- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 11 October 2016 19:42
- Hits: 5083
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today Selection >> GLOBAL, GPSC, PTT
Stock S R Comment
GLOBAL 13.70 14.80 ชง ครม. ขอเงิน 1.9 พันล้าน แจกช่วยเหลือเกษตรกรน้ำท่วม
GPSC 33.25 35.25 ปันผล RPCL หนุนงบไตรมาส 3/59
PTT 331.00 349.00 ราคาน้ำมันขึ้น รัสเซียมีแนวโน้มคงกำลังการผลิต
Not a time to sell
เมื่อวานนี้ SET Index ปรับตัวลงแรงกว่า 40 จุดหลังนักลงทุนกังวลกับปัจจัยภายในประเทศเป็นหลักจนทำให้สินทรัพย์ที่อยู่ในรูปสกุลเงินบาทถูกแรงเทขายอย่างหนัก โดยเฉพาะตราสารหนี้ซึ่งนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิไปกว่า 11,000 ล้านบาท ถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จนทำให้เงินบาทปรับตัวอ่อนค่ามากที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับสกุลเงินอื่นในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน แนะนำจับตาการอ่อนค่าของเงินบาทในช่วงนี้เป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นตัวสะท้อนการไหลออกของ Fund flow ในช่วงสั้นๆได้เป็นอย่างดี
UST Yield : อีกหนึ่งปัจจัยที่น่าเป็นกังวลได้แก่การปรับตัวขึ้นของ Bond yield สหรัฐฯซึ่งล่าสุดรุ่นอายุ 10 ปีอยู่ที่ 1.76% ถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน โดยสาเหตุหลักยังคงได้แก่การ Price in ของนักลงทุนถึงความเป็นไปได้ที่ Fed จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมนี้ ล่าสุดความน่าจะเป็นของเดือนธันวาคมที่สะท้อนผ่าน Fed Funds futures ปรับตัวสูงขึ้นเป็น 67.6% แล้ว ปัจจัยดังกล่าวทำให้ความน่าสนใจของ SET Index ลดลงตามมิติ Earning yield gap จากการคำนวณล่าสุดของเราพบว่าระดับดัชนีที่เหมาะสมตามโมเดลดังกล่าวอยู่เพียง 1500 จุดเท่านั้น
มองที่ระดับดัชนีปัจจุบันไม่ใช่บริเวณของการขายหุ้นแล้ว โดยหลังจากที่เข้าซื้อหุ้นไปส่วนหนึ่งที่บริเวณดัชนี 1460-1480 จุดแล้ว แนะนำถือหุ้นในส่วนดังกล่าวได้ เรายังคงชื่นชอบกลุ่มหุ้นที่อิงกับปัจจัยต่างประเทศเป็นหลัก โดยในส่วนของกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่เลือกกลุ่มพลังงานจากการที่คาดว่าราคาน้ำมันดิบจะยืนเหนือระดับ 50 เหรียญต่อบาร์เรลได้ไปจนกระทั่งการประชุม OPEC วันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ สำหรับกลุ่มหุ้นขนาดกลาง-เล็ก เลือกกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และกลุ่มอาหารซึ่งคาดว่าจะรายงานผลประกอบการไตรมาส 3/59 ที่โดดเด่น ประกอบกับได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากการอ่อนค่าของเงินบาทอีกด้วย
Election : สำหรับปัจจัยบวกอื่นได้แก่ประเด็นการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯซึ่งล่าสุดคะแนนนิยมของนายโดนัลด์ ทรัมป์ (R) เริ่มลดลงตามลำดับ โดยการโต้วาทีครั้งที่ 2 เมื่อวานนี้เป็นทางด้านนางฮิลลารี คลินตันอีกครั้งที่ได้รับคะแนนเสียงโหวตส่วนใหญ่จากผู้ชม (57% ต่อ 34%) นอกจากนั้นผลโพลล่าสุดบ่งชี้ว่านางคลินตันมีคะแนนนิยมนำหน้านายทรัมป์อยู่เกือบ 5% แล้ว ซึ่งตราบใดที่ช่องว่างของคะแนนยังคงห่างกันอยู่เช่นนี้ มองเป็นผลดีต่อภาวะตลาดทุนทั่วโลก
กลยุทธ์การลงทุน : แนะนำถือหุ้นที่ได้เข้าสะสมไปที่บริเวณดัชนี 1460-1480 จุด และถือเงินสดในส่วนที่เหลือเพื่อรอดูสถานการณ์ในช่วงสั้น มองกลุ่มหุ้นที่ปลอดภัยในช่วงนี้ได่แก่กลุ่มที่อิงกับปัจจัยภายนอกเป็นหลัก อาทิ กลุ่มพลังงาน อิเล็กทรอนิกส์ และอาหาร
แนวรับ 1,446 แนวต้าน 1,480
บทวิเคราะห์วันนี้
CPF (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 39 บาท) คาดกำไรเติบโตเด่นในช่วง High Season
SCB (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 169 บาท) คาดกำไร 3Q59 ยังทรงตัวได้แม้ไม่มีรายการพิเศษ
TISCO (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 60 บาท) ธุรกิจตลาดทุนหนุนกำไร 3Q59 เด่นตามคาด
Today's Event
CIG ลูกหุ้นเข้า 17,750 หุ้น
IEC ลูกหุ้นเข้า 31,881,976 หุ้น
LH ลูกหุ้นเข้า 7,474,563 หุ้น
MAJOR ลูกหุ้นเข้า 142,547 หุ้น
PHOL ลูกหุ้นเข้า 40,499,996 หุ้น
TGPRO ลูกหุ้นเข้า 102,045 หุ้น
นักวิเคราะห์ :
ดุลเดช บิค, CFA, FRM, CAIA (ID: 29932) E-mail: [email protected]
ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379) E-mail: [email protected]