WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

CSG copyบล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

ตลาดหุ้นไทยวานนี้'เพื่อนบ้านกดดัน'
  ตลาดหุ้นไทยได้รับแรงกดดันจากความกังวลต่อปัญหาจากทางดอยช์แบงก์ที่ถูกกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯเรียกค่าปรับกว่า 1.4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ แม้ว่าจะมีปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบที่ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นได้หลังจากที่ประชุมระหว่างกลุ่ม Opec กับกลุ่ม Nonopec มีมติเบื้องต้นว่าจะลดกำลังการผลิตลงก็ตาม ปิดตลาดดัชนีปรับตัวลดลง 8.22 จุด (-0.55%) ด้วยปริมาณการซื้อขายที่ 39,986.91 ล้านบาท และรวมทั้งสัปดาห์ (26-30 ก.ย.) ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลง 9.67 จุด (-0.64%)

ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
  (+) ปัญหาธนาคาร Deutsche คลี่คลายดีขึ้น หลังตัวเลขค่าปรับที่ต้องจ่ายให้แก่ทางการสหรัฐกรณีเป็นต้นเหตุให้เกิด Hamberger Crisis ลดลงเหลือ 5.4พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ (เดิมคาดสูง 1.4หมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐ)
  (+) การบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นในการลดโควต้าการผลิดน้ำมันลง 3.5% ของ OPEC ในการประชุมเมื่อเดือน ก.ย. ทำให้ราคาน้ำมันดิบ WTI สัปดาห์ก่อนดีดตัวขึ้นถึง 8%WoW มาปิดที่ 48.24 US/Barrel
  (+) สคร. เร่งให้รัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายงบลงทุนให้ได้ 6 หมื่นลบ. ภายในสิ้นปี 59 และตลอดปีงบประมาณ 60 3.4 แสนล้านบาท (1 ต.ค.59-30 ก.ย.60)
  (+) มีนโยบายการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า(อีวี) โดยยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 ปี สำหรับการลงทุนประกอบรถยนต์ในประเทศ และยกเว้นภาษีสำหรับการผลิตชิ้นส่วนสำคัญ 6 รายการ (แบตเตอรี่, มอเตอร์, แอร์ ฯลฯ) รายการละ 1 ปี สูงสุดไม่เกิน 5 ปี
  (+) Comdity ที่แนวโน้มราคาปรับตัวดีได้แก่ ถ่านหิน (New Castle Coal) +7%WoW มาปิดที่ 78.45 US/ton (บวกต่อ BANPU, LANNA)
  (-) สัปดาห์ก่อนนักลงทุนต่างขาติพลิกมาขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 2.7 พันลบ. อย่างไรก็ตามตลอดเดือน ก.ย. ยังคงเป็น Net Buy อยู่ 1.7 หมื่นลบ.
  (-) ตัวเลขเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่รายงานออกมาในช่วงวันศุกร์ที่แล้ว ทั้งอัตราการว่างงาน เดือน ส.ค. ที่ระดับ 3.1% และอัตราเงินเฟ้อเดือน ส.ค. -0.5% ถือว่าอ่อนแอกว่าที่นักวิเคราะห์ในตลาดคาดไว้เล็กน้อย
  (+/-) เทศกาลกินเจปีนี้ (30 ก.ย.-9 ต.ค.) ม.หอการค้าคาดเม็ดเงินสะพัด 4 หมื่นลบ. หรือขยายตัว 4.2% สูงสุดในรอบ 3 ปี
  (+/-) ซุปเปอร์บอร์ดเตรียมจะพิจารณาแผนฟื้นฟูของ 7 รัฐวิสาหกิจ แต่จะตั้งบรรษัทเพื่อคุม 12 รัฐวิสาหกิจภายใน 2H60

ปัจจัยที่ต้องติดตาม
  การประชุม OPEC ครั้งต่อไปในช่วง 30 พ.ย. ณ.กรุงเวียนนา ออสเตรีย
  รายงานตัวเลข PMI ภาคการผลิตสหรัฐ (3 ต.ค.), ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคญี่ปุ่น (4 ต.ค.), อัตราการว่างงานเดือน ก.ย. ของสหรัฐ รวมทั้งตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ (7 ต.ค.)

กลยุทธ์การลงทุน “เน้น Commodity”
  ประเมินดัชนีมีแนวโน้มแกว่งตัวออกข้าง เรามองโมเมนตัมบวกของการที่กลุ่ม OPEC เตรียมลดกำลังผลิตลงจะยังหนุนตลาดแม้ว่าจะมีแรงขายทำกำไรสัญญาน้ำมันดิบออกบ้างในช่วงเช้า แต่เรายังมองราคาน้ำมันมีแนวโน้มปรับตัวบวกในระยะกลาง อีกทั้ง ความกังวลต่อธนาคาร ดอยซ์แบงก์ เริ่มลดลง เรายังคงมองว่าตลาดจะยังยืนได้เหนือแนวรับ 1,480 จุด ยังคงแนะนำ เน้นกลุ่มพลังงาน และแนะนำเก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยเด่นเฉพาะตัว เช่นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากราคาถ่านหิน และ ราคาน้ำตาลที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น

หุ้นเด่นประเด็นร้อน
KSL เก็งกำไร
  ลุ้นบันทึกรายการพิเศษเข้ามาในงวด 4Q59 หลังศาลตัดสินให้ได้เงินคืนจากหน่วยงานรัฐ โดยฟ้องเรียกค่าชดเชย 68 ล้านบาท
ราคาน้ำตาลในตลาดโลกยังทรงตัวในระดับสูงได้ต่อเนื่อง
  คาดผลประกอบการปี 60 จะเห็นผลดีของราคาน้ำตาลที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยจะเข้าช่วง High Season ใน 1H60

PTTEP เก็งกำไร
  กลุ่ม OPEC เตรียมลดการผลิตราว 2-7 แสนบาร์เรล ต่อวันเพื่อพยุงราคาน้ำมันจากที่ปัจจุบันตลาดอยู่ในภาวะอุปทานล้นตลาด
คาดผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดของผลประกอบการในช่วง 2Q59 โดยในช่วง 2H59 จะได้ปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบที่สูงกว่า 1H59
ตลาดน้ำมันดิบเริ่มปรับตัวเข้าสู่สมดุลมากขึ้นหลังจากที่ผู้ผลิตราย ใหญ่หั่นงบลงทุน และผู้ผลิตต้นทุนสูงลดการผลิต

ทีมวิเคราะห์

 

BSP

 

adsoptimal100

paidtoclick copy

 

  

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!