- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 06 October 2016 16:51
- Hits: 1226
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ช่วงนี้ยังแนะเลือกหุ้นทยอยซื้อสะสม แล้วเน้นถือเพื่อรอรอบบวกต่อไป
ตลาดหุ้นวานนี้ : แม้ว่า SET จะเริ่มมีแรงขายช่วงบวกกดดัน ทำให้ตลาดแกว่งผันผวนอีกครั้ง หลังวันก่อนหน้ารีบาวด์เป็นบวกได้ค่อนข้างดี ซึ่งก็เป็นการแกว่งพักตัวตามภาวะตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ด้วย แต่ SET ยังมีจังหวะแกว่งทรงตัวได้ และกรอบลบก็ยังค่อนข้างจำกัด ก่อนปิดเป็นบวกเล็กน้อยได้
แนวโน้มตลาดวันนี้ : ถึงแม้ว่าตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ยังปิดเป็นลบ จากความวิตกเกี่ยวกับกระแสคาดการณ์ที่ว่า ECB อาจจะปรับลดวงเงิน QE ในเร็วๆ นี้ และความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจาก Brexit หลังอังกฤษเตรียมที่จะเริ่มดำเนินการเพื่อออกจากสหภาพยุโรปในช่วงต้นปีหน้า แต่ตลาดหุ้นสหรัฐยังปิดบวกได้ดี จากตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือน ก.ย. ที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด และเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย. ด้วย ทำให้นักลงทุนยังมีความหวังว่าเฟดอาจจะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมต้นเดือน พ.ย.นี้ นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกก็ยังฟื้นตัวได้ดีต่อเนื่อง จากการที่ EIA เปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐร่วงลงติดต่อกัน 5 สัปดาห์สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าน่าจะเพิ่มขึ้น ซึ่งหนุนตลาดเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เปิดบวก ทำให้ FSS ยังคาดว่า SET จะกลับไปขยับบวกต่อเนื่องได้ด้วยเช่นกัน
กลยุทธ์ : ยังแนะนำเลือกหุ้นทยอยซื้อสะสมต่อเนื่อง แล้วเน้นถือเพื่อรอรอบบวกต่อไป โดยระดับดัชนีตามพื้นฐานปีนี้เรายังประเมินไว้ที่ 1650 จุด
แนวรับ 1507-1505 , 1502-1498 จุด
แนวต้าน 1515-1517 , 1520-1527 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : LPH , COM7 , AAV(short)
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$86ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าไต้หวัน US$73ล้าน และไทย US$31ล้าน ขณะที่ไหลออกเกาหลีใต้ US$9ล้าน และฟิลิปปินส์ US$7ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคจากตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ซึ่งหนุนการคาดการณ์ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะไม่เกิดขึ้นเร็ว
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(-) การจ้างงานสหรัฐต่ำคาด sentiment เป็นบวกชั่วคราว การจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐเดือน ก.ย. +1.54 แสนตำแหน่ง ต่ำสุดในรอบ 9 เดือนและต่ำกว่าค่าเฉลี่ยปีนี้ที่ 1.81 แสนตำแหน่ง/เดือน และมีการ revised down ตัวเลขเดือน ส.ค. ลง ทำให้ดาวโจนส์บวกกว่า 100 จุด แต่ยังไม่น่าวางใจ ตลาดยังคงจับตาตัวเลขการจ้างงานที่จะประกาศคืนวันศุกร์นี้ รวมถึง Fed Minutes ในสัปดาห์หน้า เพราะจะมีความหมายต่อสัญญาณการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดและทิศทางของ Fund flow ในระยะต่อไป
(+) BEAUTY เราคาดกำไรสุทธิ 3Q16 ทำสถิติใหม่ต่อเนื่อง 148 ล้านบาท +7% Q-Q, +45% Y-Y จากการเปิดสาขาใหม่ 10 อีกเป็น 367 แห่ง การออกสินค้าใหม่ซึ่งทำให้ยอดขายเฉลี่ยต่อสาขาเดิม +25% Y-Y แม้ราคาหุ้นจะปรับขึ้นถึง 506% ใน 4 ปีที่ผ่านมาทำ new high ต่อเนื่อง แต่ก็สอดคล้องกับกำไรที่ทำ new high ทุกปีเช่นกันและโต 230% ในช่วง 4 ปี แม้กำไรจะโตไม่เร็วเท่าราคาหุ้น แต่เชื่อว่ามีตลาดในต่างประเทศให้ BEAUTY ขยายได้อีกมากด้วย Brand ที่ติดตลาดแล้ว ยังคงแนะนำซื้อ ปรับไปใช้ราคาพื้นฐานปีหน้า 11.80 บาท
(-) THCOM เราคาดกำไรปกติ 3Q16 -40.2% Q-Q, -45.1% Y-Y จากการสูญเสียลูกค้า (CTH และ GMMB) ส่วนดาวเทียมไทยคม 8 ยังไม่ถึงจุดคุ้มทุน ขณะที่แนวโน้มของธุรกิจดาวเทียมทั้ง Broadcast และ Broadband น่าห่วงจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปและมีโอกาสสูญเสียลูกค้าสำคัญคือ TOT และ NBN ในอนาคต เราปรับลดกำไรปกติปี 2016-17 ลง 20-35% เป็น -18.4% Y-Y ในปีนี้และ -17.7% Y-Y ปีหน้า ปรับใช้ราคาพื้นฐานปีหน้าที่ 19 บาท ปรับคำแนะนำเป็นขาย จากเดิมถือ
(+) BKD มีโอกาสได้งานปรับปรุงพื้นที่ศูนย์สุขภาพใหม่ของ BDMS ที่ปาร์คนายเลิศที่มีงบปรับปรุงพื้นที่กว่า 2 พันล้านบาท เพราะร.พ.เป็นหนึ่งในความชำนาญของ BKD (ทุกๆ 500 ล้านบาทที่ได้งานเพิ่มขึ้นจากประมาณการ จะเพิ่มมูลค่าหุ้นราว 0.50 บาท/หุ้น) แต่เนื่องจากต้องผ่านการประมูล เราจึงไม่ได้คาดหวังกับงานนี้มากนัก แต่ยังแนะนำซื้อ จากกำไร 2H16 ที่มีแนวโน้มดีกว่าครึ่งปีแรก งานในมือ 2 พันล้านบาทเพียงพอรับรู้เป็นรายได้ไปถึงปีหน้า งานตกแต่งที่บริษัทร่วมประมูลกว่า 1.5 พันล้านบาทมีโอกาสชนะ 50% และ 2017PE ที่ไม่แพง 19 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 25 เท่า ราคาพื้นฐานปีหน้า 4 บาท
(+) ALT ศาลปกครองกลางพิพากษาให้ ALT ชนะและให้คู่สัญญาชดใช้ค่าเสียหายแก่ ALT 13.5 ล้านบาท/เดือนนับตั้งแต่ ก.พ. 2013 รวมถึงปัจจุบันเป็นเงิน 600 ล้านบาท (0.60 บาท/หุ้น) แต่คู่กรณีมีสิทธิอุทธรณ์ใน 30 วัน เราแนะนำซื้อจากพื้นฐานที่เหมาะสม 9 บาทซึ่งไม่ได้รวมข้อพิพาทดังกล่าว
(-) ค่าการกลั่นปรับลงอย่างรวดเร็วเหลือ US$5/บาร์เรลในสัปดาห์นี้ จาก US$7.2/บาร์เรลในสัปดาห์ก่อนเพราะ Supply เพิ่มขึ้นจากโรงกลั่นที่กลับมาเปิดดำเนินการหลังจากปิดซ่อมบำรุงในช่วงก่อนหน้า ประกอบกับราคา SPRC เต็มมูลค่าพื้นฐานปีนี้ที่ 11.5 บาทแล้ว แนะนำขาย ส่วน TOP ราคาหุ้นยังมี upside อีกเล็กน้อย แนะนำเพียงถือ
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
6 ต.ค. - ไทย:ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.ย.)
- สหรัฐ: ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
7 ต.ค. - สหรัฐ:การจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงาน (ก.ย.)
8 ต.ค. - จีน:Caixin China PMI Composite (ก.ย.)
9 ต.ค. - สหรัฐ:การ Debate รอบ 2 ของClinton กับ Trump
10 ต.ค. - ตลาดหุ้นสหรัฐ ญี่ปุ่น ฮ่องกง ไต้หวัน ปิดทำการวันนี้
- จีน:ยอดสินเชื่อรายเดือน (ก.ย.)
- สิงคโปร์: 3Q16 GDP
10-21 ต.ค. - ไทย:กลุ่มธนาคารพาณิชย์ประกาศผลประกอบการ 3Q16
11 ต.ค. - ยูโรโซน: ZEW survey Expectations (ต.ค.)
12 ต.ค. - ยูโรโซน: Industrial Production (ส.ค.)
- สหรัฐ: Fed Meeting Minutes
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดบวก นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันที่บวกกว่า 2% นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยังได้แรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาสดใส
(-) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับนโยบายการเงินของ ECB ที่อาจปรับลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตราการ QE
(+) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เปิดบวก ตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐที่ และ ราคาน้ำมัน
(0) ค่าเงินบาทแกว่งตัวแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ล่าสุดเคลื่อนไหวแถว 34.76-34.82 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ย. ปิดบวก 1.14 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 49.83 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีรายงานจาก EIA ว่าสต๊อคน้ำมันดิบสหรัฐรายสัปดาห์ปรับตัวลดลง 3.0 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล นับเป็นการปรับลดลง 5 สัปดาห์ที่ติดต่อกัน นอกจากนี้ ยังมีกระแสข่าวว่ากลุ่มผู้ผลิตน้ำมันจะมีการประชุมเกี่ยวกับวิธีการปฏิบัติในการจำกัดการผลิตในวันที่ 8-13 ต.ค.นี้
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ลดลง 1.10 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,268.60 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาค่อนข้างดีส่งผลให้ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยลดลง
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch