- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 30 July 2014 17:31
- Hits: 2530
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Selective Buy
ประเด็นสำคัญวันนี้ ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปิดลบเป็นวันที่ 3 อีก 17.58 จุด มาอยู่ที่ 1,520.55 จุด มูลค่าการซื้อขายมากถึง 54,005 ล้านบาท โดยแนวรับ 1,520 จุดยังทำงานได้อย่างแข็งแกร่ง
กระแสเงินทุนต่างชาติกลับลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง ขายสุทธิ 1,784 ล้านบาท Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 2,660 สัญญา โดยนำเงินเข้าพักในตลาดตราสารหนี้ 6,148 ล้านบาท เทียบกับยอดซื้อสุทธิตลอด 21 วันทำการก่อนหน้าสูงถึง 1.79 แสนล้านบาท
SET INDEX ปรับฐานลงตลอด 3 วันทำการที่ผ่านมา 23.37 จุด สู่แนวรับสำคัญ 1,520 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดวานนี้ ขณะที่ปัจจัยแวดล้อมต่อการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ยังคงทรงตัว ภายใต้พัฒนาการทางการเมืองที่เริ่มชัดเจนมากขึ้นต่อการเข้าสู่ระยะที่ 2 ของคสช. ทั้งในแง่ของการจัดตั้ง สนช. การเลือกนายกฯ และครม ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนต่างชาติรอความชัดเจน
ขณะที่สถาบันภายในประเทศ ขายสุทธิ 3,845 ล้านบาท ตลอด 2 วันทำการที่ผ่านมา MBKET เชื่อว่าเป็นการทยอยขายของกองทุน Trigger Funds ที่แตะระดับเป้าหมาย ขณะที่ UOBAM ปิดขายกองทุน Trigger Funds วงเงิน 2.0 พันล้านบาทวานนี้ เป็นสิ่งที่น่าจับตามอง ต่อเม็ดเงินใหม่ที่จะเข้าลงทุน คาดว่าจะเป็นหุ้นขนาดกลางที่มีประเด็นการลงทุนเด่น เมื่อเทียบกับภาพรวมของตลาดหุ้นไทย
ปัจจัยสำคัญวันนี้ ติดตามการประกาศผลงบ 2Q57 ของ SCC ช่วงหลังปิดตลาดเช้า และผลการประชุม เฟดในคืนนี้ Bloomberg consensus คาดเฟดพิจารณาลดวงเงิน QE อีก US$1.0 หมื่นล้าน เป็น US$2.5 หมื่นล้าน/เดือน
มุมมองต่อตลาดหุ้นไทย MBKET คงรักษาภาพของการปรับฐานในรอบนี้ เพื่อการฟื้นตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,550 จุด ซึ่งมีแนวโน้มที่จะทะลุผ่านด่านดังกล่าวในช่วงก่อนกลางเดือนส.ค.
กลยุทธ์การลงทุน MBKET แนะนำให้นักลงทุน “ทยอยสะสมหุ้นขนาดกลางที่มีประเด็นเชิงบวกพิเศษ” เพื่อเก็งกำไรต่อกระแสเงินทุนลงทุนของกองทุนภายในประเทศ
กลยุทธ์การลงทุนช่วงสั้น MBKET แนะนำ “ทยอยสะสม” SIM/ CK
Portfolio
Top Pick in 3Q14: AP/ IFEC / TRUE
HOLD: SCC/ SPALI/ TTA/ SAMART/ SPCG/ BLAND/ IFEC/ BTS/ SIM/ MACO
Accumulative Buy: SIM/ CK
Technical View
แนวรับ 1515 จุด แนวต้าน 1528 / 1535 จุด ถอยลงมาบริเวณแนวรับช่อง GAP น่ามีแรงดีดตัวกลับ
Action and Stock of the Day
SET INDEX ปรับฐานต่อ แต่ยังไม่หลุดแนว 1,520 จุด
MBKET ประเมินการปรับฐานของ SET INDEX รอบ 3 วันทำการ เป็นการปรับฐานเพื่อขึ้นต่อ อย่างไรก็ตาม SET INDEX ไม่ควรปิดต่ำกว่ากรอบแนวรับ 1,515-1,520 จุด เพื่อรักษาภาพการลงทุน “กลางถึงบวก”
ติดตามผลการดำเนินงาน 2Q57 ของ SCC ช่วงปิดตลาดเช้าวันนี้ และการประชุมเฟดในคืนนี้
กลยุทธ์ ทยอยเข้าสะสมหุ้นหลักต่อเนื่อง
ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ปิดบวก เป็นส่วนใหญ่ นำโดย HSKI +0.87% แม้ว่าจะไม่มีประเด็นการลงทุนใหม่รอบเอเชียก็ตาม
สำหรับตลาดหุ้นไทย SET INDEX ยังคงซึมตัวลงต่อเนื่อง จากแรงขายทำกำไรในหุ้นหลักกลุ่มธนาคาร เช่น KBANK, BBL, SCB เป็นต้น บวกกับหุ้นขนาดกลางเริ่มปรับฐาน นำโดย SIRI ที่ประกาศเพิ่มทุน ตามมาด้วยกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง กดดันภาพตลาดหุ้นไทย อย่างไรก็ตาม แนวรับ 1,520 จุด ยังทำงานได้อย่างแข็งแกร่ง ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX อยู่ที่ 1,520.55 จุด ลบเป็นวันที่ 3 อีก 17.58 จุด มูลค่าการซื้อขายหนาแน่นถึง 54,005 ล้านบาท
กลุ่มที่ปิดลบแรงสุดในวานนี้ได้แก่ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง -4.12%, กลุ่มปิโตรเคมี -2.96% และกลุ่ม Professional -2.63% ขณะที่กลุ่มหลัก กลุ่มธนาคาร -1.29%, กลุ่มพลังงาน -0.46% และ กลุ่ม ICT -1.38%
ภาพตลาดหุ้นไทยวันนี้
ตลาดหุ้นเอเชีย (7.38 น.) เช้านี้ Nikkei เปิดลบเล็กน้อย จากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาแย่ต่อเนื่อง ขณะที่ Kospi เปิดบวกเล็กน้อยเช่นกัน
MBKET คงมุมมองการลงทุน “กลางถึงบวก” เป็นวันที่ 6 หลัง SET INDEX ปรับฐานลงตลอด 3 วันทำการที่ผ่านมา ราว 23 จุด ปิดบริเวณแนวรับสำคัญ 1,520.55 จุดวานนี้ โดย MBKET คงภาพของการปรับฐานเพื่อขึ้นต่อเช่นเดิม เพื่อทดสอบแนว 1,545-1,550 จุด ในช่วงกลางเดือนส.ค. ด้วยปัจจัยที่สนับสนุนได้แก่
•คาดแรงขายจากกองทุนภายในประเทศ โดยเฉพาะกองทุน Trigger Funds น่าจะสิ้นสุดลงในวานนี้
•คาดเม็ดเงินใหม่ จากกองทุน Trigger Fund ของ UOBAM ที่ปิดการขายวานนี้ วงเงิน 2.0 พันล้านบาท เงินทุนใหม่น่าจะเข้าสู่ตลาดหุ้นไทย 1-2 วันนี้ ทั้งนี้ MBKET คาดหุ้นขนาดกลางที่มีประเด็นการลงทุนเด่น เป็นทางเลือกของกองทุน Trigger Fund ในรอบนี้
•ต่างชาติขายสุทธิ 1,784 ล้านบาท วานนี้ อาจยังไม่ใช่สัญญาณของเงินทุนต่างชาติไหลออก และหากประเมินจากยอดขายสุทธิ YTD ต่อตลาดหุ้นไทย ยังคงอยู่ในระดับสูงถึง 24,502 ล้านบาท ทำให้ แรงกดดันดังกล่าว ยังคงมีน้ำหนักไม่มากนัก ในมุมมองของ MBKET
•ติดตามการประกาศผลการดำเนินงาน และเงินปันผลระหว่างกาลของ SCC ประกาศ วันนี้ หลังตลาดหุ้นไทยปิดรอบเช้า ตลาดประเมินกำไรสุทธิไว้ราว 8.5-8.7 พันล้านบาท
อีกทั้งพัฒนาการทางการเมือง และการฟื้นตัวจากภาคเศรษฐกิจภายในประเทศ เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยจำกัด Downside ของ SET INDEX ซึ่งประเด็นดังกล่าวได้แก่
•การประกาศรายชื่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช) คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์นี้ เพื่อเปิดทางให้มีการนำเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี และ ครม โดย คสช.ตั้งเป้าเปิดประชุม สนช.เพื่อแต่งตั้งนายกฯ ได้ไม่เกินวันที่ 10 ส.ค.
•กำหนดให้เตรียมคำแถลงนโยบายรัฐบาล และงบประมาณต่อ สนช.ให้เสร็จภายในวันที่ 15 ส.ค.นี้ ซึ่งเท่ากับเป็นการเริ่มเข้าสู่ Roadmap ระยะที่ 2 ของคสช.แบบเต็มตัว
•รายละเอียด Roadmap ในด้านต่างๆ ที่คณะทำงานได้รับมอบนโยบายจากทาง คสช. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แผนด้านเศรษฐกิจ ซึ่งคาดว่าจะเห็นกรอบการทำงานภายในเดือนส.ค. พร้อมสรุปผลงานทุกๆ ไตรมาส
•แผนการลงทุน 2.4 ล้านล้านบาท คสช.อนุมัติในหลักการวานนี้ ลำดับถัดไป สนข ต้องเร่งจัดทำรายละเอียดของแผนการลงทุนทั้ง 5 ส่วนที่นำเสนอ
•ภาพรวมเศรษฐกิจที่ส่งสัญญาณฟื้นตัวเด่นใน 2H57 รวมถึงแรงเก็งกำไรต่อผลการดำเนินงานใน 2Q57 ที่เริ่มทยอยประกาศอย่างต่อเนื่องในขณะนี้
ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ MBKET คงคำแนะนำ “นักลงทุนทยอยสะสมหุ้นหลัก โดยเฉพาะหุ้นขนาดกลาง” เพื่อรอขายทำกำไรบางส่วน 1,550 จุด +/- และ 1,580-1,600 จุด ทั้งนี้หุ้นที่คาดผลการดำเนินงาน 2Q57 เติบโต โดดเด่น yoy และ qoq ได้แก่ SAMART, SIM, SPCG, KCE, TUF, GFPT, PTTEP, HMPRO อาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจระยะ 2-3 สัปดาห์จากนี้
ปัจจัยสำคัญวันนี้
1.ติดตามผลการดำเนินงาน SCC ประกาศหลังปิดตลาดหุ้นไทยช่วงเช้า: ทั้งนี้ MBKET ประเมินกำไรใน 2Q57 ไว้ที่ 8.7 พันล้านบาท
•หากออกมาดีกว่าคาด หรือแตะระดับ 9.0 พันล้านบาท อาจเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อ SCC และภาวะการลงทุนในรอบบ่ายวันนี้
•แต่หากออกมาใกล้เคียงหรือต่ำกว่าที่คาดการณ์ อาจกดดันราคาหุ้น SCC และภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทยรอบบ่ายวันนี้ได้เช่นกัน แต่ผลกระทบอาจจำกัด
2.ติดตามการประชุมเฟดคืนนี้: ทั้งนี้ Bloomberg Consensus คาด เฟดจะพิจารณาลดวงเงิน QE ลงอีก US$1.0 หมื่นล้าน เป็น US$2.5 หมื่นล้าน/เดือน แต่ประเด็นสำคัญของการประชุมในนัดนี้คือ ความเห็นต่อภาพรวมเศรษฐกิจ / การจ้างงาน / อัตราเงินเฟ้อ โดยรวมของสหรัฐฯ ว่าพร้อมที่จะมีการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินในปีหน้า หรือไม่ เพราะถือเป็นประเด็นสำคัญต่อภาวะการลงทุนในสหรัฐฯ และ Sentiment ของการลงทุนตลาดหุ้นทั่วโลก
3.คาดเม็ดเงินใหม่จากกองทุน Trigger Fund เตรียมเข้า: กองทุน Trigger Fund ของ UOBAM วงเงิน 2.0 พันล้านบาท ซึ่งปิดการขายในวานนี้ MBKET คาดว่าเม็ดเงินใหม่ดังกล่าวจะเริ่มเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยใน 1-2 วันนี้ จะเป็นตัวแปรที่ช่วยจำกัด Downside risk ของ SET INDEX
4.ยืนยันกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง / วัสดุก่อสร้าง ยังน่าสนใจ: หลัง คสช. อนุมัติแผนการลงทุน 2.4 ล้านล้านบาท เพื่อยกระดับการคมนาคมของประเทศ ในช่วงเวลา 8 ปี จากนี้ไป เพียงแต่ คสช. ได้ส่งเรื่องให้ สนข ไปทำแผนรายละเอียดในแต่ละส่วน รวมทั้งหมด 5 ส่วนการลงทุน
MBKET ให้ความเห็นเป็นบวกต่อความคืบหน้าดังกล่าว และเป็นการยืนยันถึงแผนการลงทุนขนาดใหญ่ของประเทศจากนี้ไปตลอด 8 ปีข้างหน้า ย่อมเป็นบวกต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง (STEC / CK), กลุ่มธนาคาร (KTB), กลุ่มวัสดุก่อสร้าง (SCC / TPIPL/ TASCO) รวมไปถึงหุ้นที่เกี่ยวข้อง เช่น BTS/ BMCL / BECL ที่เกี่ยวข้องกับ การลงทุนโครงการรถไฟฟ้า, รถไฟใต้ดิน และทางด่วน มอเตอร์เวย์
วานนี้ วันก่อนหน้า
PER14 PER15 PER14 PER15
SET INDEX 15.03 13.09 15.18 13.24
PSE Closed Closed 19.28 16.70
JSE Closed Closed Closed Closed
KOSPI 10.55 9.19 10.48 9.13
TAIEX 15.36 14.04 15.45 14.10
Straits Time 14.81 13.56 Closed Closed
SHCOMP 8.67 7.68 8.65 7.66
ที่มา: Bloomberg
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ “ทยอยสะสม” ได้แก่
1.SIM : ราคาปิด 3.32 บาท ราคาเหมาะสม 4.60 บาท
a)MBKET คาดการณ์กำไรสุทธิ 2Q57 ที่ 293 ล้านบาท เติบโต +65.5% yoy และ +49.0% qoq ทำระดับสูงสุดใหม่ของบริษัท จากแรงหนุนของยอดขายโทรศัพท์ Digital TV และ Smartphone ที่ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเข้าสู่เทคโนโลยี 3G
b)หากกำไร 2Q57 ออกมาใกล้กับที่คาด จะส่งผลให้กำไร 1H57 คิดเป็น 45.8% ของประมาณการทั้งปี ดังนั้น เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2557 ที่ 1,046 ล้านบาท +24.8% yoy และคาดว่ากำไร 2H57 จะดีขึ้นกว่า 1H57 ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
c)ราคาหุ้นมี Valuation ที่ยังไม่แพง โดยซื้อขายระดับ PER 2557 เพียง 13.8 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มสื่อสารที่ราว 15-16 เท่า
d)และคาดว่าราคาหุ้นมีแนวโน้มตอบรับเชิงบวก โดยคาดว่า SAMART จะซื้อหุ้น SIM ทั้งจำนวนจาก Axiata ภายในสัปดาห์นี้ และส่งผลให้ราคาหุ้นกลับมาสะท้อนปัจจัยพื้นฐานอีกครั้ง
2.CK : ราคาปิด 25.00 บาท ราคาเหมาะสม 31.00 บาท
a)ราคาหุ้นวานนี้ปรับตัวลง -6.5% จากแรงขายทำกำไรระยะสั้น หลัง คสช.อนุมัติแผนยุทธศาสตร์โครงสร้างพื้นฐานของไทยระยะเวลา 8 ปี (พ.ศ.2558 – 2565) โดยมี 5 แผนงานหลักวงเงิน 2.4 ล้านล้านบาท
b)MBKET เชื่อว่าเป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง สำหรับภาพการลงทุนระยะกลางขึ้นไป เนื่องจากเชื่อว่าธุรกิจจะเข้าสู่วงจรขาขึ้นจากการประมูลงานขนาดใหญ่ของภาครัฐฯที่จะเข้าสู่ระบบต่อเนื่องตั้งแต่ 4Q57 เป็นต้นไป
c)โดยคาดว่าจะเห็นการเปิดประมูลโครงการใน 4Q57 และปี 2558 คือ
รถไฟฟ้ารางคู่ ฉะเชิงเทรา – แก่งคอย วงเงิน 11,348 ล้านบาท, เส้นทางจิระ – ขอนแก่น วงเงิน 2.6 หมื่นล้านบาท, เส้นทางลพบุรี – ปากน้ำโพ 24,000 ล้านบาท
รถไฟฟ้าขนส่งมวลชน คือ สายสีเขียวเข้ม หมอชิต – คูคต 4.8 หมื่นล้านบาท และรถไฟฟ้าสายสีชมพูด 5.8 หมื่นล้านบาท, สายสีส้ม 1.1 แสนล้านบาท และสายสีเหลือง 4.6 หมื่นล้านบาท
d)เราให้ CK เป็น Top pick ของกลุ่ม เนื่องจากเป็นผู้นำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และปัจจุบันมี Backlog สูงถึง 1.3 แสนล้านบาทรองรับการเติบโตได้อีก 4-5 ปีข้างหน้า และเงินลงทุนในบริษัทลูก คือ BECL, BMCL, CKP และ TTW ปัจจุบันคิดเป็น NAV ราว 18 บาทต่อหุ้น และเชื่อว่าจะส่งผลให้ CK มีโอกาสสูงที่จะได้รับงานรับเหมาก่อสร้างหากเป็นโครงการที่เกี่ยวข้องกับบริษัทลูก เช่น ทางด่วน, รถไฟฟ้า ฯลฯ
e)ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายระดับ PBV 2558 ที่ 2.3 เท่า ต่ำกว่า STEC ที่ 4.1 เท่า ชี้ให้เห็นว่าในแง่ Valuation แล้ว CK มีความน่าสนใจมากกว่า
What will DJIA move tonight? คืนนี้มีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจ ได้แก่ ภาวะการจ้างงานภาคเอกชน และการประชุมเฟดคืนสุดท้าย
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
เงินทุนต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 อีก US$266 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$110 ล้าน
ตลาดหุ้น วานนี้(US$ ล้าน) วันก่อนหน้า(US$ ล้าน) YTD 2557(US$ ล้าน) 2556(US$ ล้าน)
TAIEX 269.4 99.4 11,435.8 9,188.0
KOSPI 50.2 n.a 5,957.3 4,875.1
JSE Closed Closed 4,955.4 -1,806.4
PSE Closed 4.7 1,015.7 678.4
ตลาดหุ้นเวียดนาม 1.9 1.3 301.1 263.2
SET INDEX -56.1 4.6 -734.1 -6,210.5
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติเริ่มขายตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง
วานนี้ วันก่อนหน้า
ตลาดหุ้น (ล้านบาท) -1,784 +147
SET50 Index Futures (สัญญา) -2,660 +1,578
SSF (สัญญา) +1,318 +91
Metal Futures (สัญญา) +116 +92
ตลาดตราสารหนี้ (ล้านบาท) +6,148 -242
นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิอีกครั้ง 1,784 ล้านบาท ทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิขยับขึ้นเป็น 24,502 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Short สุทธิเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 2,660 สัญญา เทียบกับตลอด 2 วันทำการก่อนหน้า Long สุทธิ 3,054 สัญญา คาดว่าเป็นการปิดสถานะ Long เมื่อ S50U14 ปิดต่ำกว่า SET50 Index แคบลงเหลือ 5.23 จุด จากวันก่อนหน้า Discount 6.97 จุด
Metal Futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Long สุทธิเป็นวันที่ 2 อีก 116 สัญญา รวม 2 วันทำการ Long สุทธิ 208 สัญญา เทียบกับตลอด 5 วันทำการก่อนหน้า Short สุทธิ 2,338 สัญญา และ 2 วันทำการก่อนที่ Long สุทธิ 1,356 สัญญา น่าจะเป็นการทยอยเปิดสถานะ Long แต่ก็เพียงเล็กน้อย เมื่อราคาทองคำในตลาดโลกยืนเหนือ US$1,300 นับตั้งแต่คืนวันศุกร์ที่ผ่านมาก็ตาม
ด้านตลาดตราสารหนี้ไทย นักลงทุนกลุ่มนี้ได้กลับมาซื้อสุทธิอีกครั้ง 6,148 ล้านบาท คาดว่าเป็นการนำเงินทุนเข้าพักในตลาดตราสารหนี้ อีกทั้งราคาพันธบัตรรัฐบาลไทยปรับตัวลงเล็กน้อย ผ่านผลตอบแทนเพิ่มขึ้น 0.37bps ปิดที่ 3.643%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling เพิ่มขึ้นเป็น 716 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 411 ล้านบาท
Stock Total Value(mn Bt) % of trading Volume Avg.Price(Bt)
CK 111.96 3.52% 25.85
SCB 108.37 12.42% 177.28
ITD 101.20 6.50% 5.53
KBANK 60.18 3.05% 207.16
SIRI 33.50 2.07% 2.13
NVDR กลับเป็นการขายสุทธิวันแรกในรอบ 26 วันทำการ เน้นลดน้ำหนักกลุ่มธนาคาร และ ICT
การซื้อขายผ่าน NVDR วานนี้กลับมาเป็นการขายสุทธิครั้งแรกในรอบ 26 วันทำการ 112 ล้านบาท เทียบกับตลอด 5 วันทำการที่ผ่านมา ซื้อสุทธิ 39,705 ล้านบาท ถือเป็นการขายสุทธิเพียงเล็กน้อย และเป็นการปรับน้ำหนักระหว่างกลุ่มอุตฯ ที่สำคัญ เท่านั้น สรุปได้ดังต่อไปนี้
1.กลุ่มธนาคารถูกขายสูงสุดอีกครั้ง 565 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 590 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่ม ICT ขายสุทธิ 168 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 593 ล้านบาท และกลุ่มอสังหาฯ ขายสุทธิ 95 ล้านบาท
2.ด้านกลุ่มพลังงาน ถูกซื้อสุทธิสูงสุด 432 ล้านบาท ใกล้เคียงกับวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 443 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ซื้อสุทธิ 152 ล้านบาท
ซื้อสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการซื้อขาย ขายสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการขาย
PTT 305.48 12.50 KBANK -558.62 19.59
SCC 140.72 37.28 INTUCH -188.40 13.80
ADVANC 89.31 4.54 SIRI -114.69 5.16
PTTEP 70.92 18.75 THCOM -77.42 14.84
TRUE 48.08 5.97 TMB -42.67 4.32
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA
Strategist / Analyst
662-6586300 x 1440
Padon Vannarat
Equity Analyst
662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham
Assistant Analyst
662-6586300 x 1530
Twitter Channel
http://twitter.com/YipNgenYipTong