวลือในโซเชียล ด้าน CLSA มองเป็นจังหวะเข้าซื้อหุ้นถูก ต่างชาติรอช้อนเก็บเข้าพอร์ต แอบเปิดสัญญาซื้อล่วงหน้า 4 พันสัญญา(ข่าวหุ้น)
BEM จังหวะเข้าลงทุนลุ้นQ3กำไรโตแกร่ง
+ "BEM" จังหวะเข้าลงทุน ลุ้นงบไตรมาส 3 กำไรโตแกร่ง บุ๊ครายได้ "เดินรถไฟฟ้าสายสีม่วง-ทางด่วนศรีรัช" โบรกฯ เชียร์ "ซื้อ" ให้ราคาเป้าหมายสูง 10.10 บาท อัพไซด์กระฉูด 54% (ข่าวหุ้น)
AMATA ขายที่ดินปีนี้ตามนัดพันไร่ รับอานิสงส์ พ.ร.บ.ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก
+ "AMATA" รับผลบวก ครม.ไฟเขียวร่าง พ.ร.บ.การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) หนุนยอดขายที่ดินสิ้นปี 59 เข้าเป้า 1,000 ไร่ โบรกฯ เลือกเป็นท็อปพิคหุ้นกลุ่มนิคมฯ แนะนำ "ซื้อ" เป้าราคา 16 บาท ชี้ได้อานิสงส์ พ.ร.บ. ECC ดันยอดขายที่ดินปีหน้าพุ่ง(ข่าวหุ้น)
CENTELรับไฮซีซั่นQ4เชื่อยอดนักท่องเที่ยวพุ่งเชียร์"ซื้อ"เป้า 45 บาท
+ โบรกฯ ปรับคำแนะนำ CENTEL ขึ้นเป็น "ซื้อ" อัพราคาเป้าหมาย 45 บาท นักท่องเที่ยวจีน-รัสเซียเพิ่ม รับไฮซีซั่นใน Q4/59 ส่วนการแจ้งเตือนระเบิด กทม.-ปริมณฑลมีผลกระทบระยะสั้น(ข่าวหุ้น)
AOT สัญญาณกำไรแจ่ม กูรูชี้ช่องซื้อสะสมยาว
+ กูรูจับสัญญาณ AOT ราคาดิ่งเป็นโอกาสซื้อสะสม ถือรอกำไรระยะยาว หลังทำผลงานเติบโตต่อเนื่องแถมรับอานิสงส์เข้าช่วงไฮซีซันธุรกิจเชื่อกระตุ้นยอดนักท่องเที่ยวเข้าเพียบส่องเป้าหมาย 490 บาท(ทันหุ้น)
เจาะกลยุทธ์แก้พอร์ต เล็งเป้าหุ้นต่ำพื้นฐาน
+ กูรูส่องดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสรีบาวด์กลับ พร้อมมองดัชนีผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วหลังวานนี้ปรับตัวลงแตะระดับ 1,343.13 จุด วางกลยุทธ์สะสมหุ้นใหญ่ราคาถูก-ยิลด์สูง ชี้เป้า ADVANC, INTUCH, KBANK, BBL ประเมินกรอบลงทุนวันนี้ 1,370-1,450 จุด(ทันหุ้น)
'EA' ปักธงผลงาน Q4/59 เด่น เร่งเครื่องโรงไฟฟ้า 404 MW
+ EA ส่งซิกไตรมาส 4/2559 ฟื้นตัวเด่น หลังพ้นโลว์ซีซัน แถมเตรียม COD โรงไฟฟ้าพลังงานลมภาคใต้ 126 เมกะวัตต์ ดันกำลังผลิตรวมสิ้นปี 2559 แตะ 404 เมกะวัตต์ ผู้บริหาร "อมร ทรัพย์ทวีกุล" ชี้ผลงานปี 2560 หรูหรา เปิดกระเป๋ารับทรัพย์เต็มๆ เดินเครื่องโรงไฟฟ้าเต็มสูบ ฟากโบรกดีดลูกคิดปี 2559 กำไรทะยาน 4 พันล้านบาท โต 50% เคาะราคาไกล 30 บาท(ทันหุ้น)
'HANA'เด้งสวนตลาด จัดหนักปันผลจุใจ 1 บาท
+ HANA ฉายแววเด่น รับบาทอ่อนค่าแรง โบรกชี้รับผลบวกยอดส่งออกพุ่ง ส่องผลงานครึ่งปีหลังสดใส ออเดอร์เรียงคิวเข้าเพียบฟันธงปีหน้ากำไรทะยานต่อ 18.6% อานิสงส์โปรดักต์ใหม่หนุน เชียร์สะสม ชี้เป้าไกล 36.00 บาท ฟากบิ๊ก "ริชาร์ด เดวิด ฮัน" เผยบอร์ดไฟเขียวปันผล 1.00 บาท กำหนด XD รับทรัพย์ช่วง 25 ตุลาคมนี้(ทันหุ้น)
นักวิเคราะห์ :
มงคล พ่วงเภตรา นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
License No: 001937 Tel: 02-648-1123 และทีมวิเคราะห์